คิดผิดมหันต์!! ยิ่งลักษณ์ "หนี" เสียมวลชน ได้ใจ คสช.

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยยอมรับว่าเสียใจที่ฝ่ายความมั่นคงตกเป็นจำเลย พร้อมถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หนีออกนอกประเทศได้อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ว่า ใช้ช่องทางใดในการหลบหนี มีคนให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่เกินความสามารถที่จะหาตัว
 

 

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีประชาชนผู้สนับสนุนหลายพันคนต่างมาเฝ้ารอเพื่อให้กำลังใจ แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลา "ยิ่งลักษณ์" กลับอ้างป่วย ด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ต่อมาจึงได้ทราบภายหลังว่าอดีตนายกฯหญิงได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ก่อนหน้านั้นมีการวิเคราะห์กันว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้ตามกระบวนการจนถึงที่สุดแล้ว และสุดท้ายแม้จะเข้าคุก ทว่าผลดีก็ยังอยู่ที่ฝ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย(พท.) เพราะจะได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สมแล้วที่เป็นพรรคการเมืองของคนรักประชาธิปไตย

หลายฝ่ายเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย จะได้คะแนนอย่างล้นหลาม หากเมื่อศาลพิพากษาให้มีความผิด แล้วยอมติดคุก ซึ่งคนจะมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเหมือนนักต่อสู้ ที่ยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อหลักการที่ถูกต้อง แม้จะถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ที่กล้าเสี่ยง อยู่ข้างประชาชน ไม่หนี

อย่างไรก็ตาม เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลือกที่จะหนีไปต่างประเทศ ตามรอยพี่ชายนายทักษิณ ชินวัตร เชื่อว่ามวลชนจะลดความศรัทธาลงไปไม่มากก็น้อย นั่นเพราะภาพวานฝันที่อยากให้ น.ส.ยิ่งลัษณ์ เป็นนายกฯในอุดมคติ ถูกพังทลายย่อยยับลงเมื่อทราบข่าวการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้ว

 

 

และแน่นอนว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนี ย่อมจะส่งผลดีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาขึ้นศาลทุกครั้งที่มีการเบิกความ แต่กลับหนีเมื่อจะมีการพิพากษาในคดี นั่นเท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีเพราะกลัว

"ความผิด" ซึ่ง คสช.สามารถอ้างได้อย่างไม่มีข้อกังขา ดังนั้นการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากจะเสียฐานเสียงซึ่งเป็นมวลชนฝ่ายสนับสนุนแล้ว ยังได้ใจและเพิ่มความชอบธรรมแก่ คสช.ด้วย.