สาธุ....สุดยอดอย่างที่สุด อุ๋ย บูดาเบลส อัดคลิปสั่งเสียก่อนตาย นี่แหละชาวพุทธของจริง ฟังแล้วตื้นตัน และอิ่มใจ(มีคลิป)

ในเฟสบุคของอุ๋ย บุดดาเบลส หรือ Natee Ekwijit ได้ทำสิ่งที่ฮือฮาและเป็นสุดยอดในทางธรรมกับการอัดคลิปสั่งเสียก่อนตาย ซึ่งคงไม่มีใครกล้าทำอย่างอุ๋ย บูดาเบลสแน่โดยเฉพาะกับวิธีคิดของเค้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยหลักธรรมในพระพุทธศาสนา และคลิปดังกล่าวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในงานเสวนาของพระไพศาลวิสาโล  Happy Death day Talk about Death ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ในระหว่างวันที่10-11มิย.นี้
 

 เพื่อให้ทุกคนได้เผชิญความตายให้เป็นสุข ไม่ให้มีจิตที่หดหู่ก่อนตาย อุ๋ย บูดาเบลสได้เปิดเผยไว้ในคลิปสั่งเสียว่าได้มีโอกาสคุยกับคนในครอบครัวบนโต๊ะกินข้าวถึงการเตรียมตัวตาย ว่าถ้าคนในบ้านตาย จะทำอย่างไรกับศพ เพราะวันหนึ่งทุกคนก็ต้องตาย ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน ชาวพุทธหลายคนจะเข้าใจในคำว่ามรณานุสติคือคนตายได้เสมอ ตายเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีใครรู้วันตาย เหตุที่คุยเพราะ เวลาคนในครอบครัวเกิดเป็นอะไรขึ้นมากะทันหัน จะทำอย่างไร หากสมองตาย หัวใจยังเต้นอยู่จะถอดสาย ไม่ถอดสาย คนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นผักเค้าพูดไม่ได้ บางคนก็อาจบอกว่าอยู่ไปก็ทรมาน ดึงสายออกเถอะ ให้ตนไปสบายเถอะ ก็เลยถามพ่อ ถามแม่ไว้ก่อนในวันที่คุยกัน ว่าวันหนึ่งหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา พ่อ-แม่อยากให้ทำอย่างไร ให้บอกไว้ก่อนได้เลย จะได้ทำตามที่ต้องการ เพราะก็ไม่มีใครรู้ว่าใครจะไปก่อนกัน   และสำหรับตนหากตายตั้งใจไว้ว่าจะบริจาคร่างกาย และบริจาคอวัยวะ ซึ่งผมมองว่ามันโคตรเจ๋งเลย คือเราตายอวัยวะเราไม่ใช้แล้ว แต่หากสามารถนำเอาอวัยวะไปปลูกถ่ายใส่คนอื่นได้  คนที่เค้ากำลังรอ และต้องการอวัยวะ มันจะเป็นประโยชน์มากๆ 

ส่วนศพ จะไปบริจาคเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นศ.แพทย์ได้เรียน ก็ไม่ทราบว่าจะขาดแคลนเหมือนสมัยก่อนหรือไม่ ซึ่งการบริจาคประเภทนี้ถือเป็นการบริจาคเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่สำหรับอุ๋ย บูดาเบลส มีความคิดว่า"สำหรับผมๆมีไอเดียว่าผมจะบริจาคเพื่อการเรียนอีกแบบ คือเป็นการเรียนทางธรรม ในพระไตรปิฎกจะมีระบุไว้ ซึ่งมีประโยชน์มาก ผมอยากบริจาคร่างเพื่อไว้เรียนทางธรรม ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก หลักแห่งศาสนาพุทธ เพื่อให้คนได้พิจารณาถึงซากศพความตาย และความเป็นจริงทางธรรมชาติ เค้าเรียกว่าอสุภกรรมฐาน(หมายถึงการบำเพ็ญกรรมฐานโดยการพิจารณาอสุภะหรือพิจารณาร่างกายของตนหรือของผู้อื่นว่าเป็นของไม่งาม ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น แต่เป็นของน่าเกลียดโสโครก เช่นพิจารณาซากศพที่นอนให้เขารดน้ำก่อนใส่โลง ก่อนเผาหรือฝัง มองดูจนกระทั่งเกิดนิมิตติดตาแล้วกลับมานั่งนึกพิจารณาให้เห็นนิมิตนั้น จนเจนใจเหมือนเห็นศพจริง ภาวนาไปจนเกิดปัญญาเห็นแจ้งถึงไตรลักษณ์ )จะได้ไว้เพ่งพินิจพิจารณา ความไม่สวยไม่งามของร่างกาย สมัยก่อนเวลาคนตายก็จะอยู่ตามป่าช้า บางคนไม่มีคนทำศพ เค้าก็วางทิ้งไว้ก็บวมอืดอยู่บนพื้นดิน แต่สมัยนี้หายากที่จะเป็นแบบนั้น มีการเผา มีการฝัง เพราะฉะนั้นก็ไม่มีการได้พิจารณาซากศพ ให้เห็นความเป็นจริงตามธรรมชาติ การยืนเพ่งศพถือเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่งในศาสนาพุทธ พวกที่มีราคะจริต หลงใหลในเซ็กส์ ติดในรูปความสวยความงามมากๆ ให้มองความจริงที่ไม่สวยงามคืออสุภกรรมฐาน ทางพุทธอธิบายไว้ ผมอยากบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาในทางธรรม ให้คนมาดูวางเอาไว้ แล้วเอาตู้กระจกครอบ คนที่มาดูจะได้เห็นและพิจารณาถึงร่างกายที่ค่อยๆบวมอืดจนขยายและแตกจนนำ้หนองไหลเยิ้มและมีหนอน ไม่มีให้พิจารณา เป็นการศึกษาอย่างหนึ่งในทางธรรมนอกเหนือไปจากการศึกษาทางการแพทย์ที่เป็นอจ.ใหญ่ และแม่ผม พี่สาวผมเข้าใจวิธีคิดผม และเรื่องนี้จะถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าทำไม่ได้วุ่นวาย ขอให้เผาแบบเชิงตะกอน คือให้เผาเห็นศพโดนไฟไหม้จนร่างสลายและกลายเป็นเถ้ากระดูก เพื่อให้คนที่ดูได้พิจารณาให้เห็นในแก่นแท้ และสุดท้ายของชีวิต ว่าวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นแบบนี้ อย่าได้หลงใหลในรูป ในตัวตนมาก เพราะวันหนึ่งก็ต้องจากไป (มีคลิปทั้งหมด)

 

ขอบคุณ :วิกิพีเดียกับความหมายอสุภกรรมฐาน และขอบคุณข้อมูลจากเฟสบุค Natee Ekwijit