ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

ผู้ป่วยเบาหวานต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปก็เสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานขึ้นตา หรือแม้แต่โรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นนอกจากจะรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งแล้ว ผู้ป่วยหลาย ๆ คน ก็ยังเสาะหาวิธีควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งอีกหนทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือการรับประทานสมุนไพร โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการรวบรวมงานศึกษาวิจัยจากแหล่งข้อมูลต่างๆ พบรายงานการวิจัยทั้งในต่างประเทศและไทยเรารวม 81 เรื่อง และมีพืชสมุนไพรถึง 54 ชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลงได้ ดังนั้นขอยกสมุนไพร 9 อย่างหลักๆที่มีสรรพคุณดี ดังนี้

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

1. ชะพลู
ชะพลูเป็นผักพื้นบ้านที่มักนิยมนำมาทานสดโดยเฉพาะการทานคู่กับเมี่ยงคำ โดยเชื่อกันว่าจะสามารถช่วยย่อยอาหารและบำรุงธาตุได้ นอกจากนี้ ชาวอีสานยังมีความเชื่อกันอีกว่าในใบชะพลูนั้นมีสรรพคุณในการแก้พิษหอยได้จึงนิยมนำมาประกอบอาหารประเภทแกงกะทิแล้วใส่ร่วมกันกับใบชะพลู และในตำรับยาพื้นบ้านไทยนั้นสามารถนำเอาชะพลูมาต้มดื่มเพื่อแก้โรคเบาหวานได้ เนื่องจากมีผลการทดลองในกระต่ายพบว่าสรรพคุณของมันช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในกระต่ายที่ป่วยเป็นเบาหวานได้เป็นอย่างดี ในขณะที่กระตายที่มีร่างกายแข็งแรงผิดปกติไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดแต่อย่างใด จึงเหมาะสมอย่างมากที่ควรนำมาประกอบอาหารเพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทาน เพราะยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง มีแคลเซียม วิตามินเอและซีสูงมาก จึงเป็นผักสมุนไพรที่ได้รับ
การแนะนำให้นำมาต้มดื่มแทนชาหรือเป็นยาดื่มได้ทั้งในคนทั่วไปและผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานด้วย และยังสามารถนำมาทำอาหาร

วิธีการใช้ ให้นำใบชะพลูทั้ง 5 (ใช้ทั้งต้นจนถึงราก) ปริมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำเปล่า 3 ขัน แล้วเคี่ยวให้เหลือเพียง 1 ขัน จากนั้นนำมาดื่มครั้งละ 1/2 แก้วกาแฟ โดยดื่มก่อนอาหาร 3 มื้อ เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง 

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

2. มะระขี้นก
มะระขี้นกเป็นสมุนไพรที่เลื่องชื่อในด้านการลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นที่รู้จักกันในหลายประเทศ ได้แก่ จีน พม่า อินเดีย แอฟริกาและอเมริกาใต้รวมถึงประเทศไทย ด้วยเพราะสารซาแรนติน (Charatin)ในผลมะระขี้นกที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ต้านอาการของโรคเบาหวาน และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน เพิ่มความทนทานต่อกลูโคสของร่างกายและช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด ยังช่วยยับยั้งเอนไซม์แอลฟากลูโคซิเดส  (Alpha-glucosidase) อันเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ขณะที่การรับประทานมะระขี้นกเป็นประจำก็สามารถชะลอความผิดปกติของไต และความเสื่อมของเส้นประสาทในร่างกายจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงสะสมเป็นเวลานาน ไม่เพียงเท่านั้นยังชะลอการเกิดโรคต้อกระจกในผู้ป่วยเบาหวานด้วย สำหรับคนไทยเรามักนิยมนำมาทานเป็นผักลวกจิ้มกับน้ำพริกหรือนำมาประกอบอาหารอื่นๆ แต่หากลวกก่อนทานก็จะช่วยลดในเรื่องรสความขมลงไปได้ มะระขี้นกเป็นผักริมรั้วที่ปลูกได้ง่ายมากมียอดอ่อนและผลที่นำมาทานได้ และสามารถนำมาคั่นเป็นน้ำดื่มป้องกันโรคได้

