ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-26 ต.ค. 2560) " ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2560 เวลา 05.00 .

กรมอุตุฯ เตือน พื้นที่ต่อไปนี้ ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด  (รายละเอียด)

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-26 ต.ค. 2560) " ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2560 เวลา 05.00 น.


ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. 60 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนชื้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ซึ่งพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้

 

- ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. 2560, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

- ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. 2560

ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร

ภาคกลาง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท อุทัยธานี

สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

- ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 2560 ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น

จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.

 

(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

กรมอุตุฯ เตือน พื้นที่ต่อไปนี้ ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด  (รายละเอียด)

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทำการพยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2560 เมื่อเวลา 05.00 น. โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย เว้นแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนมากกว่าภาคอื่น ๆ

 

กรมอุตุฯ เตือน พื้นที่ต่อไปนี้ ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด  (รายละเอียด)

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย เว้นแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนมากกว่าภาคอื่น ๆ สำหรับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย

กรมอุตุฯ เตือน พื้นที่ต่อไปนี้ ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด  (รายละเอียด)

 

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุดรธานี
ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร


ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

 

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
 

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

กรมอุตุฯ เตือน พื้นที่ต่อไปนี้ ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด  (รายละเอียด)