- 07 ก.ค. 2560
ตามไปดู!คนชัยนาทจัดขบวนชุมชนเขียนแผนแก้จนได้จริง
ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาทมีการขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญหาความยากจนภาคประชาชนและพัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรชุมชนเริ่มตั้งแต่ปี 2540 โดยมีแนวทางหลักในการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนและ ขับเคลื่อนงานผ่านกลไกจังหวัด โดยใช้ชื่อว่า คณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาท ( คปอ.จ.ชัยนาท ) มีเป้าหมายหลักให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง กำหนดอนาคตตนเอง “กินอิ่ม นอนอุ่น ทุนมี สุขภาพดี หนี้ลด ” มียุทธศาสตร์สำคัญในการเคลื่อนงานดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาศักยภาพแกนนำ(พัฒนาคน)
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาระบบข้อมูล
ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาพื้นที่รูปธรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสื่อสารสู่สาธารณะ
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การแก้หนี้
ดร. จรรยา กลัดล้อม ประธานคณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า การพัฒนาขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาทนั้น เริ่มจากปี 2540 จนกระทั้งมาถึงปี งบประมาณ 2560 จังหวัดเน้นการพัฒนาพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาพื้นที่รูปธรรม โดยยึดแนวทางการพัฒนาตำบลให้เข้มแข็งเป็นพื้นที่ที่สามารถจัดการตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งคณะทำงานฯ มีแนวคิดร่วมกันว่าตำบลจะมีความเข้มแข็งได้นั้น ต้องมีกลไกที่เข้มแข็ง และมีแผนพัฒนาที่ชัดเจนและมีส่วนร่วมของชุมชน และที่สำคัญต้องสามารถผลักดัน
แผนพัฒนาให้เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาคี ที่ให้การหนุนเสริมพื้นที่ได้ และเนื่องจากการสรุปบทเรียนการทำงานของปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีหน่วยงานที่ให้การหนุนเสริมเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาตำบล คณะทำงานฯ จึงเสนอแผนการปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานภาคีที่หนุนเสริม เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, พัฒนาชุมชน ในการพัฒนาและปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาตำบลในพื้นที่เป้าหมาย 13 พื้นที่ และคาดหวังในการที่จะพัฒนาแผนของขบวนชุมชนให้สามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาคี ได้ โดยรูปธรรมการขับเคลื่อนงานนี้ จังหวัดจะนำไปเป็นต้นแบบแก่พื้นที่คงเหลือต่อไป
กลไกในการขับเคลื่อนงาน มีองค์ประกอบของกลไกที่เป็นคณะทำงานของจังหวัดชัยนาท ประกอบด้วย คณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาท , คณะทำงานระดับตำบล , หน่วยงาน ภาคีที่ให้การหนุนเสริม เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พัฒนาชุมชน และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนโดยสำนักงานภาคกลาง โดยส่วนของสถาบันฯ จะมีบทบาทในการหนุนเสริมให้เกิดกลไกระดับภาคในการกำหนดทิศทาง เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่จัดการตนเองระดับตำบล,จังหวัด และมอบหมายเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการเป็นคณะทำงานฯขับเคลื่อนงาน ซึ่งคณะทำงานฯ ก็จะมีบทบาทสำคัญในการหนุนเสริมเชื่อมโยงกลไกระดับจังหวัด