- 01 ต.ค. 2560
ปัญหาของมนุษย์เงินเดือน กับวังวนเเห่งการใช้เงิน ที่มักประสบปัญหา ช็อตช่วงสิ้นเดือน
ช่วงเวลานี้คือต้นเดือน ที่หลายๆคนคงจะเงินเดือนออก มีเงินมีทองใช้จ่าย ช็อปปิ้งกันอย่างสนุกมือ ตามสไตล์ของมนุษย์ เงินเดือน เเต่บางคนอาจจะตกอยู่ในวังเวียนเดิมๆก็คือ ต้นเดือนใช้จ่ายอย่างราชา พอสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ เเทบกินเเกลบ ใช้เงินเเบบเดือนชนเดือน พอเงินงวดใหม่ออกก็จะวนเป็นเเบบบนี้ซ้ำๆ เรียกง่ายๆว่าใช้เงินเกินเงินเดือน รู้สึกช็อตทุกทีเมื่อใกล้สินเดือน ส่งผลให้ ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีการจัดระเบียบรายรับรายจ่าย เราจะลองไปดูกันเลยว่า 4 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่า คุณกำลังใช้เงินเกินตัว เตือนกันไว้ล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินเสียใหม่
.
1. เงินออกปุ๊บซื้อของปั๊บ
แน่นอนว่าหลายๆ คนคงจะมีสิ่งของที่เล็งไว้และอยากได้เพื่อให้ของขวัญแก่ตัวเอง แต่เบรกไว้นิด! แล้วหันกลับมาเช็คสุขภาพเงินในกระเป๋าของคุณเสียก่อน เพราะเงินเดือนที่เพิ่งออกมานั้นอาจอยู่กับคุณไม่ได้นาน จากการที่คุณรีบใช้รีบซื้อตามใจโดยไม่วางแผนการซื้อไว้ก่อนล่วงหน้า ทางที่ดีเมื่อได้รับเงินเดือน คุณควร “ลำดับความสำคัญจากมาก-ไปน้อย” ของสิ่งที่จำเป็นต้องจ่ายก่อน เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือค่าใช่จ่ายอื่นๆ ทีต้องจ่ายรายเดือน เมื่อหักค่าใช้จ่ายหลักแล้ว เหลือเท่าไหร่ให้แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ค่าใช้จ่ายประจำวันสำหรับ 30 วัน ส่วนที่ 2 คือ เงินออม ส่วนที่ 3 คือ เงินใช้จ่ายตามใจ ซึ่งเงินในส่วนที่ 3 นี้ คุณสามารถนำไปซื้อของที่อยากได้ตามใจ แต่ถ้าหากราคาของค่อนข้างแพง ก็ให้เก็บเงินส่วนที่ 3 นี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ ซึ่งอาจจะหลายเดือนหน่อยแต่สบายใจทั้งตัวคุณและเงินในกระเป๋า
.
2. ไม่แยกเงินเก็บออม
อาการเกือบสิ้นใจ! เพราะใช้เงินไม่ชนเดือนนั้น มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ล้วนเคยประสบหรือกำลังพบเจอปัญหาอยู่ “แต่เจ็บแล้วมักไม่จำ” ยังคงใช้พฤติกรรมเดิมๆ อยู่ทุกเดือน เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บและหลายคนก็บ่นว่า “ไม่มีเงินเก็บเลย” ซึ่งเหตุผลก็รู้ตัวเองดีว่าเพราะอะไร แต่เมื่อได้เงินเดือนมาใหม่ๆ มักกลายเป็นคนขี้ลืมไปซะอย่างนั้น เปลี่ยนเถอะครับ! หากคุณรักตัวเอง ก็ควรวางแผนการออมเงินให้ตัวเองไว้ใช้ในยามจำเป็น หรือช่วยเหลือคนใกล้ตัวได้เมื่อพวกเขาเหล่านั้นเดือดร้อน คิดเอาไว้ว่า “มีเกินดีกว่าขาด” จริงไหมครับ เริ่มตั้งแต่เดือนนี้! แบ่งเงินเดือนไว้ออมเงินจนเป็นนิสัย แล้วคุณจะสบายเมื่อต้องใช้ยามฉุกเฉิน
3. ให้เพื่อนยืมเงิน
คนใจอ่อนมักจะถูกยืมเงินอยู่บ่อยๆ เพราะผู้ยืมเห็นว่ามีโอกาสสูงที่จะหยิบยื่นให้ยืมง่าย โดยเฉพาะกับเพื่อนกับฝูงด้วยแล้ว มนุษย์เงินเดือนหลายต่อหลายคนต้องเจ็บมาแล้วเท่าไหร่ เพราะดันไปเจอเพื่อนประเภท “สัญญาตอนยืม ขอเลื่อนตอนคืน” หรืออีกประเภทที่เจอได้บ่อยมากคือประเภท “วันนี้ทำเป็นไม่รู้จัก เมื่อวานยังทักแชททักไลน์มายืมตังค์” แต่ที่ร้ายแรงที่สุดเห็นจะเป็นเพื่อประเภท “ยืมไปไม่คืน ถึงมีคืนก็ไม่ให้” วิธีหลีกเลี่ยงปัญหานี้! คุณควรฝึกตัวเองให้เป็นคนใจแข็งเรื่องเงินเพิ่มขึ้น เพราะตัวคุณเองอาจมีเรื่องต้องใช้เงินกระทันหันในเดือนนั้นๆ หรือวางแผนทางการเงินไว้เพื่อเป้าหมายที่ตั้งใจ “เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด” อาจจะดูว่าไม่มีน้ำใจ แต่เมื่อถึงคราวตัวคุณมีปัญหาเรื่องเงินบ้าง น้ำใจจากคนอื่นก็หายากมากเช่นกัน
4. หาเรื่องใช้เงิน
บางครั้งคนไม่มีภาระ หรือ ไม่มีเรื่องต้องใช้จ่ายอะไร ก็หาเรื่องเสียเงินให้กับตัวเอง เช่นคนประเภท “วันนี้จะซื้ออะไรดี” หรือ “หาเรื่องเสียเงินดีกว่า” ที่หนักสุดอาจจะเป็นคนที่หาหนี้ระยะยาวมาเพิ่มเป็นภาระจากการกู้ธนาคาร หรือ รูดบัตรเครดิตไม่ยั้ง มนุษย์เงินเดือนประเภทนี้ควรรีบเปลี่ยนวิธีคิดอย่างเร่งด่วน เพราะคุณกำลัง “นำเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบัน” และการเพิ่มภาระดังกล่าวนี้ จะทำให้คุณห่างไกลจากการมีเงินเก็บไปเรื่อยๆ อีกหลายปี
ทุกคนลองปรับพฤติกรรมการใช้เงินเสียตั้งแต่วันนี้ ซึ่ง 4 สัญญาณข้างต้นคงช่วยให้คุณรับรู้และระมัดระวังการใช้เงินกันมากขึ้น จะไม่มีปัญหาช็อตสิ้นเดือน ...
ขอบคุณ
.
