หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆ รถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้ง จงมีสติ!!

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ เชษฐดนัย รังคะภูติ ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัยของรุ่นน้องคนหนึ่ง ขณะขับรถอยู่บนถนนรามอินทรา ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างดึก โดยรุ่นน้องคนดังกล่าวได้รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของล้อรถว่ารถอาจโดนตะปูจนยางรั่ว แต่ก็คอยสังเกตสิ่งรอบข้างไว้ตลอดเวลาด้วยเช่นกันว่าไม่ปลอดภัยที่จะจอด เพราะเป็นเวลากลางคืน และเห็นชายสองคนขี่จยย.ใส่หมวกปิดหน้าขี่ตามมาติดๆ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเลยไม่ได้จอดรถ ตัดสินใจขับไปยังจุดที่ปลอดภัย และเมื่อเห็นยางรถของตนเองถึงกับอึ้ง เพราะรถได้เหยียบเข้ากับตะปูเรือใบขนาดใหญ่ โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า...

ภัยสังคม!!!!!! มีลูกค้ารุ่นน้องเข้ามาแก้ไขเรื่องยาง พร้อมกับเล่าเรื่องระทึกเมื่อคืนตอนสี่ทุ่มกว่าๆ น้องเอ๋ใช้เส้นทางจากถนนรามอินทรา ซอยข้างๆ ห้าง Foodland เพื่อไปออกถนนห้าแยกวัชรพล วิ่งได้ไปถึงกลางทางซึ่งค่อนข้างจะเปลี่ยวๆ เป็นถนน 2 เลน รถToyota Altis ก็ได้ไปเหยียบอะไรสักอย่าง รถเอียงๆไป พร้อมมีเสียงกุกๆตลอดเวลาที่ล้อหมุน น้องเอ๋ชะลอรถเพื่อที่จะจอด แต่ก็สังเกตว่ามีรถมอเตอร์ไซค์คันนึง มีชาย 2 คนใส่หมวกปิดหน้าขี่ตามมาติดๆ เมื่อน้องเอ๋จอด มอเตอร์ไซค์ก็ได้ขี่เลยไปและวนไปวนมา เหมือนจะรออะไรสักอย่าง!!!!! น้องเอ๋เป็นทหารอากาศแต่วันนั้นไม่ได้พกอาวุธประจำกาย ด้วยจิตใต้สำนึกว่า น่าจะมีอันตราย เลยไม่ลงจากรถยอมขับรถแบบพิการแล้วไปในที่ที่ปลอดภัย เมื่อเห็นที่ยางรถของตัวเองถึงกับอึ้ง....โปรดระมัดระวังกันด้วยนะครับ...มิจฉาชีพจ้องคุณอยู่.... #ตั้งสติมีสติ #อย่าลงจากรถ #โปรดไลค์โปรดแชร์ด้วยน่ากลัวมาก

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

อย่างไรก็ตามเมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์รถยางรั่ว หรือเหยียบสิ่งของจนทำให้รถเกิดผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติ และสังเกตรอบข้างว่าปลอดภัยเหมาะสมที่จะจอดรถหรือไม่ ถ้าไม่ควรประคองรถแล้วพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเสียก่อนแล้วค่อยลงจากรถ เมื่อเห็นแน่ชัดแล้วว่าปลอดภัยสิ่งต่อไปคือการตรวจยางล้อรถ หากยางรั่ว แบน หรือโดนตะปูสิ่งที่ควรปฏิบัติมีดังนี้

ข้อควรปฏิบัติ ทำอย่างไรเมื่อยางรั่ว แบน หรือโดนตะปูทิ่ม

เริ่มจากในกรณีที่ยางรั่วขณะที่ขับรถอยู่ เราจะรู้สึกตัวได้ก็ต่อเมื่อ เสียงยางรถของเรามันส่งเสียงแปลกๆขึ้นมาประมาณว่า ตับๆ หากได้ยินเสียงเช่นนี้ ให้จอดรถข้างทางทันทีหากเป็นไปได้พยายามอย่าขับบดไป ควรเลือกจอดรถในพื้นที่ที่เรียบและไม่ลาดเอียงจะดีที่สุด จากนั้นลงไปตรวจสอบว่าล้อไหนที่ยางรั่ว และหากจำเป็นต้องเปลี่ยนยางริมถนน ควรนำป้ายหรือหาวัตถุไปวางด้านท้ายห่างจากตัวรถประมาณ 20-30 เมตร เพื่อเป็นจุดสังเกตและป้องกันอุบัติเหตุ