วิธีการใช้ นำผลมะระขี้นกสดประมาณ 8-10 ผล ผ่าเอาเมล็ดด้านในออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในเครื่องปั่นแล้วเติมน้ำเล็กจากนั้นปั่นเพื่อคั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม (ปริมาณ 100 มล.) หรือจะดื่มแบบทั้งกากเลยก็ได้เช่นเดียวกัน แนะนำให้แบ่งดื่มวันละ 3 เวลาแบบต่อเนื่องจะดีที่สุด

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

3. เตยหอม
ใบเตยหอมมีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานและอยู่คู่อาหารคาวหวานคนไทยหลายชนิดมาก แพทย์ในยุคสมัยก่อนนั้นมักนิยมใช้รากใบเตยมาทำเป็นยาเพื่อขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิตสูงและใช้เพื่อช่วยลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ในส่วนต่างๆ ยังสามารถนำมาใช้เพื่อบำรุงหัวใจให้สดชื่น แก้อาการอ่อนเพลีย ใบใช้เพื่อแก้ไข้ ร้อนใน รักษาอีสุกอีใสและโรคหัด ปัจจุบันมีการค้นพบว่าเตยหอมนั้นมีฤทธิ์ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของจังหวะหัวใจและช่วยขับปัสสาวะ คนไทยนิยมนำเตยหอมมาใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวานเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าส่วนที่นำมาใช้จะเป็นรากก็ตาม แต่สามารถเติมน้ำคั้นจากใบแล้วแต่งกลิ่นอีกทีได้ นอกจากนี้ ผู้คนปกติที่ไม่ได้ป่วยเป็นเบาหวานก็สามารถทานได้เช่นกัน

วิธีการใช้ นำรากใบเตยหอมประมาณ 1 ขีด มาสับให้เป็นท่อนเล็กต้มกับน้ำให้เดือด 1 ลิตรแล้วเคี่ยวต่อไปประมาณ 15-20 นาที แล้วนำมาดื่มเป็นยาครั้งละ 1/2 แก้ว วันละ 3 มื้อหรือจะนำมาใช้ร่วมกันกับสมุนไพรประเภทอื่นๆ ด้วยก็ได้เช่นเดียวกัน

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

4. กะเพรา  
กะเพราเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าทางยามากที่สุดอีกประเภทหนึ่งในวงการแพทย์อายุรเวท เนื่องจากสามารถนำกะเพรามาใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน แก้ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้หอบหืดและแก้ไอได้ นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือด ข้ออักเสบและผู้ป่วยในโรคระบบทางเดินหายใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสามารถกำจัดโรคเครียดได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาทางเภสัชวิทยาเกี่ยวกับกะเพราจนพบว่ามีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต่อต้านความเครียด รักษาโรคหอบหืดและช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ยังช่วยต้านฮีสตามิน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านอาการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ ช่วยลดคลอเรสเตอรอลและที่สำคัญยังมีตัวยาสำคัญที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีการศึกษาพบว่าในใบกะเพราช่วยให้เซลล์ของตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้ดียิ่งขึ้น และจากการที่ได้วิจัยการใช้ใบกะเพราในผู้ป่วยเบาหวานโดยให้ใช้ทานผงใบกะเพราวันละ 2.5 กรัมเป็นเวลา 4 สัปดาห์จะสามารถช่วยละระดับน้ำตาลในเลือดได้

วิธีการใช้ นำผงใบกะเพรามาทำเป็นชา โดยใช้ประมาณ 1 ช้อนชาต่อน้ำร้อน 1 ถ้วย สำหรับดื่มวันละ 3 ครั้ง

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

5. ตำลึง
ตำลึงเป็นสมุนไพรผักพื้นบ้านที่หาทานได้ง่ายมาก เนื่องจากมักขึ้นริมรั้วได้ตามทั่วไป มีคุณค่าอาหารสูงมากและยังพบข้อมูลจากตำรับยาอายุรเวทบอกไว้ว่าสามารถรักษาเบาหวานได้มาเนิ่นนานนับพันปีแล้ว อีกทั้งยังมีผลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถืออยู่มากมายหลายแห่งที่ให้การยืนยันในด้านของการสมุนไพรลดระดับน้ำตาลในเลือด สามารถนำมาใช้ได้ทั้งในส่วนใบ รากและผล อีกทั้งยังเป็นผักที่อุดมด้วยวิตามินเอและซีสูงมาก มีวิตามินบี 2 เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณ มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือดและช่วยในเรื่องการระบายท้องเนื่องจากมีเส้นใยอาหารสูงด้วยนั่นเอง

