ยุทธวิธีการต่อสู้ !?!? เปิดข้อมูล "วัฒนามือบึ้ม" ปฏิบัติการณ์อย่างใจเย็นไม่ลุกลี้ลุกลน ...กับความสัมพันธ์กับกลุ่มองค์การสหพันธ์รัฐไท (มีคลิป)

หลังจากการจับกุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาในคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้เกิดกระแสด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคม นั่นคือการพยายามที่จะสร้างภาพให้เห็นว่านายวัฒนา ได้ลงมือก่อเหตุกระทำการวางระเบิดเพียงคนเดียว

ถึงขนาดยกทฤษฎี lone wolf หรือหมาป่าเดียวดาย คือการลงมือทำเองคนเดียว ไม่ขึ้นกับองค์กรใหญ่ พุ่งเป้าหมาย ที่อ่อนแอ ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ นำมาเปรียบเทียบกับนายวัฒนา และเรื่องนี้ถือเป็นนัยยะสำคัญในการต่อสู้การกระทำอย่างนี้เพราะต้องการให้เกิดภาพว่ามีความไม่พอใจรัฐบาลจากประชาชนเกิดขึ้นเอง จึงเกิดภาพการต่อต้านขึ้นมา ถือเป็นอันตรายเพราะต้องการสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความเชื่อม โยงต่างๆนาๆ แต่โดยข้อเท็จจริงไม่ใช่
แต่เมื่อดูจากคำรับสารภาพและพฤติกรรมการก่อเหตุของนายวัฒนา ท่ีได้เริ่มเตรียมการเมื่อเดือน เม.ย. ด้วยการ ได้มาดูลาดเลาหลายครั้ง  

จากนั้นก็ไปเตรียมการประกอบระเบิดด้วยการไปซื้อไทม์เมอร์ จากบ้านหม้อ และดินระเบิด จากร้านขายพลุ แถวพระราม7 และซื้อแจกัน แถวๆ รพ.ยันฮี ใกล้คอนโด ภริยาคนที่ 2
จากนั้นก็มาปฎิบัติการวางระเบิดในวันที่ 22 พ.ค. จากการสืบค้นพฤติกรรมของนายวัฒนาหลังจากเกิดเหตุระเบิดแล้ว ด้วยการไล่ดูกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลทุก ก็พบนายวัฒนาที่ใส่ชุดสีน้ำตาลใส่หน้ากากอนามัยพร้อมหมวกปิดบังใบหน้าว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย ก็ได้ติดตามกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆในกรุงเทพมหานครตามเส้นทางที่นายวัฒนาใช้หลบหนี
ก็พบว่านายวัฒนาได้วางแผนการปฏิบัติการมาอย่างดีตอนมานายวัฒนา ก็เดินทางมาด้วย รถเมล์ เพื่ออำพรางตัวเองปะปนกับผู้คนจำนวนมากและยิ่งโดยเฉพาะขากลับหลังจาก เกิดเหตุระเบิดแล้ว วิธีการหลบหนีของนายวัฒนาก็ใช้วิธีการนั่งรถเมล์ หลายต่อ เพื่อตัดตอนการถูกตามสะกดรอย
จากการแกะรอย จากภาพวงจรปิดของตำรวจนครบาลและ กทม. พบนายวัฒนา ที่ป้ายรถเมล์ หลายต่อ รวม 52 ป้ายรถเมล์ จนไปลงรถที่ราชวิถีแล้ว มีรถเก๋ง มารับ ซึ่งเป็นรถ ของนายวัฒนา จึงทำให้ ได้เบาะแสบ้านที่อยู่ แล้ว ตามสะกดรอยจนนำมาสู่การจับกุมตัว