กำหนดเป้าหมาย และพัฒนาพื้นที่ตำบล, ร่วมออกแบบกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบล, สร้างพื้นที่เรียนรู้ร่วมเพื่อพัฒนาแกนนำ,ร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ เติมเทคนิค วิธีการตามขั้นตอนกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบล, ประสานเชื่อมโยงขบวนองค์กรชุมชนกับหน่วยงานภาคีให้สามารถบูรณการแผนพัฒนาร่วมกัน,แก้ไขข้อติดขัดให้พื้นที่ตำบลสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการที่กำหนดร่วมกัน , เชื่อมโยงให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับกลุ่มจังหวัด ( นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท )
กระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบล ตามที่คณะทำงานฯ ได้ออกแบบร่วมกันในการขับเคลื่อนงานมี รายละเอียดขั้นตอนดังนี้
1. คณะทำงานฯ ร่วมกำหนดเป้าหมาย ออกแบบกระบวน ผลลัพธ์ การจัดทำแผนพัฒนาตำบล พร้อมคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย
2. ประชุมสร้างความเข้าใจพื้นที่ ถึงเป้าหมาย แนวทางการพัฒนาพื้นที่จัดการตนเอง ,กำหนดพื้นที่เรียนรู้กระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบล,จัดทำแผนปฏิบัติการระดับตำบล
3. พัฒนาศักยภาพทีมทำงานและพื้นที่ตำบลผ่านเวทีเรียนรู้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การพัฒนาแกนนำระดับจังหวัด มีเวทีอบรมพัฒนาเติมเต็มกระบวนการวิเคราะห์และจัดทำแผนพัฒนาตำบล และ การพัฒนาแกนนำท่ามกลางการปฏิบัติการจริง โดยมีเวทีเรียนรู้ 3 พื้นที่ แยกตามบริบทพื้นที่ใกล้เคียงกัน เนื้อหาคือการปฏิบัติการตามกระบวนการจัดทำแผนที่ออกแบบร่วมกัน มีเวทีสรุปผลเรียนรู้แลกเปลี่ยนหลังปฏิบัติการเพื่อสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนงาน
4. ปฏิบัติการตามขั้นตอนกระบวนการจัดทำแผนพัฒนา ประกอบด้วย
4.1 การสร้างความเข้าใจเป้าหมาย ทีมทำงานในระดับตำบล พร้อมออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงาน กำหนดแผนปฏิบัติการ
4.2 ประชุมสร้างความเข้าใจเป้าหมาย แนวทางการขับเคลื่อนกับพื้นที่เป้าหมาย ภาคี ที่หนุนเสริม เช่น พัฒนาสังคมฯ พัฒนาชุมชน ท้องถิ่นจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล
4.3. เปิดเวทีวิเคราะห์ตำบล ซึ่งในเวทีมีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภารกิจของหน่วยงานภาคี และเปิดตัวสภาองค์กรชุมชนกับหน่วยงานในพื้นที่ “รู้เขารู้เรา ” ร่วมถึง สร้างความเข้าใจ/กำหนดเป้าหมาย ขั้นตอน กระบวนการจัดทำแผนพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม โดยใช้สภาฯ เป็นเวทีกลางในระดับตำบล มีองค์ประกอบของทุกภาคส่วน เช่น แกนนำสภาฯ ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร ภาคีพัฒนาในพื้นที่ ร่วมกำหนดกิจกรรมที่จะดำเนินการ กำหนดบทบาท/หน้าที่ กำหนดแผนการเคลื่อนงานในตำบล
4.4 จัดกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบลอย่างมีส่วนร่วมในตำบล
- จัดทำข้อมูล ประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐาน บริบทตำบล ข้อมูลการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส อุปสรรค ข้อมูลกลุ่มองค์กร กลไกการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ตำบล ฯลฯ
- ยกร่างแผนพัฒนา ทีมทำงานชุดเล็กของตำบลนำข้อมูลที่ได้ และผลที่ได้จากการวิเคราะห์ รวมถึงแผนพัฒนาที่ชุมชนอยากแก้ไข มายกร่างเป็นแผนพัฒนา
- เปิดเวทีประชาคมแผนระดับหมู่บ้าน/ตำบล
