หลังจากที่ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเซ็นอนุมัติยกป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก 31 ไร่

‘กระทิงแดง’ แจง ไม่เคยคิดหาประโยชน์จากป่าห้วยเม็ก แค่ต้องการช่วยชาวบ้านอนุรักษ์ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสีเขียว

หลังจากที่ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเซ็นอนุมัติยกป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก 31 ไร่ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้กับ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 ว่า เรื่องการขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ สามารถขอได้โดยขอใช้ได้ตามระเบียบ 5 ปี แต่หากมีการทำผิดเงื่อนไข ก็สามารถเพิกถอนได้ในทันที ซึ่งกระบวนการขอใช้พื้นที่จะต้องทำประชาคมจากประชาชน แล้วส่งเรื่องมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงสู่งไปยังทางด้านคณะกรรมการจังหวัด และส่งเรื่อง ไปยังกรมที่ดิน ก่อนที่จะเสนอมายังกระทรวงมหาดไทย

 

โดยทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยืนยันว่าการดำเนินการตามกระบวนการเหล่านี้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งหากพบใครทำผิดไม่ว่าเจ้าหน้าที่ระดับใดก็ต้องลงโทษ พร้อมกับยืนยันว่า ช่วงดึกของวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งคืนพบว่า มีประชาชนเห็นคัดค้านกับเรื่องดังกล่าว แต่เหตุใดไม่มีเอกสารที่ประชาชนคัดค้านส่งขึ้นมา ซึ่งได้ส่งรองอธิบดีกรมที่ดินลงไปตรวจสอบในพื้นที่แล้วและหากพบว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจะต้องดำเนินการยกเลิกการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวโดยทันที และต้องดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ อย่างไรก็ตามได้สั่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้กรมที่ดินได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว

 

 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ยังได้พูดถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงกันเรื่องป่าชุมชน ยืนยันว่าเป็นคนละแปลงกัน แต่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งที่ดินตรงนั้นไม่มีการขออนุญาตใช้ ส่วนกรณีที่มีการปิดถนนเพื่อใช้เป็นเส้นทางส่วนตัว สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้เพราะไม่มีใครสามารถปิดถนนหลวงได้ อย่างไรก็ตามขอย้ำอีกครั้งว่าหากใครใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่ออะไรก็แล้วแต่ และหากมีการทุจริตใครทำผิดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย


ขณะที่ทางด้าน นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน ได้กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวจากกรณีมีข้อสังเกต ว่า ห้วยเม็กและลำห้วยคุมมุมเป็นต้นน้ำของลำน้ำพองนั้น กรมที่ดินได้ประสานงานกับ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่นเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าที่สาธารณประโยชน์ห้วยเม็ก บริเวณที่บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้รับอนุญาตฯ เดิมชาวบ้านเรียกว่าฮอมเม็ก เนื้อที่ 31-2-63ไร่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ลักษณะมีไม้เบญจพรรณ ในฤดูแล้งจะมีสภาพแห้งแล้ง ในฤดูฝนจะมีน้ำฝนขังในบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 1 - 3 ไร่ ห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ไม่มีลักษณะทางน้ำสาธารณะไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนมีลักษณะเป็นหนองน้ำกักเก็บในฤดูฝน สำหรับลำห้วยคุมมุมนั้นจะไหลผ่านป่าชุมชนป่าช้าสาธารณประโยชน์บ้านหนองแต้ หมู่ที่ 5 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดิน

 

นอกจากนั้นอธิบดีกรมที่ดิน ยังได้ชี้แจงในกรณีที่ว่า กระทรวงมหาดไทยมอบหรือยกที่ดินสาธารณะให้บริษัทเอกชนนั้น เป็นการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นการชั่วคราวไม่เกิน 5 ปี และต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์การขอใช้และที่ได้รับอนุญาตเป็นที่เก็บกักเก็บน้ำเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการและฟื้นฟูรักษาให้เป็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ต่อไป รวมทั้งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ต้องไม่กระทำให้พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตและบริเวณที่ติดต่อให้เสียสภาพ ต้องระมัดระวังมิให้เกิดอันตรายหรือเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ ต้องบำรุงรักษาเส้นทางที่ทำการประกอบกิจการในที่ดินของรัฐ ก่อนที่จะสิ้นสุดใบอนุญาตต้องดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ และทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นสามารถพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตได้ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาต ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 ข้อ 41 ได้อีกด้วย