ที่สำคัญจากการสารภาพนายวัฒนาเผยว่า ได้ไปนั่ง กินก๋วยเตี๋ยว ไม่ห่างจาก รพ.นัก เพื่อรอดูผลงานจนเกิดเหตุระเบิดจึงออกจากโรงพยาบาลไป แสดงให้เห็นถึงความใจเย็นและความเป็นมืออาชีพ
และสำหรับการปฎิบัติการวางระเบิดในวันที่ 22 พฤษภาคมนั้นนายวัฒนาสารภาพว่า ได้เข้าไปนั่งห้องวงษ์สุวรรณ แถวที่ 2 รองจากแถวหลังสุด แล้วใช้กาวตราช้างแปะแถบสำหรับแขวนแจกัน กับผนังห้องวงษ์สุวรรณ แล้วรอให้กาวแห้ง จึงนำแจกกันใส่ระเบิดไปแขวน แล้ว ก็ ออกจาก รพ.ไป
นี่ก็เป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดว่าลงมือปฏิบัติการณ์อย่างใจเย็นไม่ลุกลี้ลุกลนอย่างมือสมัครเล่นดูจากพฤติกรรมทั้งหมดแล้วก็ชัดเจนว่านายวัฒนานั้นผ่านการฝึกฝนปฏิบัติการณ์การก่อการร้ายและศึกษายุทธวิธีการต่อสู้ในเมืองขององค์กรปฏิวัติใต้ดินมาอย่างแน่นอน

 

ยุทธวิธีการต่อสู้ !?!? เปิดข้อมูล "วัฒนามือบึ้ม" ปฏิบัติการณ์อย่างใจเย็นไม่ลุกลี้ลุกลน ...กับความสัมพันธ์กับกลุ่มองค์การสหพันธ์รัฐไท (มีคลิป

และในวันนี้หลักฐานต่างๆ ค่อยๆปรากฏออกมาให้สาธารณชนได้รับรู้ และล่าสุดได้มีการเปิดเผยคลิปเสียงที่คล้ายและเชื่อได้ว่าเป็นเสียงของนายวัฒนา ซึ่งได้โทรเข้าไปพูดคุยตอบโต้ในรายการ "ไฟเย็น" ของ "โกตี๋" และ"ลุงสนามหลวง" หัวโจกด้านกองกำลังติดอาวุธ ผู้มีความคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย ให้เป็นการปกครองแบบสหพันธรัฐ

ฝ่ายความมั่นคง  เผยแพร่ คลิปเสียงที่เชื่อว่า เป็น นายวัฒนา ภุมเรศ  เมื่อครั้งโทรเข้าไปในรายการ "ไฟเย็น" ของ "โกตี๋" และ"ลุงสนามหลวง" เมื่อเดือน เมย. ที่ผ่านมา  เพื่อ เผยแผนการ ก่อเหตุ และ ลอบทำร้าย บุคคลสำคัญ

โดยระบุว่า เสียดาย ที่ เมื่อ6 เมย. ที่ผ่านมา มีเป้ายิงเป้าเดียว ทั้งที่เตรียมไว้3 เป้า พร้อมยัง เตือน สื่อมวลชน ที่รุมล้อมสัมภาษณ์ "ไอ้ 3-4ตัว นั้นด้วยนะครับ ว่า จะโดนลูกหลงไปด้วย เพราะเล็งเป้าไปที่คนให้สัมภาษณ์ แต่คนที่รุมล้อม อยู่ จะโดนไปด้วย นี่มีคนเขาฝากเตือน และถือว่า เตือนกันแล้ว

เสียง นั้นระบุ "เราพร้อม ที่จะทำ เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น องค์การสหพันธรัฐ เราจะรวมตัวกันอีกทีในแต่ละพื้นที่ เราจ้องๆกันอยู่"
"ไม่ใช่ว่าดวงมันดี แต่โอกาสเรายังไม่พร้อม" 
ซึ่งจากการ ตรวจสอบของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า เป็น เสียงของ นายวัฒนา


ฟังจากบทสนทนาแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่านายวัฒนา รู้จักและมีความสัมพันธ์กับกล่มองค์การสหพันธ์รัฐไท”ของโกตี๋เป็นอย่างดีถึงขั้นมีการประสาน แลกเปลี่ยน พูดคุยถึงการจะลอบสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของ lone wolf หรือหมาป่าเดียวดาย  อย่างแน่นอน

