ดูกันเอา !!!! "ไพศาล" ไขข้อข้องใจ ผอ.พศ. ย้ายช่วยราชการ...ไม่ยอมให้ก้าวล่วงละเมิดพระราชอำนาจแน่นอน (รายละเอียดชัด)

สืบเนื่องจากกรณีมีคำสั่งโยกย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ จากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีแทน
 

โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 จากเอกสารบันทึกข้อความ สำนักงานรองนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอรับโอนราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

มีใจความคร่าวๆระบุว่า ด้วยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เสนอขอรับโอนพันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ทางราชการและทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้พิจารณาแล้วว่าเห็นชอบด้วยตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ จึงเห็นสมควรให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้มีการเซ็นอนุมัติแล้วจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ต่อมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวว่า ไม่ใช่การถูกลงโทษหรือการถูกเด้ง เพราะตนเองพอใจการทำงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร เห็นได้จากการแต่งตั้งครั้งนี้ ที่ได้เลื่อนมาดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการพิจารณาเห็นชอบตามความเหมาะสม ตามที่ได้มีการหารือและต้นสังกัดได้ส่งเรื่องขึ้นมา เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงศ์พร ถือว่าได้ทำงานสำเร็จไปแล้วในบางเรื่อง และเป็นคนดีที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อมาทำงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะได้ช่วยงานของตนเองในด้านการปฏิรูป

ส่วนทางด้านพ.ต.ท.พงศ์พร ได้ทำหนังสือส่งถึงนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยเนื้อหาบางส่วนได้โต้แย้งการตั้งรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ว่าเป็นไปโดยเจ้าตัวไม่รับรู้และไม่ได้เป็นไปด้วยความสมัครใจ อีกทั้งการย้ายตนเองนั้นอาจกระทบต่อพระราชอำนาจ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 บนเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ได้โพสต์อธิบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเข้าใจระบุว่า

เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพฯครับ ได้อ่านข่าวว่าวันนี้นายกตู่มีคำสั่งให้ผอ.พศ.ไปช่วยราชการที่สำนักนายก ก็ขออธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจดังนี้
เรื่องผอ.พศ.ขณะนี้มีอยู่ 2 กรณี คือ

1. กรณีสั่งไปช่วยราชการ 
นายกตู่มีคำสั่งวันนี้อาศัยอำนาจตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งให้ไปช่วยราชการ ซึ่งเป็นอำนาจของนายกตามกฎหมาย ถ้าผอ.พศ.ยอมรับ เรื่องก็จบไป

2. กรณีย้ายตำแหน่งจากตำแหน่งผอ.พศ. ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายก 
เนื่องจากตำแหน่ง ผอ.พศ.นั้น รัฐบาลไม่มีอำนาจย้ายเอง ต้องมีพระราชโองการจึงจะย้ายได้ รัฐบาลมีหน้าที่กราบบังคมทูลเพื่อมีพระราชโองการโปรดเกล้าให้ย้าย ซึ่งมติ ครม. ก็ทำชอบด้วยราชนิติแล้ว จึงต้องรอพระราชโองการก่อน
ขณะนี้ ผอ.พศ จึงดำรงตำแหน่งนั้นอยู่ จะพ้นจากตำแหน่งต่อเมื่อมีพระราชโองการ

กรณีทางสำนักนายกมีคำสั่งให้ ผอ.พศ.ไปรับผิดชอบจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมานั้น เป็นการมีคำสั่ง ที่เข้าใจได้ว่าถูกย้ายมาประจำแล้ว ก็ต้องดูว่าจะออกคำสั่งใหม่หรือไม่

ในการกราบบังคมทูลเพื่อมีพระราชโองการโปรดเกล้าให้ย้ายนั้น หากเวลาล่วงเลยพอสมควรแล้วมิได้ทรงโปรดก็ดี หรือพระราชทานคืนมาก็ดี รัฐบาลย่อมต้องทบทวนการโยกย้ายนั้น เพราะต้องถือว่าเป็นพระราชอำนาจที่จะทรงโปรดเกล้าหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเป็นไปตามประเพณีการปกครอง ในระบอบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้ใครก้าวล่วงละเมิดพระราชอำนาจอย่างแน่นอน

 

อ้างอิง Paisal Puechmongkol