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2560 นั้น ทางด้าน นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่กระทรวงมหาดไทยเซ็นยกป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก 31 ไร่ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้กับบริษัทกลุ่มกระทิงแดงว่า การอนุญาตดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 และที่ผ่านมา

โดยทางด้าน บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเมนท์ (กระทิงแดง) จำกัด ได้ยื่นขอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินแปลงห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ขก 2321 หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ. ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 31-2-63 ไร่นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นที่เก็บกักน้ำสำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นลักษณะแหล่งน้ำตามวัตถุประสงค์เดิมของที่สาธารณประโยชน์ ทางจังหวัดขอนแก่นได้รายงานข้อเท็จจริงว่าได้ปฏิบัติตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 ครบถ้วนแล้ว ได้ข้อสรุปคือสภาพที่ดินแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันราษฎร ไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ไม่มีทรัพยากรอันมีค่าในที่ดิน โดยทาง อบต.บ้านดงและชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีการประชุมลงมติเห็นชอบให้บริษัทเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะห้วยเม็กได้ โดยไม่มีการคัดค้าน

ในขณะนั้นนายไพบูลย์ บุญลา ประธานสภาองค์กรชุมชน ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้ให้ข้อมูลว่า สภาองค์กรชุมชนบ้านดง ได้รับเอกสารของทางราชการโดยกระทรวงมหาดไทย ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทเคทีดี พร็อบเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐในพื้นที่ตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะป่าห้วยเม็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่
6 บ้านหนองแต้ ต.หนองแต้ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

และชาวบ้านได้ทำหนังสือคัดค้านการดำเนินการ และการปิดเส้นทางเดิมผ่านนายอำเภออุบลรัตน์ โดยให้เหตุผลว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางดั้งเดิมที่ชาวบ้านใช้สัญจรเพื่อทำไร่นา ทำการเกษตรหาเลี้ยงชีพเป็นประจำ

ที่ผ่านมานั้นทางบริษัทฯ ดังกล่าวได้กว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงในลักษณะปิดล้อมพื้นที่ป่าโคกห้วยเม็ก และเป็นการปิดล้อมพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกรบางราย เพื่อประสงค์จะเช่าพื้นที่ป่าห้วยเม็กประกอบกิจการ และเชื่อมต่อระบบท่อบำบัดน้ำเสีย

ชาวบ้านจึงได้ยื่นหนังสือคัดค้าน แต่ไม่ปรากฏว่ามีการแก้ไขปัญหา และยังพบว่าแผนผังสร้างโรงงานรุกล้ำเข้ามายังพื้นที่ที่สาธารณะ รวมทั้งยังมีการแผ้วถางปรับพื้นที่ป่าบางส่วน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดงได้เสนอแนะต่อผู้นำท้องที่ ผู้บริหาร อปท. ด้วยวาจาหลายครั้งแต่ยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม

ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยเห็นด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ดังกล่าวนั้นชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านได้กันไว้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการเลี้ยงสัตว์ หาของป่าและอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาลโดยได้สร้างกติกาในการใช้พื้นที่ป่าแห่งนี้รวมทั้งร่วมกันรักษาปกป้องการบุกรุกมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ.2500


เมื่อ พ.ศ. 2555 ได้มีการเข้าไปกว้านซื้อที่ดินรอบ ๆ ป่า เพื่อเสนอให้บริษัทกระทิงแดงจัดตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวด และปลายปี 2558 ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่า ทางบริษัทกระทิงแดง จะทำการขอเช่าพื้นที่สาธารณะเพื่อใช้เป็นพื้นที่โรงงาน และจะมีการปิดเส้นทางสาธารณะบางส่วนซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในปี พ.ศ. 2559 และชาวบ้านได้ร้องไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ตรวจสอบ แต่ทว่าเรื่องก็เงียบหายไป ปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งคือมีการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวกันไปเรียบร้อยแล้ว

 


ขณะที่เมื่อวันที่ 12 กันยายน ทางผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ลงพื้นที่บ้านหนองแต้ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าชุมชนป่าห้วยเม็ก โดยมีตัวแทนกรรมการหมู่บ้านได้พาชมป่าที่อ้างว่าแห้งแล้งโดยความจริงแล้วสภาพป่ายังมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้นานาชนิดซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ประดู่ โดยตัวแทนกรรมการหมู่บ้านได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวทีนิวส์ว่าหลังจากที่ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่ากำลังจะสูญเสียป่าแห่งนี้ต่างก็ไม่พอใจและเสียดายเพราะเป็นที่รักที่หวงแหนของชาวบ้าน เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านอีกทั้งยังเป็นป่าต้นน้ำ ซึ่งได้รักษามาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ซึ่งเมื่อชาวบ้านได้ทราบว่าบริษัทของกระทิงแดงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชาวบ้านก็ไม่สบายใจจึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐต่างๆทั้ง อบต. อำเภอ จังหวัดตลอดไปจนถึงสำนักนายกฯ เพื่อให้ตรวจสอบแนวเขตที่ชัดเจน และชี้แจงเกี่ยวกับการที่จะยกผืนป่าให้กับ บ.กระทิงแดง เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการทำประชาคม ตัวแทนกรรมการกล่าวว่า ไม่มีการทำประชาคม ไม่ว่าจะเป็นทาง อบต. หรือทางอำเภอ มีเพียงก่อนหน้าเมื่อ ปี 2558 ทาง อบต.ได้ประชุมชาวบ้านในตอนกลางคืนว่า บ.กระทิงแดงจะได้มาก่อสร้างในพื้นที่แต่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นพื้นที่ป่าชุมชนห้วยเม็ก โดยได้สอบความเห็นจากชาวบ้านว่าจะขัดขวางหรือจะยอมรับ แต่ไม่ได้บอกถึงผลดีผลเสียให้ชาวบ้านทราบ ซึ่งในตอนนั้นชาวบ้านก็เห็นด้วยเพราะว่าลูกหลานและชาวบ้านจะได้มีงานทำ เพิ่งมาทราบตอนที่ บ.กระทิงแดงได้นำเครื่องจักรมาโค่นป่า จึงได้สอบถามไปยังหลายส่วนว่าทาง บ.กระทิงแดงได้ขออนุญาตทางจังหวัดและ มท.1ได้เซ็นอนุมัติไปแล้วตามที่เป็นข่าว และจากกระแสข่าวที่ออกมาว่าทาง บ.กระทิงแดงได้เช่าพื้นที่ป่าในราคา 32,000 นั้น ตัวแทนกรรมการหมู่บ้านกล่าวว่า เพิ่งทราบจาก อบต.เมื่อวานนี้(11 ก.ย.)ว่าทาง อบต.ได้เก็บค่าเช่าจากการเช่าพื้นที่ป่าแห่งนี้ได้ 2 ปี โดยเช่าไร่ละ 1,000 บาทต่อปี ตัวแทนกรรมการหมู่บ้านยังกล่าวต่ออีกว่าตอนนี้ทางชาวบ้านยังรอการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆว่าจะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านอย่างไรและที่พึ่งที่ดีที่สุดคือทางสื่อเพราะพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นสมบัติปู่ย่าตายายที่ชาวบ้านหวงแหน

 

 

ด้านนายณัฐภัทร พลอยสุภา นายอำเภออุบลรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ของทางสำนักข่าวทีนิวส์ ที่ออกอากาศทางไบรท์ทีวี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทกระทิงแดง ได้ขอเช่าพื้นที่ห้วยเม็กสาธารณะประโยชน์ทั้งหมดเนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2559 ในราคาไร่ละ 1,000 บาท ลงนามโดยนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น(ปัจจุบันเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว เมื่อต้นปี 2560 ) พร้อมใบอนุญาตให้แผ้วถางป่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อประโยชน์กักเก็บน้ำ นอกจากนั้นแล้วยังให้ข้อมูลว่า ขณะที่มีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวในขณะนั้น ตนเองยังไม่ได้มาทำหน้าที่นายอำเภอในพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ แต่ทราบว่ามีการนำเสนอข้อมูล ภาพถ่าย ไปให้ทางกระทรวงมหาดไทย ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งสภาพป่าในช่วงหน้าแล้งนั้นก็เป็นสภาพที่ไม่สมบูรณ์มากนัก ส่วนเรื่องการขอมติจากชาวบ้านนั้น ทางด้านนายอำเภอแจ้งว่า มีเพียงรายงานการประชุมเท่านั้นว่า ไม่มีการคัดค้านการใช้พื้นที่

 

