กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง!! หมอสูติฯ วิงวอนขอที่ยืนในสังคม หลังโดนวิจารณ์หนัก ให้ขนม 2 ห่อ แก่คนเก็บเงินล้านคืน เกรงกระทบต่อหน้าที่การงาน และเสื่อมเสีย

 จากกรณีที่ คุณสุมน มทิดุล พนักงานกระเป๋ารถเมล์ได้เก็บเงินได้จำนวน 1,120,000 บาทได้นั้น ซึ่งต่อมาได้มีคนไปติดต่อขอรับคืนซึ่งเป็นหมอสูติฯท่านหนึ่ง และหมอคนดังกล่าวได้มอบขนมเป็นการตอบแทนน้ำใจให้ 2 ห่อ ต่อมาโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ออกไป และวิจารณ์ไปต่างๆนาๆถึงความไม่เหมาะสมและแชร์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับข้อกฏหมายถึงการเก็บเงินได้ต้องได้ค่าตอบแทน หากมูลค่าเกิน30000 เราต้องได้ 10 % นั้น ภายหลังหมอสูติฯได้โทรศัพท์ไปขอโทษคุณสุมน มทิดุล และบอกเหตุผลว่าต้องการนำเงินไปใช้หนี้ให้กับครอบครัว  ทำดีไม่หวังสิ่งตอบแทน!! เปิดใจพนง. ขสมก.ลั่นแม้เป็นเพียงขนมก็ถือว่าเป็นรางวัลของการทำดีแล้ว

ฟังขึ้นไหม!! หมอสูติฯ โทรขอโทษกระเป๋ารถเมล์ เหตุไม่ให้สินน้ำใจ แจงเอาเงินไปใช้หนี้ให้ครอบครัว

คนดีต้องชื่นชม!! อดีตอาจารย์จุฬาฯ ควักเงินส่วนตัว ให้กระเป๋ารถเมล์ เก็บเงินล้าน ส่งคืน เพื่อเป็นกำลังใจในการทำดี

กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง!!  หมอสูติฯ วิงวอนขอที่ยืนในสังคม หลังโดนวิจารณ์หนัก ให้ขนม 2 ห่อ แก่คนเก็บเงินล้านคืน เกรงกระทบต่อหน้าที่การงาน และ

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 25 ส.ค  หมอสูติฯแจงว่าหลังจากข่าวที่ออกมากลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนวิพากวิจารณ์ ผมเข้าใจดีว่าในสายตาของผู้อ่านข่าวทั่วไป ไม่แปลกที่จะมองว่าสินน้ำใจดูไม่สอดคล้อง และเหมาะสมกับจำนวนเงินที่ผมได้ทำหาย แต่ที่สังคมไม่ทราบคือ ผมเอง และครอบครัวในปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาการเงินจากการประกอบธุริจส่วนตัว ซึ่งขออนุญาตไม่ลงในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และครอบครัว

กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง!!  หมอสูติฯ วิงวอนขอที่ยืนในสังคม หลังโดนวิจารณ์หนัก ให้ขนม 2 ห่อ แก่คนเก็บเงินล้านคืน เกรงกระทบต่อหน้าที่การงาน และ

"ผมขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ ขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อคุณสุมน มทิดุล และเจ้าหน้าที่ ขสมก.ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง เงินที่ทำหายเป็นจำนวนค่อนข้างมาก ผู้เก็บได้หากไม่ได้เป็นผู้ที่คุณธรรมในใจที่สูงส่ง และระบบการจัดการที่ดี คงยากที่จะได้คืน จากเหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นว่าความซื่อสัตย์สุจริตยังคงมีจริงในสังคมไทย "กระแสสังคมที่ออกมา ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และการทำงานของผมเป็นอย่างมาก จากการที่คนทั่วไปไม่ทราบข้อจำกัดและไม่มีใครทราบว่าผมได้คุยกับคุณสุมนเองเป็นการส่วนตัวแล้ว ทำให้สังคมมองผมว่าขี้เหนียว เคี่ยว หรือใดๆก็ตามที่เป็นแง่ลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน ญาติห่างๆ หลายคนทราบทันทีว่าเป็นใคร ทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงจากความเข้าใจผิด และอาจมีผลต่อการทำงานทั้งปัจจุบันและอนาคตต่ออาชีพแพทย์ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือควบคู่ไปกับการทำงาน"