รู้หรือไม่!!! ครั้งหนึ่งเมื่อปี2498ในหลวงร.9 พระราชินี เคยหลบใช้เวลาส่วนพระองค์ ตามลำพัง ที่ จ.อุบลราชธานี ทำเอาราชองครักษ์ตามหาทั่ว

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่5พค.2493  จากนั้นเดือนพฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร.9 ก็เริ่มเสด็จพระราชดำเนินทรงออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคต่างๆ โดยเลือกพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นสถานที่แรกในการทรงรอนแรมเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนแบบค่ำไหนบรรทมนั่น 

 

 

 

 

ซึ่งส่วนมากจะประทับตามศาลากลาง หรือจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลัก และในการเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร.9และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จะเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่ทรงพลัง ดึงดูดประชาชนในทุกๆที่ คือในทุกแห่งที่ทั้ง2พระองค์เสด็จไป

เมื่อประชาชนทราบข่าวไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็จะมารอเข้าเฝ้าให้ได้เห็นด้วยตาตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต เรียกว่าใครถึงก่อนก็ได้นั่งหน้า ชนิดไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน บ้างก็เดินทางกันแบบข้ามวันข้ามคืน หรือไม่ก็นอนเฝ้าจนเช้า คือเมื่อก่อน กับ ปัจจุบันไม่ได้มีความแตกต่างไปจากกันเลยหากเป็นเรื่องโอกาสในการเข้าเฝ้าแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวไม่มีใครยอมใครจริงๆ และที่จ.อุบลราชธานี วันที่18พย. ก็มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้น

โดยตอนนั้นเป็นช่วงเวลาส่วนพระองค์ หลังเสร็จพระราชกรณียกิจทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขับรถยนต์พระที่นั่ง มีสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถประทับคู่ ส่วนข้างหลังมีสมุหราชองค์รักษ์คือ พล.อ หลวงสุรณรงค์ และ นางสนองพระโอษฐ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จตามไปด้วย

 

 

การเสด็จครั้งนี้เป็นการเสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์ ที่ไม่ยอมบอกให้ใครทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าทั้ง2พระองค์จะเสด็จไปที่ไหน ด้วยทรงรู้สึกเป็นอิสระและปลอดโปร่งกับที่พระองค์จะทรงอยู่ตามลำพังบ้างนั่นเอง และเหตุการณ์ในวันนั้นก็เป็นเรื่องขึ้นมา เพราะได้มีการตามหาทั้ง2พระองค์กันจ้าละหวั่น และเมื่อพระองค์ทรงทราบก็ไม่สบายพระทัย เพราะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ซึ่งไม่ใช่พระนิสัยของทั้ง2พระองค์เลย
   

 

 

   (ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือด้วยจงรัก ภักดี ด้วยกัน หนังสือที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พิมพ์พระราชทานในงานพระราชทานเพลิงศพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้พลีชีวิต วันที่19กย.2540)