ขณะที่เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2560 ทีมข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ลงพื้นที่ และได้ไปสอบถามเรื่องดังกล่าวกับทางด้านนายนิติธร ชาญวิรัตน์ ปลัด อบต.บ้านดง ได้ให้ข้อมูลว่าการปล่อยพื้นที่ป่าห้วยเม็ก ให้กับทางด้ายบริษัทเอกชนเช่านั้นก็เป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้มีการทำประชาคมกับทางชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยินยอมให้มีการเช่าพื้นที่ดังกล่าว

ในขณะที่ทางด้าน นายไพบูลย์ บุญลา ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดง พร้อมด้วยนายชูชาติ ผิวสว่าง รองประธานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดขอนแก่น และชาวบ้านกว่าสิบคน เข้าตรวจสอบแนวเขตรอบบริเวณที่สาธารณะประโยชน์ห้วยเม็ก พร้อมกับกับโชว์หนังสือร้องคัดค้านที่เคยนำเสนอต่อศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และหนังสือจากกรมที่ดินเรื่องการอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐ โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่าหลังจากได้รับทราบจากทางภาคราชการ โดยท่านรองผวจ.ขอนแก่น ได้แจ้งว่า ทางหน่วยงานราชการยังไม่เห็นหนังสือร้องคัดค้านการให้เช่าที่ หรือการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ จากชาวบ้านซึ่งความเป็นจริง ชาวบ้านได้มีการทำหนังสือร้องคัดค้านไปยังหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับกระทรวง ในการที่ขอคัดค้านโรงงานกระทิงแดงเข้ามาก่อสร้างแต่ก็ไม่เป็นผล จนได้มีการก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน


นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า ตนและชาวบ้านหนองแต้ไม่คัดค้านการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ราวปี 2555 ได้มีนายหน้าเข้ามากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านรวบรวมได้มากกว่า 500 ไร่ ทราบว่าจะเป็นการลงทุนตั้งโรงงานของกลุ่มบริษัทกระทิงแดง ชาวบ้านก็ดีใจเพราะเป็นโรงงานใกล้บ้านสามารถสร้างงานแก่คนในชุมชน ทางบริษัทก็ส่งคนออกมาประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการจ้างงานคนในท้องถิ่นเป็นอันดับแรก

แต่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งทราบกันว่ารัฐบาลให้กลุ่มบริษัทกระทิงแดงเช่าพื้นที่ป่าสาธารณะห้วยเม็ก พวกเราชาวบ้านหนองแต้ ไม่เห็นด้วย คือโรงงานมาเบียดเบียนชาวบ้านด้วยการรุกล้ำเข้ามาใช้พื้นที่ป่าสาธารณะทั้งหมดกว่า 31 ไร่ ที่สำคัญการให้เช่าพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ห้วยเม็กดังกล่าวมีการอ้างว่าชาวบ้านหนองแต้เห็นดีด้วย ทั้งที่ชาวบ้านไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยมีการทำประชาคมหรือทำประชาพิจารณ์ถามความเห็นชาวบ้านแม้แต่ครั้งเดียว แต่จู่ๆ ในเอกสารของทางการกลับมีรายชื่อชาวบ้านกว่า 81 ราย ลงลายมือชื่อสนับสนุน

 

 

 

วันที่ 14 กันยายน 2560 ทางด้านนายชูชาติ ผิวสว่าง ชาวบ้านบ้านแต้ ได้นำเอกสาร รายละเอียดการคัดค้านการเช่าที่ดินป่าห้วยเม็ก ที่ส่งขึ้นไปตามลำดับชั้น เพื่อได้นำไปมอบให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัด

นอกจากนี้แล้ว นายไพบูลย์ บุญลา พร้อมด้วย นายมนูญ บุญลา และชาวบ้านจำนวน 13 คนที่ได้รับความเสียหายจากการที่ อบต.บ้านดง นำรายชื่อไปใช้ทำประชาคมหรือประชาพิจารณ์ให้บริษัทกระทิงแดงใช้พื้นที่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ครอง ยอดสง่า สารวัตรสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

ได้แสดงเอกสารบันทึกรายงานการประชุมประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนบ้านหนองแต้หมู่ที่ 5 , 6 ที่เคยใช้ประโยชน์ร่วมกันในที่ดินของรัฐประเภททางสาธารณประโยชน์ และแปลงห้วยเม็กสาธารณะประโยชน์ วันที่ 13 มีนาคม 2558 ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองแต้หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

เอกสารดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนายประภวิษ พรรณเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 , นายนรินทร์ ผิวผ่อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 , ส.ต.อ.สมัย สายอ่อนชา สมาชิกสภา อบต.บ้านดงหมู่ที่ 6 , นายเกียรติศักดิ์ไชยศรี สมาชิกสภา อบต.บ้านดงหมู่ที่ 6 , นายเบิ้ม แก้วมาตร สมาชิกสภา อบต.บ้านดงหมู่ที่ 5 , นายอุทัย คำโมง สมาชิกสภา อบต.บ้านดงหมู่ที่ 5 ร่วมกันเป็นผู้จัดประชุมในเวลา 20.00 น.


