ประโยชน์มากมาย..หลายๆคนมักมองข้าม!! "เดิน"อย่างถูกวิธีสุขภาพดี,ต้านโรคภัย ด้วยวิธีง่ายๆ!!..เหมาะสุดๆสำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย(รายละเอียด)

การออกกำลังกาย ด้วยวิธีง่ายๆ เเฝงไว้ด้วยประโยชน์มากมาย ที่หลายๆคนมักมองข้าม

  การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นประเภทหรือในรูปเเบบใด ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีด้วยกันทั้งสิ้้น ในการช่วยดูเเลสุขภาพ สมรรถภาพทางร่างกาย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวัยผู้สูงอายุ  เเต่หากบางบุคคลที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ เเบบหักโหมได้ ก็มีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งง่ายมากๆ สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย เเละไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายใดๆ  นั่นก็คือ การเดิน นั่นเอง  ซึ่งในเเต่ละวัน มนุษย์ทุกคนก็ต้องเดินไปไหนมาไหนอยู่เเล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน หรือ ตามสถานที่ต่างๆ เเละที่สำคัญ   การเดินจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อได้ เหมาะมากกับสาวสูงวัย หรือบุคคลที่มีปัญหากระดูก

    การเดิน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ เดินช้า เดินเร็ว และเดินแข่ง   เดินช้า คือ การเดินที่ยังร้องเพลงได้ เพราะผิวปาก ฮัมเพลงได้เพราะ หรือลากเสียงยาวๆ ได้ เช่น การเดินจงกรม เดินซื้อของ เดินเล่น  เดินเร็วห่างไกลโรค

-เดินช้า คือ การเดินที่ยังร้องเพลงได้ เพราะผิวปาก ฮัมเพลงได้เพราะ หรือลากเสียงยาวๆ ได้ เช่น การเดินจงกรม เดินซื้อของ เดินเล่น

 -เดินเร็ว หมายถึง การเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาทีต่อครั้ง เกินครึ่งชั่วโมงต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ คนปกติร่างกายแข็งแรงดี ควรเดินด้วยความเร็วได้ประมาณ 400-700 เมตร ในเวลา 6 นาที หรือเดินเร็วจนร้องเพลงไม่ได้ เพราะผิวปาก ฮัมเพลง ลากเสียงยาวๆ ไม่ได้ ถ้าเดินแล้วยังร้องเพลงเพราะ ลากเสียงยาวๆ ได้ แสดงว่ายังเดินช้าอยู่ ถ้าเดินเร็วจนพูดไม่เป็นคำ ไม่รู้เรื่องแล้ว ก็เป็นการเดินแข่ง(เดินเร็วไป)

 - เดินแข่ง เป็นกิจกรรมทางกายอย่างหนัก คือ เดินเร็วจนกระทั่งพูดไม่เป็นคำ คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะหายใจหอบเหนื่อยมาก หายใจไม่ทัน สำหรับเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ทนทาน ยืดหยุ่นให้ร่างกายผู้ที่ต้องการเดินเพื่อป้องกันหรือรักษาโรคแห่งการพอกพูนสะสม การเดินเร็วก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเดินแข่ง วิ่ง เต้นแอโรบิคก็ได้

 

     ประโยชน์ของการเดิน ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดหรือควบคุมน้ำหนัก ควบคุมระดับไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด และเพิ่มไขมันดี(แอชดีแอล) ในเลือด ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันสูง ช่วยป้องกันโรคกระดูกบาง กระดูกพรุน เพิ่มความแข็งแกร่งหรือทนทานของกล้างเนื้อ

ประโยชน์มากมาย..หลายๆคนมักมองข้าม!! "เดิน"อย่างถูกวิธีสุขภาพดี,ต้านโรคภัย ด้วยวิธีง่ายๆ!!..เหมาะสุดๆสำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย(รายละเอียด)

     นอกจากนี้ การเดินช่วยลดโอกาสเกิดโรคและช่วยรักษาโรคเบาหวาน ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็ง และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน เป็นต้น

     แผนการเดินยังช่วยคลายเครียด ทำให้หลับสนิท ลดอาการซึมเศร้า ยิ่งถ้าเดินปรับทุกข์ เดินคุยกับเพื่อนที่รู้ใจ ช่วยให้คลายทุกข์ไปได้มาก ไม่ต้องพึ่งพาบุหรี่ สุรา บริโภควัตถุที่เป็นโทษหรือยาเสพติด เป็นต้น

 

ประโยชน์มากมาย..หลายๆคนมักมองข้าม!! "เดิน"อย่างถูกวิธีสุขภาพดี,ต้านโรคภัย ด้วยวิธีง่ายๆ!!..เหมาะสุดๆสำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย(รายละเอียด)


   นอกจากนี้ ข้อดีของการเดิน ยังมีอีกมากมาย  อาทิ  การเดิน 1 กิโลเมตร ช่วยเผาผลาญได้ถึง 60 แคลอรี่  การเดินช่วยทำให้อารมณ์ดี ผ่อนคลายความตึงเครีย ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน กำจัดไขมันส่วนเกิน

 

ลักษณะท่าทางการเดินที่ถูกวิธี

1. สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ
 
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานกับลำตัว มือทั้งสองข้างกำแบบหลวมๆ มือที่แกว่งสูงระดับอกในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวไหล่ กล้ามเนื้ออก และกล้ามเนื้อหลังส่วนบน

3. จังหวะความเร็วในการก้าวเท้าสม่ำเสมอตลอดระยะทางที่เดิน ไม่เดินทอดน่องหรือเดินตามสบาย การเดินที่ดี ต้องต่อเนื่อง ไม่ใช่เดินๆหยุดๆ  ซึ่งการเดินนั้น ควรต่อเนื่องระยะเวลา 20-30 นาที  หากเป็นบุคคลที่เพิ่งเริ่มต้น ควรเริ่มจากเวลาน้อยๆ เช่น 5นาที เเล้วค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆ

4. เวลาเดินส้นเท้าสัมผัสพื้นรับน้ำหนักตัวก่อนปลายเท้า ก้าวเท้าออกไปประมาณครึ่งก้าวให้ส้นเท้าแตะพื้น  แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า เหยียบพื้นให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนขาอีกข้างเมื่อกำลังจะเคลื่อนย้ายให้ยกส้นเท้าขึ้นถ่ายน้ำหนักตัวลงที่ปลายเท้าซึ่งกดพื้นไว้ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เดิน จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อน่องและกล้ามเนื้อหน้าแข้ง เป็นการเดินเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องและเสริมบุคลิกภาพด้วย

5. ความยาวของช่วงก้าวขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดิน ที่สำคัญจะต้องไม่พยายามก้าวยาวมากเกินไปเพราะจะมีผลทำให้เกิดความเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกเร็วกว่าปกติ
6. ควรเดินเร็วๆ ก้าวถี่ๆ เเกว่งเเขน เป็นการกระตุ้นร่างกาย เเละ ระบบหัวใจ หลอดเลือด ให้ทำงานเพิ่มขึ้นจากชีวิตประจำวันปกติธรรมดาทั่วไป ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจเเข็งเเรง เพิ่มความเเข็งเเกร่งของร่างกายได้เต็มที่

 

 

 

 

ขอบคุณ

http://www.vibhavadi.com

http://www.raipoong.com

แพทย์หญิงวรรณี นิธิยานันท์  , หนังสือ คิดเอง ทำได้ ห่างไกลโรค