- 12 ก.ย. 2560
อธิบดีกรมที่ดิน จะตอบอย่างไร!!! เมื่อ อนุพงษ์ ยืนยันประชาชนไม่เห็นด้วย ให้ กระทิงแดงใช้ที่ดินป่าชุมชน แต่ด้านกรมที่ดินแจงไม่มีเอกสารที่เกี่ยวกับกับก
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน“ ได้มีการเผยแพร่เอกสาร 2 ฉบับ ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2559 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ลงนามอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ใช้ที่สาธารณะห้วยเม็ก บ้านหนองแต้ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ 2 งาน เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม ตามหนังสือของมหาดไทย ที่ มท 0208.4/886 ของสำนักกฎหมาย สป. ซึ่ง บริษัทดังกล่าวนั้นเป็นของทายาทตระกูลอยู่วิทยา ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจกระทิงแดง ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นเมื่อ มท.1 เซ็นอนุมัติให้กระทิงแดงใช้ที่ดินสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนเพื่อขยายเขตโรงงาน โดยอ้างสภาพแห้งแล้งชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วป่าไม่ได้แห้งแล้งตามที่เอกสารระบุทั้งนี้ยังมีชาวบ้านได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในการเก็บของป่าเพื่อดำรงชีวิต
ด้าน นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ออกมาชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่กระทรวงมหาดไทยเซ็นยกป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก 31 ไร่ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้กับบริษัทกลุ่มกระทิงแดงว่า การอนุญาตดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 และที่ผ่านมา โดยทางด้าน บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเมนท์ (กระทิงแดง) จำกัด ได้ยื่นขอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินแปลงห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ขก 2321 หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ. ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 31-2-63 ไร่นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นที่เก็บกักน้ำสำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นลักษณะแหล่งน้ำตามวัตถุประสงค์เดิมของที่สาธารณประโยชน์ ทางจังหวัดขอนแก่นได้รายงานข้อเท็จจริงว่าได้ปฏิบัติตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 ครบถ้วนแล้ว ได้ข้อสรุปคือสภาพที่ดินแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันราษฎร ไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ไม่มีทรัพยากรอันมีค่าในที่ดิน โดยทางอบต.บ้านดงและชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีการประชุมลงมติเห็นชอบให้บริษัทเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะห้วยเม็กได้ โดยไม่มีการคัดค้าน
ล่าสุด 12 ก.ย. เวลา 08.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังขาในการอนุมัติป่าชุมชนในพื้นที่โคกห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จำนวน 31 ไร่ ให้กับเอกชนว่า ตามหลักเกณฑ์การขอใช้พื้นที่สาธารณะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชน เอกชน หรือหน่วยราชการ แต่หากทำผิดเงื่อนไขสามารถเพิกถอนได้ทันที อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าการดำเนินการถูกต้องทั้งหมด ถ้าไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เจ้าหน้าที่ส่วนใดที่ดำเนินการต้องรับโทษทั้งนั้น
“จากการตรวจสอบก็น่าจะเป็นจริงตามที่ประชาชนแสดงความไม่เห็นด้วย แต่เอกสารกรมที่ดินยืนยันว่าไม่มีเอกสารที่เกี่ยวกับความไม่เห็นด้วยของประชาชน ซึ่งเช้าวันนี้รองอธิบดีกรมที่ดินได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลว่าทำไมถึงไม่มีเอกสารที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ผมยืนยันแค่มีคนไม่เห็นด้วยแค่คนเดียว ก็ไม่ให้แล้ว เพราะมันเป็นที่สาธารณะร่วมกัน ทำไมถึงไม่มีเอกสารขึ้นมา ก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด ตั้งแต่ระดับจังหวัด รวมถึงคณะกรรมการทั้งหมดได้รู้เรื่องนี้หรือไหม และเมื่อตรวจสอบยืนยันได้ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วย ก็จะดำเนินการเพิกถอนคำสั่งทันที ในเมื่อประชาชนที่ใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อน ก็มีเหตุให้ยกเลิกคำสั่ง และต้องหาคนทำผิดให้ได้ เอกสารร้องเรียนไม่มีขึ้นมา ส่วนการทำประชาพิจารณ์จะมีปัญหาหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ จึงให้ผู้เกี่ยวข้องลงไปหาข้อเท็จจริง การอนุมัติไปเป็นกฎหมาย เป็นคำสั่งทางปกครอง การยกเลิกต้องอยู่บนกฎหมาย เช่นตรวจสอบแล้วมีคนได้รับผลกระทบ มีเอกสารยืนยัน แต่ผมไม่ทำถึง 90 วัน ผมสั่งไปภายใน 15 วันต้องเสร็จ ถ้าทราบว่ามีการใช้เอกสารที่ไม่ครบส่งขึ้นมาก็จะเพิกถอนเลย การดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้อำนาจโดยมิชอบ โทษทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวินัย อาญา ที่สามารถดำเนินการได้จะดำเนินการ โดยเฉพาะโทษทางวินัยโดน ส่วนโทษทางอาญาถ้ามีหลักฐานว่าไปทำอะไรเกี่ยวกับเอกสารโดยมิชอบก็โดน นอกจากนั้น เรื่องของการทุจริตก็ต้องตรวจสอบด้วย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วยแต่ในเอกสารกลับระบุว่าประชาชนเห็นด้วยเอกฉันท์ ขั้นตอนการส่งเอกสารขึ้นมาเป็นเรื่องหนึ่งที่ตนสงสัย" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว