"วิบากกรรม...อนุพงษ์"  จากช่วยปูหนี  ยกที่ป่าชุมชนให้กระทิงแดง ถึงซื้อเรือเหาะแพงบินไม่ได้ "ขาลง-งานเข้า"...บิ๊กป๊อกแบบเต็มๆ

"วิบากกรรม...อนุพงษ์" จากช่วยปูหนี ยกที่ป่าชุมชนให้กระทิงแดง ถึงซื้อเรือเหาะแพงบินไม่ได้ "ขาลง-งานเข้า"...บิ๊กป๊อกแบบเต็มๆ

3 ปีเศษของการเข้ามารับตำแหน่งมท.1 ดูแลกระทรวงคลองหลอด  ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของ "บิ๊กป็อก"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่กลางของตระกูลบูรพาพยัคฆ์พี่ชายสุดเลิฟของ"บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ไม่มีเรื่องฉาว ไม่มีเรื่องมัวหมอง ไม่มีเรื่องเสื่อมเสียกวนใจ แต่ดูเหมือนสุขกับทุกข์มักอยู่คู่กันเสมอ เพราะล่าสุดแค่เดือนนี้เดือนเดียว มีเรื่องใหญ่ๆ เรื่องมัวหมอง เข้าไปพัวพันกับพล.อ.อนุพงษ์ถึง 3 เรื่องแบบที่เจ้าตัวน้ำท่วมปากกลืนไม่เข้าคายไม่ออกบอกใครไม่ถูก

ก่อนหน้านี้ก็มีชื่อเข้าไปมีเอี่ยวเปิดทางให้ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีคำพิพากษาคดีโครงการจำนำข้าว ที่บังเอิญช่วงเกิดเหตุ"ปูหนี" ดันอยู่ระหว่างช่วงเวลาที่เจ้าตัวเดินทางไปเป็นประธานการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อ 23-25 ส.ค.พอดี งานนี้เลยโดนเพจกูฯ ฝ่ายเสื้อแดง เอาไปโยงว่ามีเอี่ยวแบบเต็มๆ ถึงขนาดอารมณ์เสียออกมาอัดสื่อ 
 “ผมไม่ค่อยเข้าใจสื่อประเทศไทยจริงๆ ผมจะไปเกี่ยวอะไรด้วย ผมไม่เข้าใจ ไม่มีอะไรทำกัน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพราะคุณชอบถามอย่างนี้ มันก็ไม่ได้อะไรกับประเทศไทยเลย สังคมก็ไม่ได้อะไร แต่นิสัยคุณชอบถามอย่างนี้ ด้วยอำนาจหน้าที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยสิ่งที่ผมไม่ควรทำก็ไม่ไปทำอะไรที่พิเรนทร์ขนาดนั้น....ผมจะให้เจ้าหน้าที่ดูตามกฎหมายว่าจะดำเนินการได้อย่างไร ผมไม่ทราบว่าจะดำเนินการทางกฎหมายได้ไหม กับการที่จะมากล่าวหา เหมือนคุณนั่งทำงานเฉยๆ แล้วมีคนมากล่าวหาอย่างนี้ มันไม่ใช่ผมอย่างเดียว ครอบครัวผม ตระกูลผม สังคมก็ไม่ได้อะไรขึ้นมากับเรื่องนี้ ถามอะไรแบบไร้ความคิด ไร้สมองจริงๆ เลย" มท.1 อัดสื่อที่ถามเรื่องนี้ก่อนขึ้นประชุมครม.

ถัดจากนั้นมาไม่นานก็เกิดกรณีกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของยักษ์ใหญ่อย่าง "กระทิงแดง" เข้าไปใช้พื้นที่สาธารณะที่เป็นป่าชุมชนห้วยเม็ก บ้านหนองแต้ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จำนวน 31 ไร่ 2 งาน เพื่อสร้างที่กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่มของกระทิงแดง โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมรกร้างไม่มีการทำประโยชน์ ใดๆ  ทั้งๆที่จองจริงเป็นป่าเขียวครึ้มมีต้นไม้ขึ้นบานหนำซ้ำยังมีชาวบ้านคัดค้าน งานนี้แรกๆพล.อ.อนุพงษ์ ก็ยืนกรานว่าอนุมัติตาทขั้นตอนไม่มีอะไรผิด แต่พอเรื่องแดงของจริงไม่เป็นดังกล่าวอ้าง  เจ้าตัวก็แทบกลับลำไม่ทันแถมโยนไปให้ผู้ใต้บังคับว่าเสนอข้อมูลมาไม่ครบโดยเฉพาะเสียงค้านจากชาวบ้าน
“จากการตรวจสอบน่าจะเป็นจริงตามที่ประชาชนแสดงความไม่เห็นด้วยจริง แต่เอกสารกรมที่ดินยืนยันว่าไม่มีเอกสารที่เกี่ยวกับความไม่เห็นด้วยของประชาชน .... ผมยืนยันว่าคนเดียวก็ไม่ให้แล้ว ถ้าไม่เห็นด้วยแค่คนเดียว เพราะมันเป็นที่สาธารณะร่วมกัน ทำไมถึงไม่มีเอกสารขึ้นมา ต้องตรวจสอบทั้งหมดตั้งแต่ระดับจังหวัด คณะกรรมการทั้งหมดได้รู้เรื่องนี้หรือไม่ เมื่อตรวจสอบยืนยันได้ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วยจะดำเนินการเพิกถอนคำสั่งทันที ในเมื่อประชาชนที่ใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อน ก็มีเหตุให้ยกเลิกคำสั่ง และต้องหาคนทำผิดให้ได้” พล.อ.อนุพงษ์กล่าวพร้อมขู่ฟันข้าราชการทุกระดับที่มีเอี่ยวทุจริต

ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก หมดจากเรื่องช่วยปูหนี เรื่องยกที่ป่าชุมชนให้กระทิงแดง พล.อ.อนุพงษ์ก็ต้องมาปวดตับหลับไม่สบาย หลัง "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ออกมาเปิดเผยว่าเรือเหาะตรวจการณ์ ที่กองทัพบกได้จัดซื้อสมัยพล.อ.อนุพงษ์เป็นผบ.ทบ. หมดอายุการใช้งานแล้วหลังใช้งานมา 8 ปี โดยการจัดซื้อสมัยนั้น วัตถุประสงค์ต้องการที่จะนำมาตรวจการณ์ทั้งกลางวันกลางคืน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหลังจากนี้จะนำกล้องตรวจการณ์ที่มีราคาแพงไปติดอากาศยาน เพื่อใช้ในการตรวจการณ์แทน ส่วนของในระบบอื่นๆ ก็จะนำไปปรับใช้ ส่วนรถลากเรือเหาะนั้น ยังไม่ทราบว่า ทาง ขส.ทบ.นำออกประมูลขาย ก็แล้วแต่ เพราะเราคงไม่ได้ใช้งานแล้ว "เป็นเพราะตัวเรือเหาะหมดอายุ ไม่มีแผนจัดซื้อใหม่ทดแทน แต่ที่ผ่านมาก็ใช้ตรวจการณ์ ได้" บิ๊กเจี๊ยบกล่อมแก้มอธิบายเบาๆ

ทั้งนี้กองทัพบกจัดซื้อเรือเหาะและระบบตรวจการณ์มาในราคา 350 ล้านบาท เป็นตัวเรือเหาะ 260 ล้านบาท กล้องตรวจการณ์ 70 ล้านบาท และระบบภาคพื้น รถต่างๆ เมื่อปี 2552 แต่ต่อมาเกิดปัญหารั่ว และตัองเติมก๊าซฮีเลียมที่มีราคาแพง จนต้องจอดเก็บในโรงจอด ที่ พล ร.15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้ว่าจ้างบริษัทมาดูแลปีละ 50 ล้านบาท โดยมีการนำออกมาบิน ตรวจการณ์บ้าง แต่ถูกวิจารณ์ว่าบินต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด จนที่สุดจอดเก็บไว้จนหมดอายุ เรื่องนี้จัว่าไม่เกี่ยวก็ไม่ได้เพราะจัดซื้อในสมัยพล.อ.อนุพงษ์จริงๆ เจ้าตัวจึงรับไปเต็มแต่ก็ยังพลิ้วบอกว่ามีหลายหน่วยงานพิจารณา
" หากมีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทุจริตก็เห็นด้วย  เพราะจะได้ไม่นำมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล ซึ่งแม้การจัดซื้อเรือเหาะจะเกิดขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. แต่เมื่อตรวจสอบก็ต้องไปดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งการรับของ การทำสัญญา รวมถึงผู้ใช้งาน ซึ่งผมเองพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว จึงบอกไม่ได้ว่าหากมีการปรับเปลี่ยนสภาพการใช้งานของเรือเหาะตรวจการณ์จะทำได้ในรูปแบบใดบ้าง เพราะช่วงของการจัดซื้อไม่ได้เป็นผู้พิจารณาโดยตรง ฉะนั้นจะต้องตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตรวจสอบเฉพาะเกิดในสมัยผมอย่างเดียวไม่ได้   อยากเรียกร้องทุกฝ่ายให้ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น ก็เข้าใจโครงการจัดซื้อนี้ผิดไปด้วย และอย่าใช้ความรู้สึกประเมินความคุ้มค่า และหากจะให้ตนไปสอบถามเรื่องนี้คงไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ตนไม่มีอำนาจสั่งการในกองทัพบก" มท.1 แตกแจงพัลวัน

งานนี้ต้องเรียกว่าเป็นช่วงวิบากกรรมของมท.1ขนานแท้ เพราะเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหลายดอก แว่วๆว่าอาจมีการไปรื้อฟื้นคดี จีที 200 มาอีก งานนี้รับรองบิ๊กป๊อกอ่วมอรทัยแน่ เพราะแต่ละเรื่องที่มีเอี่ยว คดีดังๆคนสนใจทั้งนั้น