ก็เพราะดวงเราผูกกัน! ถ้า ‘บุญทรง’ พัง ‘ยิ่งลักษณ์’ ซวย โทษฐาน ‘หนูไม่รู้’ ปล่อยให้เกิด ‘จีทูเจี๊ยะ’

 ที่สุดมหากาพย์คดีโครงการรับจำนำข้าวก็ใกล้ถึง ‘กาลปวสาร’ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีนายธนฤกษ์ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 หรือคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ หรือราวๆ อีกแค่เดือนเศษๆ 

 คดีนี้ต่อสู้กันมายาวนานพอสมควร โดยมีปฐมบทมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อปี 2555 นำโดย “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ในตอนนั้น ที่จัดการซักฟอก “บุญทรง เตริยาภิรมย์” รมว.พาณิชย์ ซะเป๋ไปเป๋มาในสภา
 ก่อนจะหอบเรื่องไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงดาบ “บุญทรง” กับพวก โดยมี “วิชา มหาคุณ” อดีตกรรมการป.ป.ช.ชื่อดัง เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้
 ด้วยหลักฐานที่มัด กรรมการป.ป.ช.ใช้เวลาไม่นานก็ลงมติฟันฉับ “บุญทรง” กับพวกอีกสิบกว่าชีวิต ตัวหลักๆ ล้วนเป็นปลาใหญ่ทั้งสิ้นที่ต้องตายตกไปตามกัน ไม่ว่าจะเป็น “ภูมิ สาระผล” อดีตรมช.พาณิชย์ หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อภิชาต จันทร์สกุลพร พ่อค้าข้าวชื่อดัง ที่ปรากฏข้างกาย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีบ่อยๆ 
 ต่อมาเมื่อเรื่องถึงศาลฎีกาฯ พบว่า มีตัวละครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนคดีนี้มีจำเลยจำนวนมาก เพราะพบว่า การทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีมีมากกว่า 1 ครั้ง กระทั่งที่สุดมหากาพย์ที่ใครหลายคนเรียกว่า “จีทูเจี๊ยะ” ก็มาถึงโค้งสุดท้าย 
 ถึงตรงนี้แม้ “บุญทรง” จะเชื่อว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ที่สุดแล้ว คำพิพากษาของศาลจะเป็นตัวตัดสินว่า “บุญทรง” พูดจริง หรือ โกหก
 คำตัดสินของศาลในวันที่ 25 สิงหาคม นอกจากสำคัญกับ “บุญทรง” กับพวกมากๆ แล้ว ยังมีความสำคัญกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกัน เพราะว่ากันตามความจริง 2 คดีนี้มีความคาบเกี่ยวกัน
 

เพราะในคำฟ้องที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง “ยิ่งลักษณ์” ได้ฟ้องในความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่ตอนป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “ยิ่งลักษณ์” ในสำนวนได้ระบุข้อหาของเธอตอนหนึ่งว่า “ไม่ระงับ ยับยั้ง ปล่อยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอน จนทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย”
แปลไทยเป็นไทย โกงก็คือความเสียหายในความหมายของป.ป.ช.! 
นั่นหมายความว่า หากศาลตัดสินว่า “บุญทรง” กับพวกทุจริตจริง “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็มีสิทธิ์ซวยได้เหมือนกัน โทษฐานปล่อยปละละเลยให้โกงจนเกิดความเสียหาย
 ดังนั้น เมื่อมีการตัดสินคดีของ “บุญทรง” ก่อน มันก็จะมีผลในแง่การเพิ่มน้ำหนักในคดีของ “ยิ่งลักษณ์” แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้   
 ถึงตรงนี้เลยกลายเป็นว่า ดวง “ยิ่งลักษณ์” นั้นผูกกับดวงของ “บุญทรง” แบบหนีกันไม่ได้ ฉะนั้น ถ้า “บุญทรง” ไม่รอด ก็พอจะเดาๆ ผลในคดีของ “ยิ่งลักษณ์” ที่จะออกมาประมาณเดือนกันยายนได้เช่นกันว่า จะเป็นอย่างไร.
เรียบเรียงโดย อุปนิกขิต