ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน  สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว

ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว

ภายหลังการประชุมครม.เมื่อ 11 ก.ค. 2560 ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการอนุมัติเมกกะโปรเจกต์โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพฯถึงหนองคาย ช่วงที่ 1 คือ กรุงเทพฯถึงนครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร  มูลค่าลงทุนสูงถึง 179,413 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสสร้างอนาคตประเทศหลังจากไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่มานาน  ล่าสุดหลังข่าวการลงทุนครั้งมหาศาลของไทยถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก  งานนี้ทำให้บรรดาธนาคาร แหล่งเงินกู้ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั้งในเอเชียและยุโรปหูผึ่ง พร้อมวิ่งโร่ขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ในทันทีเพื่อเสนอความร่วมมือทางการเงินให้กับรัฐบาล  ล่าสุดที่เป็นนกรู้และเร็วกว่าใครเพื่อนเห็นจะไม่มีใครเกินธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย หรือ เอไอไอบี (Asian Infrastructure Investment Bank :AIIB )  ที่หลังทราบผลการอนุมัติโครงการไฮสปีดเทรนของประเทศไทยได้เพียงแค่วันเดียว

ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน  สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว

ทางนายจิน ลี่ฉวิน (Mr.Jin Liqun) ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชียก็นำทีมงานคณะใหญ่เดินทางมาพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ก่อนช่วงบ่ายวานนี้จะเข้าเยี่ยมคาราวะพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล  หนำซ้ำในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค.นี้  ยังมีคิวพบปะกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เชียงใหม่ด้วย  

สำหรับการเดินทางมาเยี่ยมคาราวะ พล.อ.ประยุทธ์ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล  แบบสายฟ้าแลบในครั้งนี้ถือเป็นการเดินเกมส์เร็วที่ไม่ยอมให้เสียโอกาสไม่ยอมพลาดทางธุรกิจ  แถมเที่ยวนี้ยังมีการเชิญนายเจิง เผยเหยียน (Mr.Zeng Peiyan) อดีตรองนายกฯสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน  ที่หลังพ้นจากตำแหน่งก็มารับงานเป็นรองประธาน Boao Forum for Asia มาเป็นแบ็กอัพให้เห็นว่ารัฐบาลจีนก็หนุนหลังด้วย  นอกนี้ยังมีการจัดประชุมสัมมนา “ Boao Forum for Asia Thailand Conference” ในกรุงเทพฯเพื่อเอาใจพร้อมเชิญชวนนักลงทุนจีน นักลงทุนไทย นักลงทุนต่างชาติ เชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกันโดยใช้ธนาคารเอไอไอบีหรือสถาบันการเงินของจีนเป็นแหล่งเงินกู้  เรียกว่ารอบนี้จีนมองการณ์ไกลไม่ใช่แค่เพียงแต่ขายเทคโนโลยีไฮสปีดเทรนให้ไทยเท่านั้น  แต่ทางรัฐบาลจีนกับเอกชนจีนยังจับมือกันเหนียวแน่นในการเกี้ยวไทยให้กู้เงินจากจีนแบบเสร็จสรรพ  ประมาณขายเทคโนโลยีรถไฟพ่วงปล่อยเงินกู้

ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน  สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว

อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินลงทุนโครงการไฮสปีดเทรนกรุงเทพ-โคราชนั้น ทางนายสมคิดยังนั่งยันยืนยันนอนยันว่าไทยยังไม่ได้ตัดสินใจกู้จากจีนแต่อย่างใด ทั้งนี้สำหรับแหล่งเงินกู้ของไทยยังเปิดกว้างและมีสถาบันการเงินหลายแห่งพร้อมจะปล่อยกู้ให้กับไทย ไม่ใช่แค่ธนาคารเอไอไอบี ยังมีธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี  (Asian Development Bank – ADB) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า (Japan International Cooperation Agency - JICA) แม้แต่ธนาคารโลก หรือ เวิล์ดแบงค์  (World Bank) รวมทั้งแหล่งเงินกู้ในประเทศไทยที่สถาบันการเงินของไทยก็มีสภาพคล่องส่วนเกินที่สูงมาก  “ เรื่องแหล่งเงินกู้เราไม่มีปัญหา เพราะมีคนพร้อมปล่อยกู้เราอยู่แล้ว  ตรงนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่เขาจะต้องไปหารือกับกระทรวงคมนาคม คณะกรรรมการอีอีซี  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เขาต้องไปคิด ไปหาวิธี ไปหาแนวทาง ว่าจะใช้รูปแบบไหน กู้จากใคร ซึ่งมีทั้งในและต่างประเทศ ยุโรปก็มีแต่ถ้าในเอเชียจะพูดกันง่ายหน่อย” นายสมคิดหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลระบุ   

ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน  สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว

 

พร้อมให้คำมั่นเป็นสัญญาประชาคมกับคนไทยว่าการกู้เงินสร้างไฮสปีดเทรนไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดจะในหรือต่างประเทศ ทั้งหมดจะต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง “เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกู้จากใคร แต่ใครให้ดอกเบี้ยต่ำเราก็สนใจทั้งหมด  เขาก็ต้องแข่งกันเอง   แต่เราก็ต้องมาพิจารณาบนพื้นฐานผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ  ไม่ใช่ดูดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว ต้องดูระยะเวลาในการผ่อน เงื่อนไขอื่นๆ ด้วยก่อนตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องดูทุกอย่างให้รอบครอบ เพราะคนจ้องเอาไปบิดเอาไปแปลกันผิดๆ มันมีอยู่เยอะ ” รองนายกฯด้านเศรษฐกิจระบุ  

สุดท้ายปลายทายพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลไทย จะกู้เงินจากไหน จะในหรือต่างประเทศ สัดส่วนเท่าไหร่ เงื่อนไขอย่างไร ประชาชน สังคมต้องตามติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเงินภาษีของคนไทยล้วนๆ