จัดไปเถอะ !!! "หมอมินบานเย็น" ติดเบรคโซเชียลตีฟองดราม่ากิจกรรม"วันแม่ที่ไร้แม่"...แนะเรื่องที่ควรให้ความสำคัญกว่า

กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนๆบนโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้สำหรับกิจกรรมวันแม่ที่แทบทุกโรงเรียนจัดขึ้นในทุกๆปี โดยหลักๆก็คือจะเชิญคุณแม่มาแล้วให้ลูกได้ก้มกราบพร้อมมอบพวงมาลัยดอกมะลิให้กับแม่ เพื่อแสดงถึงความรักและระลึกถึงพระคุณแม่ แต่ก็เกิดมุมมองหนึ่งขึ้นมาว่าการจัดกิจกรรมนี้จะเป็นการทำร้ายจิตใจเหล่านักเรียนที่ไม่มีคุณแม่ หรืออยู่ห่างไกลกันไปหรือไม่และเรียกร้องให้เลิกจัดกิจกรรมเช่นนี้ได้แล้ว
 

ทว่าเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา เพจครอบครัวชื่อดังอย่างเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นที่เกิดขึ้นนะ โดยระบุว่า

#สำคัญที่ลมใต้ปีก
วันนี้มีข้อความส่งมาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายข้อความเลยค่ะ
ถ้าถามหมอว่า หมอคิดอย่างไรเกี่ยวกับงานกิจกรรมวันแม่ จะส่งผลถึงสภาพจิตใจเด็กที่ขาดแม่แค่ไหน
คงอยู่ที่ 'ลมใต้ปีก' ของเด็กแต่ละคน

'ลมใต้ปีก' ก็คือ 'ใครสักคน' ที่เด็กรู้สึกปลอดภัยและพึ่งพาได้ อาจจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา หรืออาจจะเป็น 'คุณครู' ถ้าคุณครูสามารถรู้จักและเข้าใจเด็กแต่ละคนได้ ก็จะดีมาก มีครูมากมาย ที่สามารถทำให้เด็กๆรู้สึกดีขึ้น ในวันที่ขาดแม่

หมอมีความหวังเสมอกับผู้ใหญ่ในสังคมไทย ว่าจะช่วย 'ประคับประคอง' เป็น 'ลมใต้ปีก' ที่จะดูแลเด็กๆทุกคนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี

สำหรับเด็กที่ขาดแม่(อาจจะเป็นการขาดทางความรู้สึก แม่อยู่ก็เหมือนไม่อยู่ หรือขาดแบบกายภาพ แม่เสียชีวิต แม่อยู่อีกที่) ในงานวันแม่ 'ลมใต้ปีก' จะทำให้เขาผ่านพ้นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกไม่ดีในงานวันแม่ หรือวันไหนๆก็ตาม
จวบจนวันหนึ่ง ที่เติบโตขึ้นไป เขาก็จะสามารถโบยบินไปด้วยปีกของตัวเองได้ดีขึ้น และผ่านพ้นไปได้

ไม่เกี่ยวว่าวันนั้นแม่จะอยู่กับเขาหรือไม่ จะมีงานวันแม่หรือเปล่า ลมใต้ปีก สำคัญที่สุด เด็กบางคนที่แม่อยู่ด้วย ยังไม่รู้สึกอบอุ่นในวันแม่ เพราะแม่เป็นลมใต้ปีกให้เด็กไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับงานวันแม่ด้วย
ดังนั้นก็จัดไปเถอะค่ะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับกิจกรรม สัญลักษณ์ หรืออะไร ไปช่วยสร้างลมใต้ปีกให้เด็กๆของเราดีกว่า

#หมอมินบานเย็น

จัดไปเถอะ !!! "หมอมินบานเย็น" ติดเบรคโซเชียลตีฟองดราม่ากิจกรรม"วันแม่ที่ไร้แม่"...แนะเรื่องที่ควรให้ความสำคัญกว่า