ในกรณีที่รถจอดอยู่กับที่แล้วยางรั่ว เนื่องจากยางสมัยนี้มันไม่มียางใน เมื่อโดนของมีคม มันจะค่อยๆ รั่วออกมาไม่ระเบิดในทันที กว่าจะรู้ตัวก็ติดพื้นซะแล้ว วิธีนี้ก็ทำคล้ายๆ กัน โดยให้ตรวจดูว่าพื้นที่ดังกล่าว ลาดเอียงรึเปล่า หากลาดเอียง อาจต้องออกแรงขยับรถซักนิด

เมื่อได้ยุทธภูมิที่ดีแล้ว ขั้นแรก จัดอุปกรณ์ ชุดเปลี่ยนยางอะไหล่โดยมากจะอยู่ที่ ท้ายรถ หรือ ภายใต้ห้องโดยสาร ซึ่งการเปลี่ยนยางอะไหล่ สิ่งที่ต้องมีก็คือ แม่แรง ประแจสำหรับขันถอดยาง บล๊อกถอดน๊อตล้อ และยางอะไหล่ ในสภาพพร้อมใช้งานครับ เมื่ออุปกรณ์พร้อมก็เริ่มจาก ขึ้นเบรคมือ หรือเข้าเกียร์ไว้ จากนั้นสอดแม่แรงลงไปใต้ท้องรถ หาจุดที่เหมาะสมในการขึ้นแม่แรง ส่วนมากจะเน้นที่ ใต้ปีกนก หรือ ใต้ชุดแหนบ แต่ยังไม่ต้องขึ้นแม่แรงในขั้นตอนนี้
จากนั้น ใช้ประแจและบล๊อค ขันน๊อตล้อ ที่ยางรั่วครับ โดยใช้การขันทวนเข็มนาฬิกาสำหรับถอดออกนะครับ เมื่อขันน๊อตตัวที่ 1 ออกมาแล้ว ให้ขันตัวที่อยู่ตรงข้ามต่อเสมอ แนะนำหากขันไม่ออก ใช้พลังขาได้เลย

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หลังจากถอดน๊อตล้อจนครบ ก็ขึ้นแม่แรง อย่าลืมที่บอกว่าให้ดึงเบรคมือ หรือ ใส่เกียร์ไว้ เดี๋ยวรถไหลลงมาทับ ให้ขึ้นแม่แรงช้าๆไม่ต้องเร็วมาก โดยยกให้ล้อลอยจากพื้นประมาณ 2-3 นิ้ว เพื่อความสะดวกในการถอดล้อ จากนั้นก็ยกยางที่รั่วออกมา และนำยางอะไหล่ใส่เข้าไปแทนที่ ขันน๊อตล้อตามเข็มนาฬิกาให้ครบทุกตัว ในขั้นตอนนี้ขันให้พอตึงมือ 

ขั้นตอนสุดท้าย ลดแม่แรงลง จนล้อรถติดพื้น จากนั้นนำแม่แรงออด พร้อมกับขันน๊อตล้อให้แน่นที่สุดอีกซัก 1 ครั้ง ปลดเบรคมือ ปลดเกียร์ จากนั้นก็เดินทางต่อได้เลย เพียงไม่กี่ขั้นตอนแค่นี้ ก็จะสามารถเดินทางต่อได้อย่างสบายใจ แต่หากไม่มั่นใจว่าตัวเราขันแน่นพอหรือยัง ก็อย่าเพิ่งขับเร็ว ให้หาร้านยางช่วยขันย้ำอีกทีให้แน่ใจ ทางที่ดีก็ปะยางที่รั่วไปด้วยเลย

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

หนุ่มขับรถยามวิกาลจู่ๆรถเอียงพร้อมมีเสียงกุกกัก สังเกตข้างทางจยย.สวมหมวกปิดหน้าตามมาติดๆรีบหาที่ปลอดภัย พอจอดได้มองดูที่ล้อถึงกับอึ้งจงมีสติ

 

ขอบคุณ : เชษฐดนัย รังคะภูติ   Thaicarlover.com