รายการทีนิวส์สด ลึก จริงวันนี้(19 มิ.ย.60)นำเสนอรายงานข่าวต่างประเทศสหรัฐฯ เดินหน้าคว่ำบาตร จีน – รัสเซีย– อิหร่าน

       เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แจ้งให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนทราบว่า ทางการสหรัฐฯจะประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนที่มีความสัมพันธ์กับการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หากรัฐบาลจีนไม่ให้ความร่วมมือในการจัดการกับบริษัทเหล่านี้ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยื่นรายชื่อบริษัทให้กับรัฐบาลจีน โดยเป็นรายชื่อบริษัทที่สหรัฐฯเชื่อว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเข้ามาจัดการ

    ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯและชาติพันธมิตรในภูมิภาค วิจารณ์รัฐบาลจีนมาโดยตลอดว่า จีนไม่ยอมใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจของตนเพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ ยังมองว่า ความร่วมมือจากรัฐบาลจีนในการยกระดับการกดดันเกาหลีเหนือยังไม่เพียงพอ โดยชี้ว่าอยู่ในระดับที่สังเกตเห็นได้ชัด แต่ยังไม่สม่ำเสมอ

    จีน มีปริมาณการค้าของเกาหลีเหนือ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% และเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ของเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐฯ และชาติอื่นๆมองว่า รัฐบาลจีน ยังไม่ยอมใช้อิทธิพลของตนในการกดดันเกาหลีเหนือ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

    สหรัฐฯ เปิดหน้าชกกับจีนโดยตรง งานนี้รับรองได้ว่ามีพังกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ มีหรือคนอย่างสี จิ้นผิง จะยอมก้มหัวให้กับโดนัลด์ทรัมป์

    นอกจากจีนแล้วทางด้านรัสเซีย ก็โดนด้วยเช่นกันโดย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย วิพากษ์วิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ที่เห็นชอบโดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า “ไม่มีที่มาที่ไป” และมีแรงจูงใจมาจากการเมืองภายในประเทศและความพยายามของตะวันตกที่จะตีกรอบรัสเซีย
]
    วุฒิสภาสหรัฐฯโหวตเห็นชอบการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากการก้าวก่ายการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา  กฎหมายนี้ยังจะห้ามไม่ให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรชุดเดิมที่ถูกบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2014 จากกการที่รัสเซียควบรวมไครเมียและก้าวก่ายยูเครน แต่ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า  ไครเมียเป็นข้ออ้างเดียวสำหรับตะวันตกในการโจมตีคู่แข่งทางเศรษฐกิจ

    รัสเซียบังคับใช้มาตรการตอบโต้จ่อประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ ขัดขวางการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นๆ มาตรการเหล่านี้จะถูกยกเลิกหากการคว่ำบาตรถูกยุติ

    นอกจากนั้นยังมีการลงโทษประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ฐานยุ่งเกี่ยวแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้งทำให้ยากลำบากมากขึ้นสำหรับทำเนียบขาว ในการที่จะผ่อนคลายการคว่ำบาตร

    ผู้นำหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้ข้อสรุปว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังแผนการบ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการจารกรรมและการโจมตีไซเบอร์ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งส่งผลดีต่อนายโดนัลด์ทรัมป์ นายชัค ชูเมอร์ส.ว.แกนนำพรรคเดโมแครต กล่าวก่อนการลงมติ ว่า วุฒิสภาไม่เพียงแต่จะอนุมัติการคว่ำบาตรเข้มข้นครั้งใหม่ เพื่อลงโทษรัสเซียที่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐ แต่ยังทำให้มาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่กลายเป็นกฎหมาย เพื่อทำให้ยากมากขึ้นในการยกเลิก และจะทำให้สภาคองเกรส ไม่ใช่ประธานาธิบดี เป็นผู้ตัดสินชี้ขาดสุดท้ายในการผ่อนคลายคว่ำบาตรเมื่อจำเป็น
มาตรการใหม่จะกำหนดให้สภาคองเกรสเป็นผู้อนุมัติ การผ่อนคลาย ระงับ หรือยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย

    นอกจากนั้นยังมีอิหร่าน ที่เจอมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งผ่านการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 98 ต่อ 2 มีเป้าหมายเพื่อให้อิหร่านชดใช้ จากการ สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง อีกด้วย