“ไอ้ช่างฟ้อง” ของ “ลุงตู่”ร้องเป็นร้อย สำเร็จยังเป็นศูนย์!!!

“ไอ้ช่างฟ้อง” ของ “ลุงตู่”ร้องเป็นร้อย สำเร็จยังเป็นศูนย์!!!


ถ้าเอ่ย 2 ชื่อ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก ในฐานะ “จอมฟ้อง” แห่งยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศ
 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฝั่งก.พ., สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), ผู้ตรวจการแผ่นดิน, คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และศาลปกครอง ซึ่งสถานที่ที่ “ศรีสุวรรณ” และ “เรืองไกร” เดินทางไปจนจะเป็นบ้านหลังที่ 2

 โดยเฉพาะ “ศรีสุวรรณ” ขณะนี้ได้สถาปนาตัวเองเป็น “จอมฟ้องเบอร์ 1” เพราะฟ้องแทบจะทุกเรื่องที่คสช. รัฐบาล และกองทัพ ดำเนินการ จนครั้งหนึ่ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. อดรนทนไม่ได้ บ่นออกอากาศมาแล้ว แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนรับรู้ว่า เป็นใคร
 “ไอ้ช่างฟ้องก็ไปหาเอาเองว่าใคร ไม่รู้จะฟ้องอะไรกันนักหนา ไม่มีอะไรทำกันหรือไง เอาผิดเอาถูก ประเทศชาติจะตายอยู่แล้ว ไอ้นี่ก็จะไปฟ้องศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรจะทำหรือไง กลัวใครถามว่า ไม่มีงานทำหรืออย่างไรก็ไม่รู้ มันเสียเวลาก็พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว มันก็ได้มาอย่างนี้"’
 แต่กระนั้นก็ไม่สามารถหยุด “ศรีสุวรรณ” ได้ เจ้าตัวยังคงเดินหน้าร้องเรียนต่อไปแทบจะทุกเรื่อง อย่างล่าสุดกำลังจะยื่นศาลรัฐธรรมูญเพื่อเอาผิดครม. กรณีอนุมัติงบ 8,800 ล้าน จัดซื้อเครื่องบิน T-50TH ให้กับกองทัพอากาศ โดยมองว่า ขัดรัฐธรรมนูญ

สำหรับ “ศรีสุวรรณ” จะเน้นหนักหน่อยเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ หรือเรื่องของแม่น้ำ 5 สาย ไม่ว่าจะเป็นการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีสนช. เสนอชื่อแต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเป็นคนแต่งตั้งสนช.มาเอง, การร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งเครือญาติเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
การร้องให้ป.ป.ช.เอาผิดครม. กรณีอนุมัติให้กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน S-26T ในเบื้องต้นจำนวน 1 ลำมูลค่า 13,000 ล้านบาท, การร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 ให้มีการตรวจสอบจริยธรรมแม่ทัพภาคที่ 2 และการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการปล่อยให้มีการก่อสร้างบ่อนกาสิโนในพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชา
 การร้องให้ป.ป.ช.เอาผิดพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน, เอาร้องป.ป.ช.เอาผิดนักข่าวผู้หญิงรายหนึ่งที่ร่วมเดินทางไปฮาวายกับคณะของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, การยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กรณีให้สัมภาษณ์สนับสนุนทหารที่ยิงวิสามัญเยาวชนชาวลาหู่
  การร้องให้ป.ป.ช.เอาผิด 7 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีขาดประชุมบ่อย, การร้องสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ลงโทษสมาชิกสปท.ที่ตบหน้าเด็กเสิร์ฟ, การยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อคัดค้านคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 30/2560 กรณีใช้มาตรา 44 ปลดล็อครถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ทำให้ไทยสูญเสียบูรณภาพแห่งอธิปไตยของชาติ,  การคัดค้านใช้มาตรา 44 ปลดล็อคการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อเอื้อปิโตรเลียม-อุ้มเหมืองแร่-อวยไฟฟ้าพลังงานลม –แสงอาทิตย์
 การร้องว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่สนช.เห็นชอบ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ, การยื่นเรื่องให้ป.ป.ช. ไต่สวนครม. กระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ ให้เอกชนเช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร 
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงเรื่องหมุดคณะราษฎรที่หายไป ที่ออกมาฟาดวงวงฟาดงาเกินไปหน่อย จนทหารต้องหิ้วเข้าไปอบรมพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความเป็น “จอมฟ้อง” ได้
นี่ยังไม่นับรวมเรื่องจิปาถะอีกสารพัดที่ “ศรีสุวรรณ” ร้องเอาผิดหน่วยงานของรัฐต่างๆ อีกมากมายร่วมหลักร้อย
ว่ากันว่า สาเหตุที่ “ศรีสุวรรณ” ที่ครั้งหนึ่งเคยร้องเอาผิดครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บ่อย กลับกลายมาเป็น “จอมฟ้อง” ในยุคของคสช. เนื่องจากผิดหวังจากการพลาดเก้าอี้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสมาชิกสนช. ทั้งที่ฝากผลงานเล่นงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไว้เยอะ 
 แต่ทั้งนี้ มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ทุกเรื่องที่ “ศรีสุวรรณ” ร้องเอาผิดครม. คสช. และแม่น้ำ 5 สาย ไม่มีคดีใดประสบความสำเร็จเลย!!!
เรียบเรียงโดย อุปนิกขิต