โดยตัวนายวัฒนาเองก็ยังได้พูดถึงคำว่า “สหพันธรัฐ”สอดคล้องกับทั้งของโกตี๋และนายมหาหิน ขุนทอง ผู้ต้องหาในคดีปาระเบิดใส่ศาลอาญาซึ่งไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอนที่ทั้งสามคนจะพูดเรื่อง สหพันธรัฐโดยไม่ได้นัดหมายนอกจากเป็นแผนและทฤษฎีปฏิบัติที่ได้ศึกษาร่วมกันนั่นเอง
คำสารภาพของนายมหาหิน ขุนทอง ผู้ต้องหาคดีระเบิดหน้าศาลอาญา ว่าตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย สมาชิกภายในกลุ่มได้มีการติดต่อกันผ่านสื่อโซเชียล และเตรียมจัดตั้งองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีแรวคิดจะให้มีการปกครองประเทศแบบ “สหพันธรัฐ”


ภาพที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอขณะนี้ เป็นภาพที่นายวัฒนาถือปืนทาวอร์ ทาร์ 21 ซึ่งนายวัฒนา ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ เป็นภาพที่ถ่ายขณะอยู่ที่ชายแดนใต้ โดยได้ขอยืมปืนมาจากทางทหาร 

ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีทหารหน่วยไหนออกมายอมรับว่าเป็นผู้ให้ปืนซึ่งเป็นอาวุธสงครามให้นายวัฒนาไปถ่ายรูป เพราะเป็นเรื่องที่ผิดระเบียบวินัยของทหาร
ทาวอร์ ทาร์ 21 (IMI Tavor TAR-21) เป็นปืนเล็กยาวรุ่นใหม่ของอิสราเอล ออกแบบตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เริ่มทดสอบตั้งแต่ พ.ศ. 2542-2543 และเริ่มประจำการตั้งแต่ พ.ศ. 2545 ในกองทัพโคลัมเบีย, คอสตาริกา, จอร์เจีย, กัวเตมาลา, อิสราเอล, อินเดีย และโปรตุเกส

กองทัพบกไทยได้ทำสัญญาสั่งซื้อ ทาวอร์ ทาร์ 21 เข้าประจำการ จำนวน 15,000 กระบอก ในปี พ.ศ. 2550-2552 และเข้าประจำการในชื่อว่า “ปืนเล็กยาว แบบ 50 (ปลย. 50)” โดยเข้าประจำการในกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.)

ปัจจุบัน กองทัพบกไทยมี ปลย. 50 หรือTavor เข้าประจำการทั้งหมด 73,000 กระบอกเพื่อทดแทนปืนM16A1 ยอดการจัดหาทั้งหมด 106,203กระบอก จากนั้นกองทัพเรือก็ได้จัดหา ปลย.50 รุ่นx95 เข้าประจำการหน่วย Recon

ทั้งนี้ ปืนทาวอร์ ทาร์ 21 ทางกองทัพบกแจ้งหายไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล บางยี่ขัน โดยการสูญหายดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ เรียบร้อยจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนเมษายน 2553 บริเวบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า และได้คืนกลับมาเมื่อวันที่25 พ.ย. 2555 ชาวบ้านใน จ.กาญจนบุรี ได้พบปืนทราโว่ ทาร์ 21 จำนวน 10 กระบอกถูกทิ้งไว้ที่ริมถนนสายท่าเรือ – พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เมื่อ 25 พ.ย

และไม่ใช่แค่การปฎิบัติการทานอาหารด้วยจิตใจที่เลวร้ายเพราะวางระเบิดในโรงพยาบาลเท่านั้นพฤติกรรมของนายวัฒนายังถูกฝึกในแง่ปฏิบัติเชิงจิตวิทยา 

เพราะขณะแถลงข่าวกับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ชัยจินดาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายวัฒนายังถือโอกาสคว้าไมค์ด่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชานายกรัฐมนตรีและบวชนากคณะคสช. ได้เลยทั้งทั้งที่ตอนนั้นผู้สื่อข่าวถามเรื่องพฤติกรรมการกอดระเบิดอยู่เสียด้วยซ้ำ