ชาวบ้านหนองแต้ ตั้งข้อสังเกตความผิดปกติของเอกสารฉบับนี้ในหลายจุด คือ

1.เอกสารปะหน้า หน้าที่ 2 สังเกตที่ลายเซ็น นายนรินทร์ ผิวผ่อง และนายประภวิษ พรรณเนตร ไม่เหมือนกับลายเซ็นผู้เข้าร่วมประชุมลำดับที่ 1 และ 67 ซึ่งเป็นคนเดียวกัน

2.เอกสารปะหน้า หน้าที่ 2 ตำแหน่งทั้งสองคนคือผู้ใหญ่หมู่ที่ 5 เหมือนกัน แสดงถึงความเร่งรีบ ไม่ตรวจสอบเอกสารของทุกฝ่าย

3.รายชื่ออันดับที่ 3 , 11 , 53 เป็น ส.อบต. สามารถตรวจสอบลายเซ็นที่อบต.ได้

4.เอกสารปะหน้า หน้าแรก ผู้เข้าร่วมประชุมอันดับ 4 นายเกียรติศักดิ์ ไชยศรี และ 5 นายเบิ้ม แก้วมาตร แต่ในเอกสารแนบลายเซ็นกลับไม่มีรายชื่อ 5.ในใบแนบลายเซ็น ในช่องบ้านเลขที่/หมู่ที่ บางคนเขียนแต่หมู่ ถ้าเจ้าตัวเขียนจริงจะจำบ้านเลขที่ของตัวเองได้ไม่ได้หรือ

6.ใบแนบลายเซ็นอันดับที่ 12 และ 62 ชื่อสำรวย จันพรมเหมือนกัน แต่ลายเซ็นไม่เหมือนกัน นอกจากนี้รายชื่ออันดับที่ 23 กับ 54 ซ้ำกัน อันดับที่ 12 กับ 16 ซ้ำกันและ 8 กับ 45 ซ้ำกัน และ

 

7.รายชื่อผู้เข้าประชุมตัวบรรจงตั้งแต่อันดับที่ 13 เป็นต้นไปถึง 81 เหมือนคนเดียวกันเขียนขึ้น


วันที่ 15 กันยายน 2560 บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้ชี้แจง ว่าการขออนุญาตเช่าพื้นที่สาธารณะห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 31 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ก่อสร้างโรงงานราว 500 ไร่นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามระเบียบ ข้อบังคับและขั้นตอนทางกฎหมายของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง ครบถ้วนทุกประการ


บริษัทฯ ได้แจ้งการเข้ามาตั้งโรงงานของบริษัทฯ รวมถึงการขอเช่าพื้นที่สาธารณะห้วยเม็ก โดยมีความประสงค์เพื่อทำการปรับปรุงพัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำและฟื้นฟูรักษาให้เป็นสภาพที่สมบูรณ์ รวมถึงเพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการน้ำให้กับชาวบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ ที่มุ่งช่วยเหลือชุมชนโดยรอบโรงงาน

ภายหลังเมื่อปรากฏมีผู้คัดค้านการขอเช่าพื้นที่ บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำ และยกเลิกใบอนุญาตเช่าพื้นที่สาธารณะห้วยเม็ก และให้ชุมชน ต.บ้านดง ได้บริหารจัดการกันเองต่อไป ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะดูแลอนุรักษ์ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียว บริษัทฯ ไม่มีความประสงค์ที่จะใช้น้ำในห้วยเม็กเพื่อการอุปโภคบริโภค และไม่มีความประสงค์ที่จะนำที่ดินของห้วยเม็กมาใช้ในทางใดทางหนึ่งเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ แต่เป็นความตั้งใจที่จะช่วยเหลือชุมชนอย่างแท้จริง