ไม่มีทาง “บิ๊กตู่” จะเอา “บิ๊กฉัตร” ออกจากครม.!

ไม่มีทาง “บิ๊กตู่” จะเอา “บิ๊กฉัตร” ออกจากครม.!

กลายเป็นประเด็นสร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสียแล้ว หลังทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ทักท้วงกรณีกรมการค้ายภายใน ตัดสิทธิ์ บริษัท ทีพีเค เอทานอล จำกัด ในการประมูลประมูลข้าวชนิดที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ เพื่อไปทำเอนานอล โดยอ้างว่า บริษัทดังกล่าวติดแบล็กลิสต์ และการตัดสิทธิ์ครั้งนี้มีข้าราชการบางคนอ้างชื่อ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้กระทำ
 เรื่องนี้เผินๆ เหมือนไม่มีอะไร เพราะบริษัทดังกล่าวติดแบล็กลิสต์ กระนั้นเมื่อมีการไปตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังกลับว่า บริษัท ทีพีเค เอทานอล จำกัด เคยชนะการประมูลในครั้งแรกมาแล้ว แต่ครั้งนี้กรมการค้าภายใน กลับเพิ่งมาบอกว่า ถูกแบล็กลิสต์

 ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบไปยังบริษัทที่สามารถประมูลได้ต่อ กลับพบว่า ต่างติดแบล็กลิสต์จำนวนไม่น้อย โดยบริษัทหนึ่ง เป็นบริษัทที่เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดมาแล้วด้วย
 กรณีนี้จึงเป็นเรื่องราวใหญ่ ไม่จบง่ายๆ เพราะบริษัท ทีพีเค เอทานอล จำกัด  ก็นำเรื่องไปฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว และศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
 ลำพังพรรคเพื่อไทยกัดประเด็นนี้ไม่ปล่อยพอเข้าใจได้ว่า ค้านทุกเรื่องในฐานะฝ่ายตรงข้าม แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมวงด้วย แสดงว่า เรื่องนี้มีอะไรมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกลิ่นตุๆ ภายในกระทรวงพาณิชย์เอง
 แล้วคนที่ตกเป็นเป้าใหญ่ กลายเป็น “บิ๊กฉัตร” หลังถูกนำชื่อไปแอบอ้างว่า เป็นคำสั่งของรัฐมนตรี ช่วงนี้จึงถือเป็นช่วงขาลงของ “บิ๊กฉัตร” อย่างแท้จริง
 เพราะก่อนหน้านี้เอง ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ต่างเรียกร้องให้มีการปรับครม. โดยเฉพาะตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ “บิ๊กฉัตร” เองยังเคยมีข่าวว่าถอดใจในช่วงที่ยังไม่มีนางชุติมา บุญยประภัศร มาช่วยในตำแหน่งรมช.เกษตรฯ เพราะงานหนัก เนื่องจากขอบเขตงานกว้างมาก
 นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังเจอปัญหาในพื้นที่บางจังหวัดเกษตรและสหกรณ์จังหวัด กับประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ แบบเบ็ดเสร็จ และบูรณาการ หรือซิงเกิ้ลคอมมานด์ของกระทรวงเกษตรฯไม่ถูกกัน ทำให้งานไม่ขับเคลื่อนเท่าที่ควร

 ขณะที่เรื่องฝีไม้ลายมือในการแก้ไขปัญหาทางการเกษตรฯ ของ “บิ๊กฉัตร” ก็ถูกจับจ้องไม่น้อยว่า ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มีกระแสเรียกร้องเปลี่ยนตัวอยู่เนืองๆ ตลอดจนผลโพลที่ออกมาที่พบว่า เจ้ากระทรวงเกษตรฯมีคะแนนน้อยแทบทุกครั้ง
 แต่การจะปรับ “บิ๊กฉัตร” ออกจากครม. คงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะนี่คือเพื่อนสนิทของ “บิ๊กตู่” ที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) มาด้วยกัน ก่อนหน้านี้สมัยนั่งรมว.พาณิชย์ “บิ๊กฉัตร” เองก็โดนกระแสโจมตีเยอะถึงฝีไม้ลายมือ แต่จนแล้วจนรอด “บิ๊กตู่” เลือกจะโยกเพื่อนมานั่งหลบร้อนที่กระทรวงเกษตรฯแทน แทนที่จะไปเลย
 ที่สำคัญ โดยนิสัยการทำงานของ “บิ๊กตู่” จะแตกต่างจากสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่หากรัฐมนตรีคนใดตกเป็นข่าวพัวพันการทุจริต หรือถูกตรวจสอบอยู่ จะปรับออกจากครม.ทันทีเพื่อดับกระแส แต่ “บิ๊กตู่” ไม่ได้เป็นแบบนั้น 
 ดูได้จากเมื่อครั้ง “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม โดนกดดันหนักจากกรณีอุทยานราชภักดิ์ จนทุกคนคิดว่า โดนปรับออกแน่ แต่จนแล้วจนรอด “บิ๊กโด่ง” ยังอยู่ในที่เดิม 
 เพราะสำหรับ “บิ๊กตู่” แล้ว การปรับออกเท่ากับการยอมรับว่า มีการโกงกันจริงๆ!
 ดังนั้น ต่อให้มีการปรับครม. แต่ไม่มีทางเลยที่ “บิ๊กฉัตร” จะโดนเขี่ยออกจากครม.ได้ เต็มที่อาจปรับเปลี่ยนเก้าอี้ให้เท่านั้น ต่อให้ประมูลข้าวครั้งนี้จะถูกโจมตี หรือขุดคุ้ยเท่าไหร่ก็ตาม
เรียบเรียงโดย อุปนิกขิต