สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Nanny Jiraporn ได้โพสต์เรื่องราวการช่วยชีวิตสุนัขตัวหนึ่งของพลเมืองดีและกลุ่มนักเรียน โรงเรียนวัดมโนรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เห็นสุนัขถูกรถชนกลางถนนและได้เคลื่อนย้ายมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยไม่นิ่งดูดายว่าสุนัขโดนรถชนกลางถนนแล้วก็ปล่อยไว้แบบนั้นจนมีรถเหยียบซ้ำ ซึ่งในขณะที่ช่วยเคลื่อนย้ายสุนัขมายังจุดที่ปลอดภัยได้แล้ว ปรากฏว่าสุนัขตัวนั้นยังมีลมหายใจอยู่ โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า...

ขอบคุณคุณลุงและน้องๆในรูปด้วยนะคะ ที่ช่วยเหลือน้องหมา ช่วยกันเคลื่อนย้ายน้องหมาที่ถูกรถชนกลางถนนมาที่ริมถนน เพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้อาการของน้องยังไม่ดีขึ้นเลย พิกัด โรงเรียนวัดมโนรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สามารถมาช่วยเหลือน้องได้นะคะ ปล. มีหมาเกเร 1 ตัว ที่คอยจ้องจะกัดน้องด้วย แต่หมาตัวที่ยืนอยู่ในภาพปกป้องไว้ *ช่วยกันแชร์ด้วยน้า สงสารน้องจริงๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อพบเจอกับอุบัติเหตุรถชนสุนัข หลายคนอาจมองข้ามคิดว่าสุนัขตายแล้วเลยไม่ได้ช่วยเหลือทิ้งไว้แบบนั้น ซึ่งแท้จริงแล้วในบางครั้งสุนัขอาจจะยังไม่ตายหากเป็นแบบนั้นแล้วเราไม่ควรมองข้าม เพราะ 1 ชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนมีความหมายทั้งสิ้น เราจึงได้รวบรวม 5 วิธีปฏิบัติเมื่อเจอสุนัขถูกรถชน เพื่อเป็นแนวทางหากใครบังเอิญเจอเหตุการณ์ดังกล่าวจะได้ช่วยเหลือได้ถูกวิธี 

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

สำหรับวิธีการปฏิบัติเมื่อพบเจอสุนัข หรือ สัตว์ถูกรถชนมีดังนี้
1. ประเมินสถานการณ์และสภาพสัตว์ป่วย

ในการเข้าให้การช่วยเหลือน้องหมาทุกครั้ง จำไว้เสมอว่า “เราต้องปลอดภัยไว้ก่อน” ไม่ควรเร่งรีบให้ความช่วยเหลือ ถ้าตัวเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุซ้ำสอง หากเป็นถนนที่มียวดยานใช้ความเร็วสูงหรืออยู่ในที่มืด ต้องส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่คนอื่น  ๆ ทราบเสียก่อน โดยให้สัญญาณจากบริเวณทางเท้าหรือไหล่ทาง เมื่อประเมินสถานการณ์ดูแล้วว่า มีความปลอดภัยจึงสามารถเข้าไปช่วยน้องหมาได้

ในการเข้าช่วยน้องหมา ก่อนอื่นให้ประเมินสภาพสัตว์ป่วยก่อน  โดยยืนอยู่ด้านหลังตัวสัตว์ ประเมินดูว่า เกิดอะไรขึ้นกับสุนัขบ้าง สุนัขเป็นอย่างไร ไม่ควรรีบเร่งลงมือช่วยเหลือในทันที เพราะสัตว์ที่ได้รับอุบัติเหตุมักจะตกใจกลัว เจ็บปวด อาจพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อหลบหนี บางทีก็อาจแว้งมากัดเราได้ ถ้าสัตว์ยังหายใจได้ปกติ (ดูว่าช่องท้องมีการขยับขึ้น-ลง) ให้หาเชือกหรือแถบผ้ามามัดปากสุนัขไว้ก่อน ที่จะจับสุนัขหรือเข้าทำการควบคุม จากนั้นค่อย ๆ ย้ายน้องหมาเข้ามายังที่ปลอดภัยอย่างระมัดระวังขณะเดียวกันก็ควรติดต่อประสานงานกับคุณหมอเพื่อเล่าอาการที่พบและขอคำแนะนำในการปฐมพยาบาลน้องหมาเบื้องต้น

2. ตรวจสอบสัญญาณชีพ
 
การให้การปฐมพยาบาลเหตุฉุกเฉินทุกครั้ง ให้เริ่มจากการตรวจสอบสัญญาณชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะกับการหายใจ ชีพจร การเต้นของหัวใจ และสีเยื่อเมือก เพื่อนๆ สามารถศึกษาการตรวจร่างกายน้องหมาเบื้องต้นได้ในบทความ การตรวจร่างกายน้องหมา ฉบับ (เจ้าของ) มืออาชีพ

หากน้องหมาไม่หายใจ ให้เริ่มต้นช่วยหายใจ โดยใช้วิธีผายปอด mouth (คน) to nose (สุนัข) เพราะหากสัตว์ขาดออกซิเจนนานเกินกว่า 3-5 นาที จะเสียชีวิตได้ หรือกรณีหัวใจไม่เต้น เลือดก็จะไม่ถูกสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมอง ถ้าหัวใจไม่เต้นนานเกินกว่า 3-5 นาที ก็จะทำให้สัตว์เสียชีวิตได้อีกเช่นกัน ถ้าหัวใจไม่เต้น ให้เราทำการปั๊มหัวใจ โดยจับน้องหมานอนตะแคงขวา คลำหาตำแหน่งของหัวใจซึ่งจะอยู่ตรงบริเวณที่ข้อศอกซ้ายแตะตรงทรวงอกซ้ายพอดี (ประมาณซี่โครงที่ 3-6) จากนั้นให้ทำการกดนวดหัวใจเป็นจังหวะสลับกับการผายปอด จนกว่าน้องหมาจะกลับมาหายใจและหัวใจเต้นได้เอง เพื่อน ๆ สามารถศึกษาการช่วยน้องหมาได้ในบทความ กู้ชีพน้องหมาด้วยมือเปล่า 

แต่ถ้าภายใน 3-5 นาที น้องหมายังไม่มีสัญญาณชีพใด ๆ กลับมา เช่น หัวใจไม่เต้น ไม่หายใจ ไม่มีชีพจร ก็แสดงว่าน้องหมาอาจจะเสียชีวิตแล้ว สำหรับการประเมินว่าน้องหมาเสียชีวิตหรือเพียงแค่หมดสติ (unconscious) นั้น อาจจะยากสักหน่อยสำหรับคนทั่วไป เบื้องต้นลองตรวจสอบดูรูม่านตา (pupil) ถ้าน้องหมามีรูม่านตาขยายใหญ่ คงที่ ไม่ตอบสนองต่อแสง (corneal reflex) ไม่มีสัญญาณชีพ เยื่อเมือกซีดและแห้ง อาจแสดงว่าน้องหมาเสียชีวิตแล้ว ควรให้สัตวแพทย์เป็นผู้ประเมินอีกที
 
 3. ตรวจสอบภาวะเลือดออก

หลังจากน้องหมาอยู่ในภาวะคงที่แล้ว ให้เราสำรวจดูว่ามีเลือดออกตรงไหนบ้าง ซึ่งถ้ามีเลือดออกมาภายนอกร่างกายจะสังเกตได้ง่าย ให้เราควบคุมการเสียเลือด เช่น ใช้นิ่วมือหรือผ้าสะอาดกดโดยตรง ใช้การพันรัดบนตำแหน่งแผล ใช้การพันขันชะเนาะด้วยสายรัดหรือผ้าแถบไม่เกิน 15 นาที แล้วคลายออกเป็นระยะ ๆ ฯลฯ เพราะถ้าปล่อยให้น้องหมาเสียเลือดมากเกินไปจะเกิดภาวะช๊อคได้ แต่สำหรับการรายที่มีเลือดออกภายใน จะสังเกตได้ยาก ให้ทำการช่วยโดยการหยุดการเคลื่อนไหวของอวัยวะ พันรัดจากภายนอก หรือทำการประคบน้ำแข็งให้

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

4. ตรวจสอบการหักของกระดูก

ตรวจสอบการหักของกระดูกในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายน้องหมา ถ้ามีจะพบว่าบริเวณที่หักจะบวม จับแล้วเจ็บ อาจได้ยินเสียงกระดูกขยับกรอบแกรบ (Crepitus sound) หรือมีลักษณะบิดงอผิดรูป บางรายอาจเห็นกระดูกที่หักแทงทะลุออกมานอกผิวหนัง ให้หาอุปกรณ์มาดามกระดูกเบื้องต้นไว้ก่อนเช่น ไม้กระดาน แผ่นพลาสติก แผ่นโลหะ ผ้าหนา ๆ ม้วนกระดาษนิตยสารแข็ง ๆ ฯลฯ โดยเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของอวัยวะ แล้วใช้ผ้าขนหนูหรือเสื้อห่อเฝือกเอาไว้ มัดเฝือกเข้ากับขาด้วยเสื้อ หรือใช้เทปหรือเชือกพันอีกรอบหนึ่งเพื่อให้ส่วนที่หักเคลื่อนไหวน้อยที่สุด ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายน้องหมาไปที่อื่นหรือนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

5. เคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย
 
สำหรับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ มีกระดูกหัก โดยเฉพาะในส่วนของกระดูกสันหลัง จะต้องให้ความสำคัญในการเคลื่อนย้ายเป็นพิเศษ หากเป็นน้องหมาที่มีขนาดเล็กควรนำใส่ในกล่อง ลัง หรือตะกร้า ถ้าเป็นน้องหมาที่มีขนาดใหญ่ควรจะวางตัวสัตว์ลงบนไม้กระดานแผ่นเรียบแล้วใช้คนช่วยกันยกขึ้นรถสุนัขที่ โดยให้ตำแหน่งหัวอยู่ตรงแนวเดียวกับร่างกาย อย่างอหรือเงยหัวมากเกินไป อาจหาสายรัดตัวไว้กับกระดานเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขดิ้นตก หากสุนัขอาเจียนให้คว่ำหน้าสุนัขลง ป้องกันการสำลักเข้าปอด 
 
ถ้าเป็นไปได้ให้ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่มีความรู้ความชำนาญในการเคลื่อนย้าย เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปด้วยความปลอดภัยและใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด รวมถึงติดต่อกับสถานพยาบาลสัตว์ที่จะพาน้องหมาไปหาล่วงหน้า เพื่อให้คุณหมอและเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน

สุนัขที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ส่วนใหญ่หากไม่เสียชีวิตก็มักจะพิการ ซึ่งการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องสามารถช่วยลดความสูญเสียดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ดี ในการเข้าให้การช่วยเหลือสุนัขนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเราไว้ก่อนเสมอ อย่าประมาทเป็นอันขาด ผู้เข้าช่วยต้องมีสติอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นผู้โชคร้ายรายต่อไปก็อาจเป็นเราเสียเอง

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!

สนั่นโซเชียล!! กลุ่มนักเรียนชายยืนล้อมสุนัข 2 ตัว เหมือนไม่มีอะไรแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ สอบถามถึงรู้ทำน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์รัวๆ!!
 

ขอบคุณ :  Nanny Jiraporn  หมอต้น ด็อกไอไลค์