ปาราชิกชัดๆ !!! เดือดสุดขีด "พระพุทธะอิสระ" ซัดเต็มเหนี่ยวมหาเถรสมาคม ผ่าไส้ "พระราชรัตนมุนี"...ความเน่าในต้องถูกสะสาง!

ปาราชิกชัดๆ !!! เดือดสุดขีด "พระพุทธะอิสระ" ซัดเต็มเหนี่ยวมหาเถรสมาคม ผ่าไส้ "พระราชรัตนมุนี"...ความเน่าในต้องถูกสะสาง!

บนเฟซบุ๊กของหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความเดือดถึงมหาเถรสมาคม ที่ไม่มีทีท่าจะจัดการกับพฤติกรรมที่เห็นว่าปาราชิกอย่างชัดเจนของ พระราชรัตนมุนี เลขานุการสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และกรรมการมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง ระบุว่า

นี่มันปาราชิกชัดๆ ไม่เห็นมหาเถรคิดจะทำอะไรเลย

๒๙ กันยายน ๒๕๖๐

พระธรรมวินัยได้ทรงบัญญัติลักษณะของการถือเอาทรัพย์ที่เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิกเอาไว้ มีอยู่ด้วยกัน ๑๓ อย่าง อันได้แก่

๑. ลัก ได้แก่อาการถือเอาทรัพย์ให้เคลื่อนจากฐานที่ตั้ง ด้วยเจตนา

๒. ชิงหรือวิ่งราว ได้แก่อาการชิงเอาทรัพย์ที่เขาถืออยู่

๓. ลักต้อน ได้แก่กิริยาไล่ต้อนหรือจูงสัตว์ ๔ เท้า สัตว์ ๒ เท้า หรือสัตว์ไม่มีเท้า ให้เคลื่อนจากที่อยู่ที่เหยียบยืน

๔. แย่ง ได้แก่อาการเข้าแย่งทรัพย์ซึ่งหน้าจากมือเจ้าของทรัพย์หรือแย่งขณะที่เจ้าของทำทรัพย์นั้นตก

๕. ลักสับ ได้แก่การับของดีให้เป็นของเหลว ของมีราคาให้เป็นของมีราคาน้อย แม้ที่สุดลักสับสลากรายชื่อของทรัพย์ ด้วยเจตนาต้องการทรัพย์นั้น

๖. ตู่ ได้แก่กิริยากล่าวตู่เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ที่ไม่ใช่ของตน

๗. ฉ้อโกง ได้แก่กิริยารับของที่มีผู้มาฝากเอไว้ แล้วฉ้อโกงเอามาเป็นของตน

๘. ยักยอก ได้แก่ภิกษุผู้มีหน้าที่รักษาคลัง ทำบัญชีหรือควบคุมทรัพย์ของวัด แล้วยักยอกทรัพย์นั้นมาเป็นของตน

๙. ตระบัด ได้แก่กิริยาที่นำของที่ต้องเสียภาษี เมื่อผ่านด่านเก็บภาษีก็ซุกซ่อนของนั้น หรือกระทำการปิดบังอำพรางเพื่อจะไม่ต้องเสียภาษีหรือถ้าจะเสียก็เสียแต่น้อย ไม่ว่าจะนำพาผ่านด่านเก็บภาษีเอง หรือให้ผู้อื่นนำพามา แล้วภิกษุนั้นรู้อยู่ ยินดี ทรัพย์นั้นมีค่าเกิน ๕ มาสก ต้องอาบัติปาราชิก

๑๐. ปล้น ได้แก่การชักชวนกันทำโจรกรรม ลงมือด้วยตนเองบ้าง หรือมิได้ลงมือด้วยตนเอง แต่ตนมีส่วนร่วม และได้ทรัพย์นั้นมาสมเจตนา หากทรัพย์นั้นมีราคาเกิน ๕ มาสก ต้องอาบัติปาราชิกทั้งกลุ่ม

