โทษแต่คนอื่น!! "หมอวรงค์" ลากไส้ "ทักษิณ" หลังโพสต์ รำลึก 11ปี รัฐประหาร!! ถ้าไม่มีเหตุนำอย่าง ทุจริตปล้นชาติ-นิรโทษสุดซอย-แก้วสามประการ??

โทษแต่คนอื่น!! "หมอวรงค์" ลากไส้ "ทักษิณ" หลังโพสต์ รำลึก 11ปี รัฐประหาร!! ถ้าไม่มีเหตุนำอย่าง ทุจริตปล้นชาติ-นิรโทษสุดซอย-แก้วสามประการ??

วานนี้ 19 กันยายน 2560 วันครบรอบ 11 ปี  เหตุการณ์รัฐประหารรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกนำไปขยายความว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ที่มีมาจนถึงปัจจุบันนี้

อย่างไรก็ตามหากได้ไล่เรียงข้อมูลและลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปัญหาสำคัญของประเทศไทยก็คือระบอบทักษิณ ที่เริ่มถือกำเนิดขึ้นนับตั้งแต่นายทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศในสมัยแรก

ในขณะที่การรัฐประหารก็เป็นกระบวนการหนึ่งที่พยายามจะหยุดยั้งระบอบทักษิณ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จนทำให้ระบอบทักษิณมีวิวัฒนาการในลักษณะปรับตัวและสร้างปัญหาให้กับประเทศมาจนถึงวันนี้

ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา บน ทวิตเตอร์ส่วนตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีความเคลื่อนไหวโดยโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวในวันครบรอบ 11 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งในขณะนั้นเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  โดยข้อความทั้งหมดระบุว่า

I hope the memory of what happened 11 years ago has not faded from the hearts of Thai people. (1)

(ผมหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว จะยังไม่ลบเลือนไปจากความทรงจำในใจของคนไทยทุกคน)

 
I am, and will always be, concerned about the livelihood of my fellow Thai citizens. (2)

(ผมจะยังคง และจะเป็นตลอดไป กับการดูแลเอาใจใส่ พี่น้องชาวไทยทุกคน)

โทษแต่คนอื่น!! "หมอวรงค์" ลากไส้ "ทักษิณ" หลังโพสต์ รำลึก 11ปี รัฐประหาร!! ถ้าไม่มีเหตุนำอย่าง ทุจริตปล้นชาติ-นิรโทษสุดซอย-แก้วสามประการ??

ล่าสุดในวันนี้ บนเฟซบุ๊คของ ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ทำการโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กโดยระบุว่า นายทักษิณ ได้โพสต์ทวีต รำลึก 11 ปี ถูกรัฐประหารโดย คมช. เผยหวังเหตุการณ์นั้นจะไม่เลือนไปจากหัวใจของคนไทย และยังห่วงความเป็นอยู่ของคนไทยที่ยังให้การสนับสนุน
ผมคิดว่า นายทักษิณ น่าที่จะลองศึกษาปรัชญาของศาสนาพุทธ ว่าด้วยหลัก อิทัปปัจจยตา คือ กฏที่กล่าวว่า "เพราะมีสิ่งนี้ เป็นเหตุปัจจัย สิ่งนี้จึงมี"
ถ้าไม่มีเหตุนำมาก่อน ก็จะไม่มีผลตามมา ถ้าไม่มีการเหิมเกริมในอำนาจ ทุจริตปล้นชาติ นิรโทษสุดซอย เผด็จการรัฐสภา แบ่งแยกประชาชน มีแก้วสามประการ ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรม จาบจ้วง ก็คงไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น (แม้ไม่มีใครอยากให้เกิด)
เราอย่ามัวไปโทษแต่คนอื่น ควรหันกลับมาดูตัวเราด้วย เพราะสิ่งนี้มันเกิดขึ้นซ้ำ ถ้าเรารู้จักปรับปรุงตัวให้ดี ก็จะไม่มีสิ่งนี้เกิดขึ้น ไม่ยากเลย
ถ้ารักและห่วงคนไทยจริงๆ เขาไม่ทำกันแบบนี้

โทษแต่คนอื่น!! "หมอวรงค์" ลากไส้ "ทักษิณ" หลังโพสต์ รำลึก 11ปี รัฐประหาร!! ถ้าไม่มีเหตุนำอย่าง ทุจริตปล้นชาติ-นิรโทษสุดซอย-แก้วสามประการ??

โทษแต่คนอื่น!! "หมอวรงค์" ลากไส้ "ทักษิณ" หลังโพสต์ รำลึก 11ปี รัฐประหาร!! ถ้าไม่มีเหตุนำอย่าง ทุจริตปล้นชาติ-นิรโทษสุดซอย-แก้วสามประการ??

รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 เกิดในคืนวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีพลเอก สนธิ บุญยรัตกลินเป็นหัวหน้าคณะ โค่นรักษาการนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) นับเป็นรัฐประหารในรอบ 15 ปี รัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในเดือนต่อมา หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจัดในเดือนเมษายนถูกสั่งให้เป็นโมฆะ นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ดำเนินมานับแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2548 คณะรัฐประหารยกเลิกการเลือกตั้งซึ่งกำหนดจัดในเดือนตุลาคม ยกเลิกรัฐธรรมนูญ สั่งยุบรัฐสภา สั่งห้ามการประท้วงและกิจกรรมทางการเมือง ยับยั้งและตรวจพิจารณาสื่อ ประกาศใช้กฎอัยการศึก และจับกุมสมาชิกคณะรัฐมนตรีหลายคน

พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน แถลงสาเหตุเมื่อวันที่ 21 กันยายน และให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูรัฐบาลระบอบประชาธิปไตยภายในหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขประกาศว่า หลังจากการเลือกตั้งและการตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว คณะปฏิรูปการปกครองจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งยังไม่มีการอธิบายบทบาทที่มีต่อการเมืองไทยในอนาคต

หลังรัฐประหาร คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้แต่งตั้งพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ต่อมาวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2550 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกใน 41 จังหวัด แต่ยังคงไว้ 35 จังหวัด

รัฐประหารดังกล่าวไม่มีการเสียเลือดเนื้อและไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ปฏิกิริยาตอบรับจากนานาชาติมีตั้งแต่การวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย การแสดงความความเป็นกลาง เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ไปจนการแสดงความผิดหวังอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรนอกนาโต และว่า รัฐประหาร "ไม่มีเหตุผลยอมรับได้

ลำดับเหตุการณ์ในวันนั้น พลตรี ประพาศ ศกุนตนาค อ่านแถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองฯทหารบกมีส่วนสำคัญในการก่อรัฐประหารครั้งนี้ มีริบบิ้นสีเหลืองผูกกระบอกปืน และมีผ้าพันคอสีเหลือง


เช้าวันที่ 19 กันยายน มีคำสั่งจากพันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร เรียกผู้นำทุกเหล่าทัพเข้าประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่มีผู้นำเหล่าทัพคนใดเข้าร่วม ยกเว้น พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้ช่วงบ่ายมีกระแสข่าวลือรัฐประหารแพร่สะพัดไปทั่วทำเนียบรัฐบาลและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีข่าวลือว่ารัฐมนตรีและนักการเมืองร่วมรัฐบาลหลายคนหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ช่วงพลบค่ำมีข่าวว่ากำลังทหารหน่วยรบพิเศษจากจังหวัดลพบุรี เคลื่อนกำลังเข้ากรุงเทพมหานคร

เวลา 18.00 น. สมชาย มีเสน ผู้จัดรายการวิทยุ เอฟ.เอ็ม. 92.25 เมกกะเฮิร์ซ นัดผู้ฟังรายการจำนวนหนึ่งเข้าพบพลเอกสนธิ ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อขอให้ทหารให้ความคุ้มครองกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จะชุมนุมขับไล่พันตำรวจโททักษิณในวันรุ่งขึ้น ประมาณ 21.00 น. กำลังทหารจากพลร่มป่าหวาย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เข้ามาประจำการที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 22.00 น. ขบวนรถถังเคลื่อนเข้าคุมเชิงที่สะพานมัฆวานรังสรรค์และถนนราชดำเนิน ไม่กี่นาทีต่อมา ทหารจำนวนมากออกมาตรึงกำลังตามถนนต่าง ๆ ตั้งแต่แยกเกียกกาย ผ่านมาถึงถนนราชสีมา บริเวณสวนรื่นฤดี สี่แยกราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) โดยมีทหารแต่งกายลายพรางเต็มยศเป็นผู้ควบคุมกำลัง

เวลา 22.54 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยออกอากาศทางสถานีทุกช่อง ขึ้นคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมขออภัยในความไม่สะดวก และเปิดเพลง "ความฝันอันสูงสุด" ประกอบ ด้านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีเผยแพร่ข่าวรถถังและกำลังทหารควบคุมสถานการณ์ภายในกรุงเทพมหานคร[13] หลังจากนั้น พลตรี ประพาศ ศกุนตนาค อดีตโฆษก ททบ.5 อ่านแถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่แสดงไว้ในหน้าจอก่อนหน้านี้ซ้ำสองครั้ง
เกือบเที่ยงคืน ผู้บัญชาทหารทุกเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต