กองทัพบก แจง งบ15 ล้านบาท สร้างร้านค้า-ห้องน้ำ "อุทยานราชภักดิ์" ให้สมพระเกียรติ ยืนยันตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน แม้จะเป็นงบบริจาค

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจง ถึงความโปร่งใส การใช้งบกว่า 15 ล้านบาท ในการสร้างห้องน้ำและร้านค้า ที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า คนที่ตั้งข้อสงสัยยังไม่ทราบรายละเอียด ลักษณะของงาน ในการรองรับปริมาณคนที่มาเที่ยวชมจำนวนมาก ทั้งนี้ อุทยานราชภักดิ์ เป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ ที่ประชาชนให้ความสำคัญ เดินทางมากราบไหว้ บูชา เพราะฉะนั้น การก่อสร้างสิ่งต่างๆต้องอาศัยงานสถาปัตย์ คุณภาพ และต้องพิถีพิถัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

ส่วนงบประมาณกว่า  15 ล้านบาท ถือว่าจะคุ้มค่าใช่หรือไม่นั้น  จะต้องดูตามขอบเขตของงาน รูปแบบ ขนาด วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง มีราคากลาง บริษัทไหนให้ข้อเสนอที่ดี ก็เลือกบริษัทนั้น ถึงแม้ว่างบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างจะมาจากเงินบริจาคของประชาชน แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระบบการจัดซื้อจัดจ้าง 
 

 

 

ทั้งนี้เชื่อว่าเจ้าของเงิน คือ ผู้ที่มีจิตศรัทธา คาดหวังจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างขึ้นในอุทยานราชภักดิ์ สมพระเกียรติ จึงต้องมีการเลือกแบบ และมีความละเอียดในการก่อสร้างพอสมควร คงไม่ใช่ห้องน้ำสาธารณะทั่วไป ที่เราพบเห็น อย่างเช่น ตามสถานีรถไฟ ห้องน้ำขนส่ง
ส่วนเรื่องงบประมาณก็เป็นไปตามเหตุตามผล. ตามรูปแบบ คุณภาพ และขนาด  ที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับภาพรวมของสถานที่. แม้ว่าเป็นงบของมูลนิธิ แต่ก็มีการดำเนินกรรมวิธีจัดซื้อจัดจ้างด้วยรูปแบบมาตรฐาน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 

ซึ่ง มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ที่กองทัพบกโดยศูนย์การทหารราบเป็นผู้ดูแลนั้น ปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งสำคัญของอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพี่น้องประชาชนมาเยี่ยมชม และสักการะพระบรมรูปทุกวันจำนวนมาก ซึ่งบางวันมีมากถึงหมื่นคน โดยที่ผ่านมายังไม่มีระบบร้านค้า และห้องน้ำไว้บริการผู้มาเยี่ยมชมภายในบริเวณพื้นที่อุทยานฯ 

 

โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางมูลนิธิฯ จึงได้มีการดำเนินการการก่อสร้างอาคารร้านค้า เเละห้องน้ำไว้เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนที่มาเคารพสักการะ หรือเที่ยวชมอุทยานฯ ซึ่งรูปแบบการก่อสร้างมีลักษณะรูปลักษณ์ที่เหมาะสมสอดรับตามภูมิสถาปัตย์ โดยภายในอาคารประกอบด้วย ร้านค้า 5 ห้อง และห้องน้ำจำนวน 52 ห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำชาย 21 ห้อง ห้องน้ำหญิง 27 ห้อง และห้องน้ำคนพิการ 4 ห้อง ด้วยงบประมาณของทางมูลนิธิฯ ประมาณ 15 ล้านบาท ทั้งนี้ความคืบหน้าปัจจุบันประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จสามารถให้บริการประชาชนราวเดือนก.พ.61