เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด !!! "ไพศาล" ชี้ จุดเปลี่ยนดุลการเมือง "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" รวมตัวกันหนุน "อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯคนต่อไป (มีคลิป)

แม้การเลือกตั้งทั่วไปยังมีระยะเวลาเหลืออีกเกือบ2ปี แต่สถานการณ์ทางการเมือง ณ เวลานี้ ทุกฝ่ายก็กำลังจับตามอง เพราะอยู่ในห้วงที่เป็นจุดเปลี่ยนดุลการเมือง จากปัจจุบันที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและมีกองทัพเป็นดุลสำคัญในการสนับสนุน ซึ่งอาจจะเปลี่ยนดุลอำนาจไปอยู่ในมือของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

ประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายกำลังจับจ้องกันอยู่ในวันนี้ ก็คือ “ใครจะเป็นผู้นำพรรคการเมือง” ที่มีโอกาสชนะเลือกตั้ง และได้ครองเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี”แน่นอนว่า ทางฝากฝั่งของพรรคการเมืองที่มีโอกาสจะคว้าเก้าอี้นี้ได้ มีอยู่ 2พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย


แต่ปรากฏว่าในขณะที่ชื่อของประทุมทิพย์ถูกโจษขานขึ้นมานั้น ได้มีการเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาจากนายไพศาล พืชมงคล นักวิเคราะห์ทางการเมืองคนสำคัญ และเป็นผู้ช่วยกรรมการรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เปิดเผยว่า ไม่น่าที่จะเป็นได้ที่ผู้นำพรรคเพื่อไทย จะเป็นคนในตระกูล ชินวัตร เพราะว่า ได้มีความพยายามจะปรับแผนทางการเมืองบางประการ นั่นก็คือจะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรมาเป็น ผู้นำหรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของตระกูลชินวัตรแล้ว ซึ่งก็เพื่อที่จะให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งขนาดนี้ถือได้ว่าเป็นศัตรูหลักของคสช. และพลเอกประยุทธ์ มีโอกาสที่จะเข้าไปมีอำนาจทางการเมือง โดยการหันมาสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยถือว่าเป็นการร่วมมือกันของฝ่ายประชาธิปไตยที่ป้องกันไม่ให้เผด็จการทหารเข้ามามีอำนาจโดยด้านฝากฝั่งพรรคเพื่อไทยจะขอเข้ามาเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถือว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำไม่สำเร็จเพื่อที่จะโชว์ความสามารถ
ซึ่งแม้นายไพศาลจะไม่ชี้ชัด ระบุตัวว่าเป็นใครที่เข้ามาเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยแต่ก็ได้มีการพาดพิงถึง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” โดยได้มีการเขียนบอกใบ้ถึงความพยายามสร้างบทบาทในการเดินทางไปตามคำเชิญของกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ (IDCPC) พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ได้เชิญให้ไปดูงานและร่วมประชุมกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ที่นครปักกิ่งเป็นเวลา 5 วันหลังจากที่เลื่อนมาหลายครั้ง กระนั้นเรื่องนี้จึงถูกจับตาและตั้งข้อสังเกต ว่านี่คือสัญญาณของการจะเข้าเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่หรือไม่ แต่ต่อมาด้านคุณหญิงสุดารัตน์ก็ได้มีการออกมาปฏิเสธถึงกระแสข่าวดังกล่าว
 
 

อย่างไรก็ตามในตอนท้ายนายไพศาลยังได้กล่าวถึงดวงดาว ตามหลักโหราศาสตร์อีกด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยังคงเป็นนายกจนดาวมฤตยูย้ายราศีออกไป 

หากเป็นเช่นนั้นจริง ซึ่งก็หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ หรือคุณหญิงสุดารัตน์  และแม้กระทั่งนางมณฑาทิพย์เอง ก็ไม่มีวาสนาจะได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ในช่วงเวลาหลังเลือกตั้ง ใช่หรือไม่??

เพื่อให้เกิดความชัด และความเป็นไปได้ของว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ว่าจะเป็นใคร ซึ่งรวมไปถึงการที่พรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ จะร่วมตัวกันและดันให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายก จะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด 
 
ฉะนั้นก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าบทวิเคราะห์ ของนายไพศาล พืชมงคลนั้นจะมีโอกาสเกิดขึ้นจริงทางการเมืองได้หรือไม่ ซึ่งนั้นหมายความว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะกล้าตัดสินใจอย่างนั้นจริง โดยเลือกเอาหลักการประชาธิปไตยร่วมกับพรรคเพื่อไทยที่ตัวเองเคยโจมตีและต่อต้านมาตลอดว่าทำให้เกิดความเสียหายกับชาติบ้านเมือง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเปลี่ยนหลักคิดที่มีมาแต่เดิมนั้นเอง