ต้องถึงมือนายกฯ!! “นายกฯ” สั่งเข้ม คดีฆ่า 8 ศพ ผบ.ตร. ต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

สำหรับพยานที่รอดชีวิต 3 ราย ยืนยันว่ามีมาตรการดูแลคุ้มครองอย่างดี ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายก่อเหตุได้นำมาตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนของใคร ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่เบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายน่าใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวในการก่อเหตุยิงทั้ง 8 ศพ

 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกบ้านนายวรายุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ยิงทั้งครอบครัวเสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ตนพร้อมกับคณะทำงานได้ลงพื้นที่รับฟังบรรยายสรุปที่ สภ.อ่าวลึก

ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับเบาะแสของคนร้ายตำรวจกำลังเร่งสืบสวน เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุหรือแรงจูงใจในการลงมือได้ แต่ยอมรับว่ามีข้อมูลรายงานเข้ามาเรื่อยๆ กำลังคลำเป้าอยู่ ไม่ทิ้งประเด็นใด ซึ่งตนเองได้กำชับแนวทางการสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายไปแล้ว

  ส่วนกล้องวงจรปิดในพื้นที่สามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ในสำนวน

ส่วนกรณีคนร้ายนำรถยนต์ของผู้ตายไปด้วยนั้นจะต้องมีการวิเคราะห์ทั้งหมดทุกมิติ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะนำไปก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ซึ่งคนร้ายจะเป็นคนนอกพื้นที่อื่นเข้ามาก่อเหตุหรือไม่ ตนยังสรุปไม่ได้เช่นกัน

กรณีที่พบเงินของนายทุนถูกโอนเข้ามาในบัญชีของผู้ใหญ่บ้านก่อนเสียชีวิตนั้น เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่ก็ต้องสืบสวนทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง

สำหรับพยานที่รอดชีวิต 3 ราย ยืนยันว่ามีมาตรการดูแลคุ้มครองอย่างดี ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายก่อเหตุได้นำมาตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนของใคร ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่เบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายน่าใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวในการก่อเหตุยิงทั้ง 8 ศพ แต่ทุกอย่างต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบ

ขณะที่ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้นำมาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เพราะเป็นคดีสำคัญ สะเทือนขวัญ อย่างไรก็ตามส่วนตัวมั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ แต่ต้องให้เวลาในการทำงานสักระยะเพราะคดีเพิ่งเกิด คาดว่าภายใน2-3วันนี้ จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้ง

ทั้งนี้มีรายงานว่าชุดสืบสวนสามารถสเก็ตซ์ภาพผู้ก่อเหตุได้ 1 คนเป็นผู้ชาย ซึ่งผบ.ตร. ยังไม่ขอเปิดเผยในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในสำนวนของการสืบสวนแต่ยืนยันได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่อ.อ่าวลึก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นปืนลูกโม่ ขนาด .38 แบบบรรจุกระสุน 5 นัด ซึ่งเป็นปืนของนายวรายุทธ ที่ถูกยิงเสียชีวิตด้วย นอกจากนี้ ยังส่งปลอกกระสุนปืน จำนวน 9 ปลอกที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ รวมทั้งหัวกระสุนปืนที่ยิงทะลุร่างของผู้เสียชีวิตฝังอยู่ในที่เกิดเหตุ และหัวกระสุนที่แพทย์นิติเวชผ่าออกจากร่างผู้ตาย จำนวน 4-5 หัวกระสุน ซึ่ง จะเปรียบเทียบปลอก กับหัวกระสุนปืน ว่าคนร้ายใช้ปืนกระบอกเดียวปลิดชีพเหยื่อหรือไม่ ส่วนที่กระบอกปืน ตรวจสอบแล้วพบกระสุนปืนค้างในรังเพลิง 1 นัด และปลอกกระสุน 2 ปลอก และได้เก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงไว้เปรียบเทียบ หากพบตัวผู้ต้องสงสัย ส่วนผลการตรวจพิสูจน์คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่งจึงจะทราบผล