ดับเครื่องชน !!! "รองโฆษกตำรวจ"เผย เร่งสอบคดี ล่าโจรสลัดปล้นเรือบรรทุกน้ำมัน ยันใช้พ.ร.บเอาผิดได้! (คลิป)

ความคืบหน้ากรณี โจรสลัดปล้นเรือบรรทุกน้ำมันดีเซล 1.5 ล้านลิตร น่านน้ำประเทศมาเลเซีย ลูกเรือไทย 17 คน ปลอดภัย ขณะ ตร.น้ำเร่งสอบ

พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทำดังกล่าวมีการกระทำเป็นกลุ่ม โดยมีพฤติกรรมนำเรื่อมาเทียบเคียงเรือน้ำมันที่โดนปล้น หลังจากนั้นก็มีบุคคลมีขึ้นไปก่อเหตุ ซึ่งเท่าที่ได้รับการงานไม่มีการใช้ภาษาไทยในการก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มชนชาติได้ 

ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานไปยังสำนักงานอัยการ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระความผิดนอกราชอาณาไทย ยืนยันสามารถใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด 2534 เอาผิดกันผู้ก่อนเหตุได้

 

โดยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตำบลที่ห่างจากฝั่งรัฐกวนตัน ประเทศมาเลเซีย ไปทางตะวันออกประมาณ 60 กิโลเมตร ขณะที่เรือกำลังเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ มายังประเทศไทย กลุ่มโจรสลัดได้นำเรือเข้าเทียบข้างเรือ CP 41 และควบคุมตัวลูกเรือทั้งหมด 17 คน (โดยใช้ภาษา Bahasa) แล้ว ได้ทำการสูบน้ำมันดีเซลจำนวน 1.5 ล้านลิตร พร้อมกับทำลายอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด และขโมยสิ่งของส่วนตัวลูกเรือ ก่อนจะหลบหนีและปล่อยเรือลอยลำ ภายหลังจากลูกเรือทราบว่ากลุ่มโจรสลัดเดินทางไปจากเรือแล้ว จึงได้รีบกดปุ่มอุปกรณ์ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)โดย พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และ เสนาธิการทหารเรือ สั่งการให้ ศรชล.เขต 2 จัดเรือหลวงตากใบ และเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 97 พร้อมด้วยชุดสหวิชาชีพเข้าดำเนินการตรวจสอบและช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติไทยชื่อ CP 41 ภายหลังถูกโจรสลัดจำนวนประมาณ 6 - 7 คน พร้อมอาวุธครบมือทั้งมีด และปืนพกนำเรือเข้าปล้นน้ำมันดีเซลไปได้ประมาณ 1.5 ล้านลิตร พร้อมกับทำลายอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด แล้วปล่อยเรือให้ลอยลำในทะเล