- 12 ต.ค. 2560
กระฉ่อน...พายุจ่อเข้าไทย 3 ลูกซ้อน !!! "กรมอุตุฯ" ออกประกาศแจงแล้ว...ประชาชนอ่านข้อแนะนำด่วน!
เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศจากสำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ชี้แจง ข่าวเรื่อง เตือนภัย พายุจ่อเข้าไทย 3 ลูกซ้อน ระบุ
ตามที่ นักวิชาการ และสื่อบางรายการ ได้มีการนำแบบจำลองสภาพอากาศจากคอมพิวเตอร์ มาคาดการณ์การเกิดพายุหมุนเขตร้อน ล่วงหน้า ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ โดยระบุว่า จะมีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย 3 ลูก และมีผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมเพิ่มเติม
จากปัจจุบัน กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามและแจ้งเตือนภัย มีข้อแนะนำแก่ประชาชนและชี้แจงดังนี้ คือ
1. การทำงาน ติดตาม และพยากรณ์อากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา มีการนำผลการตรวจอากาศที่เกิดขึ้นจริง และการใช้ข้อมูลดาวเทียมในการวิเคราะห์สภาพอากาศ และยังได้มีการใช้แบบจ าลองสภาพอากาศจากคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย และจากศูนย์พยากรณ์อากาศชั้นนำจากประเทศต่างๆ มาสังเคราะห์และเปรียบเทียบเพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้องที่สุด เนื่องจากแบบจำลองสภาพอากาศจากคอมพิวเตอร์จะมีความคลาดเคลื่อนและถูกต้องน้อยลง เมื่อระยะเวลาพยากรณ์นานขึ้นเรื่อยๆ
2. จากการวิเคราะห์สภาพอากาศปัจจุบัน (วันที่ 12 ตุลาคม 2560) พบว่า
ในช่วงวันที่ 12-14 ตุลาคม 2560
- บริเวณทะเลอันดำมัน และอ่าวเบงกอล ไม่มีพายุก่อตัวขึ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทางด้านประเทศเมียนมาและไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ประจำฤดูเท่านั้น
บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีร่องมรสุมพาดผ่านทำให้มีฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้ อาจส่งผลให้ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม ที่มีน้ำท่วมขังอยู่แล้ว
ในช่วงวันที่ 15-17 ตุลาคม 2560
- จากวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด คาดว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านทะเลจีนใต้ เข้ามาบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน แต่เนื่องจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาบริเวณประเทศเวียดนามในช่วงดังกล่าว ทำให้พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยโดยตรง
- สำหรับในระยะนี้บริเวณประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่าน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้หลายพื้นที่
หลังจากวันที่ 17 ตุลาคม 2560
- การวิเคราะห์ผลจากแบบจำลองสภาพอากาศ (ข้อมูลแบบจำลองวันที่ 12 ตุลาคม 2560) พบว่า ยังมีโอกาสที่จะมีพายุก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ แต่เนื่องจากข้อมูลจากแบบจำลองจะมีความถูกต้องน้อยลงมากเมื่อระยะเวลาพยากรณ์นานขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่มีศูนย์พยากรณ์ใดที่สามารถยืนยันข้อมูลว่ามีความถูกต้องเพียงใด แต่จะเป็นสัญญาณให้นักอุตุนิยมวิทยาเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
กรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานต่างๆ ได้มีการประชุม วิเคราะห์ข้อมูล และติดตามสถานการณ์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชน ติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยราชการเท่านั้น ในการประกาศแจ้งเตือนจะมีรายละเอียด วันและเวลาที่แน่นอน และขอให้อย่าได้ตื่นตะหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้มาผู้ท างานรับผิดชอบโดยตรง หรือการส่งต่อกันตามสื่อออนไลน์ต่างๆ และสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4012-3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
https://www.tmd.go.th/
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ 12 ตุลาคม 2560 เวลา08.00 น.
สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีแนวโน้มฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์และลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ 12-13 ต.ค 2560 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยโดยตรง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และชลบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ขอบคุณ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา