“ปูหนีผ่านเขมร-สตึงนัม” ประเด็นร้อน “บิ๊กตู่ถกฮุนเซน” หลังเช้านี้หอบรัฐมนตรีคนสำคัญ  บินฝ่าสายฝนถกครม.ร่วมไทยเขมรที่พนมเปญ

“ปูหนีผ่านเขมร-สตึงมนัม” ประเด็นร้อน “บิ๊กตู่ถกฮุนเซน” หลังเช้านี้หอบรัฐมนตรีคนสำคัญ บินฝ่าสายฝนถกครม.ร่วมไทยเขมรที่พนมเปญ

เช้านี้ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า  ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯพร้อมรัฐมนตรีคนสำคัญของรัฐบาล อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ฯลฯ  เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมประชุมครม.ไทย-กัมพูชา อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3

 

 

 

 

 

โดยงานนี้ต้องจับตาดูผลการหารือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับสมเด็จฯฮุนเซนว่าจะมีอะไรตื่นลึกหนาบางแค่ไหน  เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่กว่าก่อนหน้านี้ไทยกับกัมพูชามีปัญหาระหองระแหงกระทบกระทั่งกันมาโดยตลอด ทั้งเรื่องปัญหาข้อพิพาทตามแนวชายแดน ปัญหาเขาพระวิหาร  ปัญหาเรื่องการเมือง  บ่อยครั้งกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศใหญ่โต

 ล่าสุดก็เป็นกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่มีข่าวว่าหลบหนีคดีโครงการรับจำนำข้าวจากชายแดนไทยผ่านช่องธรรมชาติไปออกที่กัมพูชาก่อนต่อเครื่องไปยังสิงคโปร์และหนีไปดูไบ  รวมถึงกรณีที่ไทยมีความสนใจลงทุนทำโรงไฟฟ้าสตึงมนัมในกัมพูชาเพื่อเอาไฟฟ้ามาใช้ในประเทศและดึงน้ำมาใช้ในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)  แต่ต้องแลกกับการใช้เงินเบื้องต้น 9 พันล้านบาทในการสร้างโรงไฟฟ้า 24 เมกกะวัตต์ แลกกับน้ำฟรี 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

 หนำซ้ำถ้าทำครบวงจรทั้งเรื่องไฟฟ้าและเรื่องน้ำไทยอาจต้องลงทุนเกือบแสนล้านบาท  จุดนี้เลยกลายเป็นประเด็นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าไทยจะตกเป็นเบี้ยล่างกัมพูชา และอาจเกิดกรณี “ค่าโง่สตึงมนัม-ค่าโง่กัมพูชา” ได้  ทั้งหมดคือประเด็นที่ต้องจับตาว่าผู้นำทั้งสองประเทศจะมีการหยิบประเด็นร้อนๆเหล่านี้มาหารือหรือไม่   

 

 

สำหรับกำหนดการของนายกฯหลังเดินทางถึงกรุงพนมเปญนั้น  จะมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ  ก่อนจะมีการหารือทวิภาคีระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับสมเด็จฯฮุนเซน นายกฯกัมพูชา  จากนั้นจะประชุมร่วมครม.ไทย กัมพูชา อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3  

โดยจะมีการลงนามเป็นสักขีพยานเอกสาร 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1.แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 ภายใต้หุ้นส่วนสันติภาพและการพัฒนา และ 2.ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย – กัมพูชา ที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน

 ก่อนที่ช่วงบ่ายพล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคาราวะ สมเด็จวิบุลเสนาภักดีสาย ชุม ประธานวุฒิสภา และรักษาการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งประเทศกัมพูชา จากนั้นจะเดินทางไปวางพวงมาลา ณ วิมานเอกราช และเดินทางต่อไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระบรมรัตนโกศ ก่อนที่จะเป็นประธานร่วมกับสมเด็จฯฮุนเซนในพิธีเปิดสวนมิตรไทย-กัมพูชากลางกรุงพนมเปญ   และมีกำหนดการเดินทางถึงประเทศไทยในเวลา 18.15 น.

////////////////////