- เติมเต็มแผนพัฒนา/จัดทำรูปเล่ม
4.5. เปิดเวที เชื่อมโยง/นำเสนอแผนต่อหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง เป็นการเปิดเวที “ถาดร่วม” เพื่อนำเสนอแผนพัฒนาที่ขบวนชุมชนในระดับตำบลได้จัดทำ เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนเติมเต็ม พร้อมยื่นเสนอแผนเพื่อบรรจุในแผนพัฒนาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4.6. ติดตามแผนการเชื่อมโยง/ประเมินผล
5. สรุปผลการขับเคลื่อนตามกระบวนการจัดทำแผนระดับจังหวัด
ผอ.สมบัติ คุ้มชนะ คณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยนาท แกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนงาน เล่าถึงการทำงานและผลลัพธ์สำคัญที่ได้จากการขับเคลื่อนงานตามกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบล คือ แกนนำได้เรียนรู้กระบวนการจัดทำแผนพัฒนาตำบลอย่างมีส่วนร่วม, ได้เรียนรู้เทคนิคการยื่นเสนอแผนต่อหน่วยงานภาคี มีการสรุปบทเรียนเติมเต็มกันและกันระหว่างทีมทำงาน สุดท้ายเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันของจังหวัด คือ ได้แผนพัฒนาระดับตำบล มีรูปธรรมการเคลื่อนงานที่ชัดเจน เป็นต้นแบบให้กับตำบลอื่น ๆ ในจังหวัดได้ แผนสามารถเข้าไปเชื่อมโยงกับท้องถิ่นบางตำบลเสนอขอรับงบกับ พมจ.ได้ และ จังหวัดจะนำแผนดังกล่าวรวบรวมสู่กระบวนการพัฒนาแผนระดับจังหวัดเป็นการเดินหน้าพัฒนาขบวนให้เป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับกับหน่วยงานภาคีภาครัฐ สร้างความภาคภูมิใจให้กับขบวนภาคประชาชน จุดสำคัญที่ทำให้กระบวนการนี้สำเร็จที่เห็นชัดเลย คือ ปีนี้เราเชื่อมโยงกับภาคีตั้งแต่ขาขึ้น หมายถึงชวนมาร่วมคิด ร่วมทำตั้งแต่เริ่มกระบวนการ ดังนั้นแผนเราเลยได้รับการยอมรับและสามารถผลักดันเข้าไปอยู่ในแผนพัฒนาของท้องถิ่นได้ อย่างไรก็ดีกระบวนการที่เรียนรู้นี้ยังมีข้ออ่อนที่เราพบ เช่น ในระดับพื้นที่เราพบว่า ชุมชนไม่ค่อยกล้าแสดงออก ไม่ค่อยให้ความคิดเห็น ส่วนใหญ่มักนั่งฟัง หรือข้อเสนอในการจัดทำแผนยังเป็นแผนปัจเจกไม่ค่อยมองภาพรวมในระดับตำบล ในแต่ละพื้นที่มีความยากง่ายในการดำเนินการตามกระบวนการไม่เท่ากัน ส่วนในระดับจังหวัดกับทีมทำงานพบว่าเราต้องพัฒนาทีมเพื่อมาหนุนเสริมกำลังระดับจังหวัดให้มากขึ้น ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่แต่อาจต้องให้เวลากับคนรุ่นใหม่ได้มีประสบการณ์ในการเดินเวทีหนุนเสริมพี่น้องระดับตำบล เทคนิควิธีการการพูดคุยกับชาวบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญที่ยังคงต้องเติมเต็ม
ดร.จรรยา กล่าวช่วงท้ายว่า การจัดทำแผนพัฒนาไม่ใช่เรื่องยากหากได้ทีมงานและพื้นที่ที่มีความตั้งใจจริงจังหวัดชัยนาทโชคดีที่ปีนี้ได้ทีมทำงานที่มีความมุ่งมั่น รวมถึงพื้นที่ที่มีความตั้งใจ และกำหนดทิศทางในการเดินงานร่วมกับภาคีตั้งแต่แรกทำให้ทุกตำบลได้รับการขานรับที่ดีจากท้องถิ่น แผนงานหลายแผนสามารถบรรจุอยู่ในแผนของท้องถิ่น ในส่วนของจังหวัดแผนงานหลายด้านได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น ได้รับการหนุนเสริมในการพัฒนาศักยภาพขบวนฯ จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,ได้รับงบยุทธศาสตร์จังหวัดเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของขบวนชุมชน ทั้งนี้จังหวัดเองก็ใช้เทคนิคเดียวกันคือ “ร่วมคิด ร่วมทำ ” เป็นผลให้ขบวนจังหวัดเองก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากหน่วยงาน ซึ่งเป็นกำลังใจที่ดีให้กับขบวนได้ขับเคลื่อนงานต่อไป