- 04 ก.ย. 2560
จับตาสามทหารเสือตท. 20 ณัฐ-อภิรัชต์-กู้เกียรติ ดูแลสงบคุมเลือกตั้งปีหน้า บทพิสูจน์ฝีมือ น้องรักตู่-เด็กสร้างป้อม กลางการเมืองร้อนๆ
แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารปลายปีที่เพิ่งโปรดเกล้าลงมาเมื่อศุกร์ที่แล้ว ถือว่าเป็นปีทองของเตรียมทหารรุ่น 20 (ตท.20) หรือ จปร.31 เพราะแกนนำแกนนอนในรุ่นถือว่าผงาดขึ้นกันยกแผงแบบจัดหนักจัดเต็ม
โดยเฉพาะการผงาดขึ้นมาจ่อคิวในตำแหน่งสำคัญๆของ “ 3 ทหารเสือ” ประกอบด้วย “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ที่ขยับตำแหน่งจากหัวหน้าฝ่ายเสธ.รมว.กลาโหมลงตำแหน่งหลักเป็นรองปลัดกลาโหมจ่อคิวเป็นปลัดกลาโหมในอนาคต “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไลน์ 5 เสือทบ.เป็นพล.อ.ในตำแหน่งผช.ผบ.ทบ.จ่อคิวเป็นผบ.ทบ.หลัง “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.คนปัจจุบันที่จะเกษียณในปีหน้า และ “บิ๊กตู่เล็ก” พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่ขยับตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ยศเท่าเดิมแต่อำนาจมากกว่าเดิม
โดยที่ทั้ง 3 คนถือเป็นนายทหารดาวโรจน์อนาคตไกลของกองทัพ แถมยังเป็นนายทหารที่มี “แบ๊กดี”
ในรายของพล.ท.อภิรัชต์นั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นน้องรักน้องเลิฟประเภทมองตาก็รู้ใจพล.อ.ประยุทธ์ และตั้งแต่ปฏิวัติมาพล.อ.ประยุทธ์ก็เรียกใช้บริการพล.ท.อภิรัชต์มาตลอดแทบทุกเรื่อง จัดระเบียบวินมอเตอร์ไซด์ จัดแถวรถตู้ ปราบมาเฟีย เคลียร์หวยเถื่อน เขยื้อนกองสลาก สารพัดจิปาถะ
ส่วนในรายของพล.อ.ณัฐกับพล.ท.กู้เกียรติในกองทัพก็รู้ดีว่าล้วนเป็น “เด็กสร้าง เด็กในคาถา” ของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เพราะดูแลอุปถัมน์ค้ำชูกันมาตลอดตั้งแต่เป็นนายทหารหนุ่มๆยันเติบโตเป็นนายพล
โดยฝีไม้ลายมือของทั้ง 3 คนก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะไม่ได้เป็นประเภท “ขาลอย –ขึ้นลิฟท์” ตามนายมาอย่างเดียวแต่เคยคุมกำลังมาแล้วทั้งหมด
กล่าวคือสำหรับพล.อ.ณัฐนั้นอดีตเคยเป็น ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี (ผบ.จทบ.กาญจนบุรี) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 (ผบ.มทบ.14) ผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9) รองเสธ.ทบ. หัวหน้าสำนักงานรมว.กลาโหม และ หัวหน้าฝ่ายเสธ.รมว.กลาโหม
ขณะที่พล.ท.อภิรัชต์เป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญ อดีตเคยเป็นนักบินประจำกองบินปีกหมุนศูนย์การบินทหารบก ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน 2 รอ.) ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11 รอ.) อดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 (ผบ.มทบ.15) อดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์(ผบ.พล.1 รอ.) แม่ทัพน้อยที่ 1 ก่อนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1
ส่วนพล.ท.กู้เกียรติเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์นั้น อดีตเคยเป็นทั้งผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 และ แม่ทัพน้อยที่ 1 เรียกว่าประวัติรับราชการแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดาเพราะผ่านไลน์คอมมานด์เป็นผบ.หน่วยมาตลอด เรื่องการปกครองการตัดสินใจไม่ใช่ปัญหา
ขณะที่เรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจนั้น พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรรู้จักทั้ง 3 คนดีอยู่แล้ว เพราะรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี งานนี้สามทหารเสือตท.20 เลยได้พาเหรดจ่อคิวขึ้นคุมกองทัพแบบนอนมาหากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองพลิกขั้ว พล.อ.ณัฐจะคุมภาพรวมและธุรการของกลาโหม พล.ท.อภิรัชต์จะคุมกำลังและความมั่นคงเป็นหลัก ส่วนพล.ท.กู้เกียรติก็จะคุมความสงบในเมืองหลวงคุ้มกันรัฐบาล
โดยทั้ง 3 คนมีภารกิจสำคัญที่ต้องดูแลสถานการณ์ความสงบของบ้านเมืองที่อาจเกิดคลื่นใต้น้ำได้ตลอด ไปพร้อมๆกับการคุมเลือกตั้งในปีหน้า
ที่ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ออกมาเปิดไทม์ไลน์เลือกตั้งทั่วไปแล้วว่าอาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า 2561 ราวเดือนสิงหาคม ทั้งหลายทั้งมวลล้วนเป็น “งานหนัก งานช้าง” ที่ 3 เกลอตท.20 ต้องพิสูจน์ตัวเองให้สมกับความไว้วางใจของนายกฯตู่และนายใหญ่ป้อม ที่อนาคตการเมืองร้อนๆ กำลังรออยู่ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองก็พร้อมมีเรื่องวุ่นๆ ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอตลอดเวลา
/////////////////