วิธีการใช้ ให้นำเอายอดตำลึงปริมาณ 1 กำมือหรือขนาดแค่ทานพออิ่มมาโรยเกลือหรือเหยาะกับน้ำปลาเพื่อเพิ่มอรรถรสให้มากขึ้นจากนั้นห่อด้วยใบตองแล้วนำไปเผาไฟจนสุก ให้ทานจนหมดหรืออิ่ม แนะนำให้ทานเช่นนี้ติดต่อกันนานเป็นเวลา 3 เดือน จะเห็นผลดีตามมาในด้านการรักษาเบาหวานแน่นอน

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

6. ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีระยะเวลาการใช้มาอย่างยาวนาน สามารถใช้รักษาบาดแผล รักษาอาการนอนไม่หลับ ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานดีขึ้น แก้อาการปวดหัว ผมร่วง รักษาโรคเหงือกและฟัน โรคผิวหนังพองเนื่องจากแสงแดดเผาไหม้ แก้ปัญหาสภาพผิวด่างดำและช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น สำหรับปัจจุบันจากการศึกษาวิจัยถึงคุณประโยชน์จากว่านหางจระเข้ทั้งด้านยา และเครื่องสำอางพบว่าทางยานั้นสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ทั้งจากการทดลองของสัตว์และคน ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญในร่างกาย จึงเหมาะสมมากทีเดียวสำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน

วิธีการใช้ ให้รับประทานเนื้อว่านหางจระเข้วันละ 15 กรัมติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก็จะเห็นผลขึ้น

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

7.อบเชย
อบเชยเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่มีสารสำคัญในการช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการของไซนัส โรคหวัดเล็ก-หวัดใหญ่ โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจ

วิธีการใช้ ทานผงอบเชยจีนในประมาณ 1 ช้อนชาต่อวัน โดยเป็นทางในเวลาเช้าและเย็นอย่างละครึ่งช้อนชา ซึ่งทานร่วมกับเครื่องดื่มต่างๆ เช่น นม ชา กาแฟ โอวัลตินและโกโก้ หรือจะบรรจุลงในแคปซูลทานเป็นยาได้เช่นเดียวกัน แนะนำให้ทานติดต่อกันเป็นประจำทุกวันอย่างน้อย 20 วัน

 

ไม่อยากป่วยยกมือขึ้น!!! 8 สุดยอดสมุนไพร รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด รู้แล้วรีบแชร์ด่วน

 

 8. อินทนิลน้ำ
เป็นพืชสมุนไพรที่มีดอกออกมาสวยสะดุดตาอย่างมาก สำหรับสรรพคุณของอินทนิลน้ำจะมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีสารสำคัญที่ชื่อ Corosolic acid ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายกับอินซูลิ นจึงถือว่าเป็นอินซูลินที่ได้จากธรรมชาติหากแต่ไร้ซึ่งผลข้างเคียงใดๆ นอกจากนี้ มันยังช่วยชะลอการย่อยแป้งให้กับระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้การลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เป็นไปดีขึ้น ใบอินทนิลน้ำที่เหมาะสมกับการนำมาทำยาคือใบแก่ที่มีลักษณะใกล้ผลัดใบ นอกจากนี้ เมล็ดแห้งที่ได้จากต้นอินทนิลน้ำยังมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลได้ด้วย

วิธีการใช้
- นำใบอินทนิลน้ำใบแก่ 100 กรัม และน้ำสะอาด 1 ลิตรมาต้มรวมกันให้เดือดจากนั้นเคี่ยวด้วยไฟอ่อนต่อไปประมาณ 15 นาที ปล่อยให้เย็นแล้วนำมาดื่มเป็นยาครั้งละ 1 ถ้วยชา โดยแบ่งเป็น 3 เวลา เช้า-กลางวัน และเย็น แนะนำให้ดื่มติอต่อกันเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ก็จะพบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่สังเกตได้
- ใบอินทนิลน้ำใบแห้ง 8-9 ใบ นำมาคั่วให้กรอบ จากนั้นนำมาต้มกับน้ำ ดื่มต่างน้ำชาจะสามารถต้มแล้วเก็บแช่ในตู้เย็นไว้ดื่ม แนะนำให้ดื่มติดต่อกันอย่างน้อย 12 หม้อ

 

ขอบคุณข้อมูล หมอชาวบ้าน