มาตรฐานอยู่ไหน!! "พรรคเพื่อไทย" ต้าน ม.44 แต่บางวันก็ "เสนอ" ให้ "บิ๊กตู่" ใช้ ม.44 แก้ปัญหา "ไหนบอกยึดมั่นในหลักการ"

มาตรฐานอยู่ไหน!! "พรรคเพื่อไทย" ต้าน ม.44 แต่บางวันก็ "เสนอ" ให้ "บิ๊กตู่" ใช้ ม.44 แก้ปัญหา "ไหนบอกยึดมั่นในหลักการ"

มีความเคลื่อนไหวล่าสุดจากพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เมื่อ "เสี่ยโจ้" หรือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  ในฐานะคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ โดยบอกว่า มีการขายข้าวดีให้เป็นอาหารสัตว์ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตรวจสอบความถูกต้องในการจำหน่ายข้าว พร้อมให้ออกคำสั่ง เปิดโกดังข้าวทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนและ สื่อมวลชนเข้าไปร่วมตรวจพิสูจน์ว่า ข้าวในโกดังนั้น อยู่ในสภาพข้าวคนกิน หรือ อาหารสัตว์ 

มาตรฐานอยู่ไหน!! "พรรคเพื่อไทย" ต้าน ม.44 แต่บางวันก็ "เสนอ" ให้ "บิ๊กตู่" ใช้ ม.44 แก้ปัญหา "ไหนบอกยึดมั่นในหลักการ"

เป็นเรื่องแปลกที่ก่อนหน้านี้ "พรรคเพื่อไทย" ได้เรียกร้องให้รัฐาลและ คสช.ยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพราะเห็นว่า เป็นอำนาจพิเศษอยู่ในมือของหัวหน้า คสช.เพียงคนเดียว จึงไม่อิงกับกลักสากล ขาดการมีส่วนร่วม ทั้งยังขัดต่อหลักการสิทธิมนุษยชนด้วย

หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ใหม่ๆ ทั้งแกนนำ และ ส.ส.ในพรรคต่างกดดันใ้ห้รัฐบาลเลิกใช้มาตรา 44 เพราะเห็นว่า เป็นอำนาจพิเศษซึ่งอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เช่น "นายวัฒนา เมืองสุข" แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นหนึ่งในหลายคนที่เรียกร้องให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 โดยบอกว่า เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะไม่มีการตรวจสอบ จึงอยากให้รัฐบาลและ คสช.มีจิตสำนึกตรงนี้ด้วย 

เช่นเดียวกับ "นายพิชัย นริพทะพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่บอกว่า หาก "พล.อ.ประยุทธ์" ใช้มาตรา 44 อย่างพร่ำเพรื่อ ก็จะยิ่งทำลายการลงทุนในประเทศ เพราะนักลงทุนจะไม่เกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทย อีกทั้งอาจจะมีการฟ้องร้องจากผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากมาตรา 44  

นายพิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้มาตรา 44 เป็นกฏหมายที่ไม่เป็นยอมรับของนานาชาติ เพราะเป็นกฏหมายเฉพาะของระบอบเผด็จการ ซึ่งจะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่มีน้อยอยู่แล้ว ยิ่งลดลง

ส่วนในแถลงการณ์ของพรรค ค้านใช้มาตรา 44 เพื่อคุ้มครองเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ข้อ 2 ระบุ ว่า "คำสั่งตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ให้อำนาจแก่คนคนเดียวในการออกคำสั่งในทางใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางบริหาร นิติบัญญัติหรือตุลาการ ถือเป็นบทบัญญัติที่ขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างชัดแจ้ง ที่จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้หรือพึงใช้ด้วยความระมัดระวัง แต่เหตุผลที่อ้างในการออกคำสั่งเพื่อคุ้มครองบุคคล คณะบุคคล คณะทำงาน คณะกรรมการ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บริหารจัดการข้าวของรัฐที่กระทำไปโดยสุจริต ให้พ้นจากความรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาหรือทางวินัยนั้น ไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องออกเป็นคำสั่งดังกล่าวอีก เนื่องจากผู้ที่กระทำการไปโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้แล้ว"

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา แกนนำ "พรรคเพื่อไทย" หลายคนก็เคยเสนอให้รัฐบาลและ คสช.แก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยอำนาจพิเศษมาตรา 44 นี้ เช่น "นายสามารถ แก้วมีชัย" อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการติดตามการร่างรัฐธรรมนูญของพรรค เคยเสนอให้ "พล.ประยุทธ์" ใช้มาตรา 44 นิรโทษกรรมแก่ผู้ต้องโทษและมีคดีทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติ

"นายอำนวย คลังผา" อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย แนะให้ใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาทางการเมือง โดยประกาศบังคับให้ทุกคนต้องทำตามข้อตกลงต่างๆเพื่อยุติความขัดแย้ง สร้างบรรยากาศความปรองดอง

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคน รวมถึงล่าสุดที่ "นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร" ออกมาเสนอให้ใช้มาตรา 44 ตรวจสอบการขายข้าวเป็นอาหารสัตว์ 

จะเห็นว่า ที่ผ่านมา "พรรคเพื่อไทย" นอกจากจะออกโรงต่อต้านการใช้มาตรา 44 แล้ว ก็มี "แกนนำ" บางคนสนับสนุนให้ "บิ๊กตู่" ให้กฎหมายเดียวกันนี้ แก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งที่บอกว่า ไม่เป็นไปตามหลักสากลก็ตาม