แฉข้อมูล !!! ที่นี่ที่เดียว ข้อมูล สุด เอ็กซ์คลูซีฟ ปี 58 ร้องเรียนโยกย้ายตำแหน่ง500เรื่อง (มีคลิป)

ยังคงเป็นที่สนใจอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับการซื้อ-ขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจจุดเริ่มต้มมาจาการที่ นายวิทยาแก้วภราดัยอดีตแกนนำกปปส. ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อมาก็ได้ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจในม.44ให้สั่งยกเลิกบัญชีโยกย้ายครั้งที่ผ่านมาและยุติการโยกย้ายตำรวจจนกว่าการปฏิรูปตำรวจจะเสร็จสิ้น
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวว่า..

ตนคิดว่ามันไม่สมควรในเรื่องนี้ต้องไปสอบสวนกันมาตรงไหนผิดตรงไหนถูกเฉพาะกรณีไปคำสั่งทั้งหมดมีตั้งหลายพันคนถ้าไปยกเลิกเขาทั้งหมดจะถูกต้องหรือไม่ตรงไหนมีปัญหาก็ไปแก้ไขตรงนั้นอย่าไปมองทั้งหมดคนที่เขาทำงานวันนี้จะทำอย่างไรกับเขาและเขาก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปแล้วต้องคุ้มครองสิทธิของเขาด้วยต้องเป็นบางกรณีแยกแยะไม่ออกมันยังอยู่ในกระบวนการอยู่ในเรื่องการปฏิรูปตำรวจตนให้ความสำคัญอยู่แล้ว
และได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ และคณะกรรมการภายในของตำรวจ อีกด้วย โดยได้วางโรดแมพเดินหน้าปฏิรูปวงการสีกากีใน 9 เดือน 3 แนวทางปฏิบัติ
1.ให้พิจารณาระดับองค์กร โครงสร้างระบบงานภารกิจและบทบาทอำนาจหน้าที่จะเป็นอย่างไร
2.เรื่องกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ระเบียบกติกาจะเป็นอย่างไรการป้องกันการทุจริตจะมีแนวทางอย่างไรระบบการสอบสวนจะเป็นอย่างไร

3.ระบบบริหารงานบุคลากรการเลื่อนลดปลดย้ายการเจริญเติบโตและสวัสดิการต่าง ๆ

ทั้ง 2 คณะกรรมการดำนินการคู่ขนานกันไปโดยแบ่งเป็น 2 เดือนแรกจะเป็นขั้นตอนการรวบรวมปัญหาต่าง ๆ ศึกษาเรื่องราวว่ามีความโยงใยกับปัญหาอื่น ๆ หรือไม่

ส่วน 4 เดือนต่อมาเป็นขั้นตอนของการของการกำหนดวิธีการปฏิบัติแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ 

และ 3 เดือนสุดท้ายจะเป็นการทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประชาชนหรือผู้เกี่ยวข้องว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไร
ทั้งนี้นายวิทยาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทีนิวส์ว่า เข้าใจว่าไม่สามารถยกเลิกคำสั่งการโยกย้ายทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 58 ได้มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งที่ไม่เป็นธรรม สูงถึง500เรื่อง กลับไม่ได้รับการเยี่ยวยา หรือการพิจารณาใดๆเลย
ซ้ำร้ายศาลปกครองก็ไม่ได้รับฟ้อง เนื่องจากติดคำสั่งคสช.ในปี59 ไม่เปิดช่องให้ใช้สิทธิทางศาลปกครองได้
เปิดเสียง
นายวิทยาแก้วภราดัย
อดีตแกนนำกปปส.
สัมฯ28 มิ.ย. เต็มๆ สองนาที
ไม่ว่าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร จะสามารถพบหลักฐานในการซื้อขายตำแหน่งและเชื่อมโยงไปถึงตัวการที่อยู่เบื้องหลังได้หรือไม่  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือการโยกย้ายตำแหน่งตั้ง
ซึ่งวามคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการซื้อตำแหน่งนั้น ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้า ออกมาจากทางฝากฝั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เท่าที่ควรนอกจากทีทาเรียบเฉยของผบ.ตร.
พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวเพียงว่าได้รับหนังสือขอยายเวลาการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก 15 วันออกไปอีก 30 วันจากพล.ต.อ.ปัญญามาเม่นจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) แล้วอนุมัติแล้วเพื่อให้สืบสวนสอบสวนหมดข้อสงสัยมีความชัดเจนมากที่สุดโดยได้เร่งรัดให้ดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบทั้งนี้ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพล.ต.ท.เทศาศิริวาโท ผบช.ภ.8 ช่วยราชการศปก.ตร. หลังมีคำสั่งย้ายพ้นหน้าที่

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่ายังไม่มีความจำเป็นในการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่อื่นยังคงตรวจสอบในพื้นที่ บช.ภ.8 เท่านั้นโดยให้พล.ต.อ.ปัญญาไปดำเนินการตรวจสอบทุกประเด็นอย่างเต็มที่ตนไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงอะไร

ส่วนกรณีที่นายวิทยาออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าพบการซื้อขายในบช.อื่นผบ.ตร. กล่าวว่าจะไม่ตอบโต้ให้เป็นหน้าที่ของพล.ต.อ.ปัญญาในการตรวจสอบข้อมูลเท่าที่ดูก็ไม่มีปัญหาอะไรต้องตรวจสอบ

ทั้งนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าการปฏิรูปตำรวจนั้นจะสามารถอุดช่องโหว่แก้ข้อบกพร่องในอดีต รวมถึงการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นผลการจากขายตำแหน่งได้อย่างไรเพื่อให้สังคมและประชาชนกลับมายอมรับและเชื่อมั่นศรัทธาในองค์กรตำรวจอีกครั้ง