“พท.-จตุพร” เล่นเกมเสี้ยมยุปฏิรูป “ทหาร” หวังปรับพ.ร.บ.สภากลาโหม ที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เคยเสียที

“พท.-จตุพร” เล่นเกมเสี้ยมยุปฏิรูป “ทหาร” หวังปรับพ.ร.บ.สภากลาโหม ที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เคยเสียที

หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เอาจริงกับการปฏิรูปตำรวจ โดยตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจให้ “บิ๊กสร้าง” พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เข้ามานั่งประธานกรรมการ

บรรดาเสือสิงห์ที่จ้องย้อนศรเล่นแง่ตอบโต้ทันควัน โดยเฉพาะ “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สบโอกาสออกมาขย่มให้ “บิ๊กตู่” เปิดทาง-เปิดใจปฏิรูป “ทหาร” ทันที

“เมื่อกล้าที่จะปฏิรูปตำรวจ ก็ควรกล้าที่จะเปิดให้มีการปฏิรูปทหารด้วย เพราะเชื่อว่าทหารก็มีปัญหา ทหารมีทั้งคนดีและคนชั่ว ด้วยกระแสของการปฏิรูปนี้ จึงอยากเห็นการปฏิรูปทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการพรรคการเมือง ภาคประชาชน และทุกภาคส่วน โดยต้องปฏิรูปไปพร้อมๆกัน” นายจตุพร ระบุ

“จตุพร” รู้ดีว่าครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่อาจจะทำให้โครงการกระทรวงกลาโหมเปลี่ยนแปลงได้ เพราะอย่าลืมว่าการแต่งตั้ง “บิ๊กเหล่าทัพ” ต้องผ่านการพิจารณาของสภากลาโหม ไม่ใช่การพิจารณาของครม. ดังนั้นพวกเด็กเส้นฝ่ายการเมืองจะเข้ามานั่งในตำแหน่งหลักของ “ทหาร” ต้องผ่านการพิจารณาหลายด่าน

ดูเจตนาของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “ทหาร” ต้องเป็นลูกน้องนักการเมือง เหมือนอยากให้การแต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กทหาร” กลับไปเหมือนยุคของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั่วโมงนั้นอยากได้ใครเป็น “ผบ.เหล่าทัพ” โดยเฉพาะ “ผบ.ทบ.” ก็สามารถเลือกจิ้มเอาได้ทั้งหมด

ยุค “รบ.แม้ว” บรรดา “ผบ.เหล่าทัพ” จึงเป็นเครือข่ายของ “ไทยรักไทย-ทักษิณ” เกือบทั้งหมด หน่ำซ้ำยังแต่งตั้ง “พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” พี่ชายขึ้นเป็นผบ.ทบ.ทั้งที่โดนเสียงคัดค้านมากมาย แต่ “ทักษิณ” ไม่สนใจ

จนกระทั่งพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ อำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารไม่ได้อยู่ที่ “ฝ่ายการเมือง” เพียงอย่างเดียว เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายทุกตำแหน่ง ต้องผ่านการคัดเลือกจาก “7อรหันต์” ประกอบด้วย 1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโหม 2.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม 3.ปลัดกระทรวงกลาโหม 4.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 5.ผู้บัญชาการทหารบก 6.ผู้บัญชาการทหารเรือ 7.ผู้บัญชาการทหารอากาศ

หากยังจำกันได้ในยุค “รบ.ยิ่งลักษณ์” มีความพยายามที่จะแต่งตั้งคนของตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งหลัก ซึ่งจะทำให้เป็น 1 ใน 7 อรหันต์ด้วย แต่บรรดา “บิ๊กเหล่าทัพ” จับทางได้ จึงร่วมกันต่อต้าน สุดท้ายความพยายามก็สูญเปล่า

เมื่อ “เพื่อไทย-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เข้ามาแซะ “กองทัพ” ไม่ได้ ทำให้ “กองทัพ” เป็นองค์กรเดียวที่คัดคานอำนาจของอยู่ 

ความพยายามต่อยอดเสี้ยมให้ “บิ๊กตู่” ปฏิรูป “ทหาร” ของบรรดาสมุนเพื่อไทย-นปช. จึงมีนัยยะการเมืองแอบแฝงซ่อนเร้นเอาไว้ เหลือแต่ “บิ๊กตู่” จะปิดเกมสวนกลับอย่างไร