๑๑. หลอกลวง ได้แก่การหลอกทำของปลอมต่างๆ

๑๒. กดขี่หรือกรรโชก ได้แก่การใช้กำลัง ใช้อำนาจ ข่มเหงเอาทรัพย์ของผู้อื่น ตัวอย่างเช่น ภิกษุเป็นเจ้าหน้าที่มีอำนาจปกครองอยู่ในมือ แล้วใช้อำนาจนั้นข่มเหงเพื่อให้ได้ทรัพย์มา

๑๓. ลักซ่อน ได้แก่การเห็นทรัพย์ที่เจ้าของทำตกหล่นไว้โดยไม่รู้ตัว ภิกษุนั้นพอเห็นจึงแกล้งเดินไปเอาเท้าเหยียบ ยืนบังไว้ หรือใช้วัสดุอย่างหนึ่งอย่างใดปกปิดเอาไว้ ด้วยเจตนาจะถือเอามาเป็นของตน ต้องอาบัติเมื่อเจ้าของทรัพย์หาของไม่เจอ และทรัพย์นั้นได้ตกเป็นของภิกษุ

 

ปาราชิกชัดๆ !!! เดือดสุดขีด "พระพุทธะอิสระ" ซัดเต็มเหนี่ยวมหาเถรสมาคม ผ่าไส้ "พระราชรัตนมุนี"...ความเน่าในต้องถูกสะสาง!

กรณีพฤติกรรมของพระราชรัตนมุนี (บุญเทียม ญานินโท) เลขานุการสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และกรรมการมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง มีชื่อร่วมเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ โดย ป.ป.ช.มีหลักฐานว่า เงินในบัญชีเหล่านั้น เป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบ ถือว่าเป็นการยักยอก ทุจริตเงินอุดหนุนวัด และเงินอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

นี่แสดงว่าภิกษุบุญเทียม ผู้นี้ หรือพระราชรัตนมุนี ย่อมมีมลทินทางพระธรรมวินัย ต้องอาบัติปาราชิกสิกขาบทที่ ๒ ห้ามลักทรัพย์
ทำไม ไม่เห็นมหาเถรทำอะไรเลย
ทำไม สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง
เจ้าอาวาสวัดพิชัยญาติ ถึงได้เงียบสนิท จนศิษย์ส่ายหน้าเช่นนี้

ซึ่งต่างจากกรณีเจ้าคุณเสนาะแห่งวัดสระเกศ ที่มีกรณีคดียักยอกเงินอุดหนุนงานศพสมเด็จเกี่ยว ทำไมถึงได้ปลดกลางอากาศ หากจะอ้างว่าคดียังไม่ถึงที่สุด เรื่องยังไม่เข้าสู้กระบวนการกฎหมายนิคหกรรม จึงยังทำอะไรกับเจ้าคุณบุญเทียมไม่ได้
แล้วเจ้าคณะเสนาะล่ะ คดีก็ยังไม่ถึงที่สุดเหมือนกัน

ทำไมกรรมการมหาเถร และเจ้าคณะใหญ่หนกลางแห่งวัดพิชัยญาติ ถึงได้มีคำสั่งปลดเจ้าคุณเสนาะกลลางอากาศ จนต้องผูกคอตายหนีความผิด นี่มันสองมาตรฐานชัดๆ

นี่ล่ะหรือพฤติกรรมของเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ความยุติธรรมน่ะมีแน่ แต่มีข้อแม้ว่าเป็นคนของใคร

เมื่อไหร่ความเน่าในของการปกครองคณะสงฆ์ จะได้รับการชำระสะสาง ให้กลับมาซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยเสียที

ด้วยพฤติกรรมของมหาเถรเช่นนี้แหละ นักบวชปาราชิกมันถึงได้ยั้วเยี้ย มีให้เห็นอยู่ทั่วไปไม่เว้นแม้แต่ในกรรมการมหาเถร

พุทธะอิสระ

ปาราชิกชัดๆ !!! เดือดสุดขีด "พระพุทธะอิสระ" ซัดเต็มเหนี่ยวมหาเถรสมาคม ผ่าไส้ "พระราชรัตนมุนี"...ความเน่าในต้องถูกสะสาง!

 

อ้างอิง หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)