พันธมิตรเฮ!!! ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำ คดี"ดาวกระจาย" เหตุฟ้องซ้ำคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล!!!(รายละเอียด)

พันธมิตรเฮ!!! ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำ คดี"ดาวกระจาย" เหตุฟ้องซ้ำคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล!!!(รายละเอียด)

วันที่ 20 ก.ค.60 ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.3973/2558 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 78 ปี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 66 ปี นายพิภพ ธงไชย อายุ 68 ปี นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 63 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 68 ปี นายสุริยะใส กตะศิละ อายุ 41 ปี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อายุ 64 ปี นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือ นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี อายุ 57 ปี และนายเทิดภูมิ ใจดี อายุ 72 ปี เป็นจำเลยที่ 1-9

พันธมิตรเฮ!!! ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำ คดี"ดาวกระจาย" เหตุฟ้องซ้ำคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล!!!(รายละเอียด) ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการโดยผู้กระทำคนหนึ่งคนใดมีอาวุธเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดให้เลิกแล้วแต่ไม่เลิกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

โดยอัยการโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2558 สรุปว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2551 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 9 คนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือ กลุ่มคนเสื้อเหลือง ได้จัดชุมนุมใหญ่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยร่วมกันใช้รถยนต์บรรทุกหกล้อ 5 คัน เป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ ติดตั้งเครื่องขยายเสียงและลำโพง ต่อมาเวลากลางคืนจำเลยทั้งหมดได้นำกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมากเคลื่อนขบวนไปตามถนนราชดำเนินมุ่งหน้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อรถเวทีปราศรัยเคลื่อนผ่านไปบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้มีเจ้าพนักงานตำรวจตั้งแถวสกัดกั้นเอาไว้ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวกั้นไปได้ และได้ปิดการจราจรในถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สี่แยกมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงสี่แยก จปร.เป็นที่ชุมนุมประท้วงไปจนถึงวันที่ 5 ต.ค.2551 โดยตั้งเวทีถาวรกางเต็นท์ มีโรงครัวปรุงอาหาร

ขึงลวดหนามกั้นถนนราชดำเนินนอก ห้ามบุคคลเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุม มีการตั้งกองกำลังรักษาความปลอดภัยเรียกว่า “นักรบศรีวิชัย” นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมเครื่องมือเช่น ไม้เบสบอล หนังสติ๊ก ท่อนเหล็ก เพื่อใช้เป็นอาวุธ ส่อไปในทางที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศ ส่วนบนเวทีปราศรัยจำเลยทั้ง 9 คน ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช โดยจัดการปราศรัยปลุกระดมมวลชนที่มาฟังและร่วมชุมนุมไปตลอด 24 ชั่วโมง

ภายหลังได้ร่วมกันชักชวนผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนปิดถนนสาธารณะและเคลื่อนกำลังไปในลักษณะ ‘ดาวกระจาย’ ใช้รถยนต์บรรทุกเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ไปกดดันบริเวณสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่นกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โรงเรียน สถานศึกษา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่ชุมนุม ต้องหยุดการเรียนการสอนหลายครั้ง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยจากการชุมนุมในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย

โดยวันนี้จำเลยทั้งหมดมาฟังคำพิพากษา และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายสนธิ มาจากเรือนจำคลองเปรม

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การที่อัยการโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1-6 นั้น เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีพันธมิตรฯบุกรุกทำเนียบรัฐบาล หมายเลขดำ อ.4925/2555 ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-6 คนละ 2 ปี อัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงให้ยกฟ้องในส่วนของจำเลย 1-6

 

 

ส่วนจำเลยที่ 7 - 9 นั้นกระทำความผิดฐานมั่วสุม 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 วรรค 3 แต่เห็นควรให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 2 ปี