ด้านมืดของสังคม !!! "ทนายเกิดผล" ตีแผ่เล่ห์ "พนง.สอบสวน-นายประกัน" แปะมือกดขี่คนจน...สุดระทม เรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว!

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเล่าถึงเรื่องราวด้านมืดของสังคมที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว หลายๆคนรู้ดีและเคยประสบพบเจอ แต่ก็ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่ยังไม่รู้ถึงเล่ห์กลเหล่านี้ ที่น่าตกใจนั่นก็คือเป็นการกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อีกด้วย ระบุดังนี้

เมื่อมีการถูกจับและคุมขังแล้ว ก่อนที่จะพูดเรื่องจะสู้คดี หรือรับสารภาพ ผู้ถูกจับ มักจะให้ญาติประกันตัวก่อน ทันทีที่ติดต่อญาติได้ เรื่องอื่นๆ ว่ากันทีหลัง 

คนที่อยู่ในคุก มักจะร้อนใจ ยิ่งอยู่ใต้ถุนศาล ยิ่งนับเวลาถอยหลัง เพราะถึง 16.30 น.แล้วยังประกันตัวไม่ได้ คือ นับ 1 เข้าเรือนจำทันที โดยเฉพาะถ้าวันนั้นเป็นศุกร์ จะต้องอยู่ในเรือนจำจนถึงวันจันทร์ แต่ถ้าโชคร้าย วันจันทร์นั้นเป็นวันนขัตฤกษ์ด้วย ต้องรอถึง วันอังคาร

คนจน - คนรวย ตอนนี้แหละ มือก่ายหน้าผาก เพราะต่างอยากประกันตัวด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนจนๆ บางคน นอนนิ่งไม่ไหวติง ปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีญาติ มาประกันตัว ผมขอนำประสบการณ์ ในเรื่องการประกันตัวมาเล่าให้เพื่อนๆฟังนะครับ กรณีคนมีเงิน คนมีหลักทรัพย์ประกันตัวเอง ผมไม่ขอกล่าวถึง แต่จะขอพูดเฉพาะประเด็นคนจน ที่ไม่มีเงิน ไม่มีหลักทรัพย์ เป็นของตัวเอง ที่ต้องอาศัย หลักประกันของคนอื่น

หลักประกันของคนอื่นในที่นี้ คือ บรรดาผู้ที่รับจ้าง หรือ นำหลักทรัพย์ ของตนเอง มาให้ผู้อื่นเช่า เพื่อประกันตัวเป็นกรณีแรก นอกจากนั้นยังมี กรณี ไปเช่าโฉนดที่ดินคนอื่นมาประกันตัวคนอื่น อีกกรณีหนึ่ง

เคสแรก...ที่ สภ. แห่งหนึ่ง ใน จังหวัดนครปฐม...ผู้ต้องหาถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม เคสนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง นายประกัน กับ พนักงานสอบ เมื่อผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ พนักงานสอบสวนท่านนี้ จะดึงเวลาจนใกล้จะออกเวร ตั้งอัตราค่าประกันตัวสูงสุดในคดีนั้นคือ 500,000 บาท ญาติตามมาจากต่างจังหวัดไม่มีเงินสดประกันตัว ส่วนหลักทรัพย์ซึ่งเป็นโฉนดที่ดิน พนักงานสอบสวนไม่ยอมรับ อ้างว่า ไม่มีความน่าเชื่อถือ ญาติผู้ต้องหาร้อนรน ร้องขอความเห็นใจ ต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนเล่นตัว ปัดให้ประกันตัวที่ศาล

แต่ในเวลาเดียวกัน กลับไปบอกผู้ต้องหาว่า สามารถให้ประกันตัวได้ และมีหลักทรัพย์ให้เช่า คิด 20 % ของ 500,000 บาท (500,000 x 20 % = 100,000 บาท แต่ต้องมีค่าเสียเวลาในการติดต่อนายประกันให้ 15,000 บาท รวม 115,000 บาท ญาติไม่มีเงินสด และหลักทรัพย์ ถึง 500,000 บาท จึงต้องรวบรวมเงินกัน มาประกันตัว 115,000 บาท เมื่อญาติตกลงตามนั้น พนักงานสอบสวนท่านนั้น จึงติดต่อนายประกัน ให้ผู้ต้องหา และญาติต่างรอด้วยความหวัง จนกระทั่งเวลาผ่านไปตั้งนาน นายประกันก็ไม่มา สร้างความร้อนใจให้ญาติ จนต้องไปหาพนักงานสอบสวนเร่งลัดนายประกันมาเร็ว

สักครู่ พนักงานสอบสวนเรียกญาติเข้าไปพบ บอกว่า นายประกันแจ้งว่า โฉนดที่ดินที่ราคาประเมิน 500,000 บาท ตอนนี้ ไม่มีแล้ว เพราะเอาไปประกันผู้ต้องหาคนอื่น เหลือแต่ โฉนดที่ดินราคาประเมิน 800,000 บาท คิด 20 % = 160,000 บาท
ญาติขอต่อรอง ว่า ลดอัตราประกันตัวลงได้ใหม พนักงานสอบสวนไม่ยอม หรือขอให้นายประกันคิดค่าเช่าหลักทรัพย์ที่ 500,000 บาทได้ไหม นายประกันไม่ยอม ทั้งๆที่ตอนแรก รับปากเป็นมั้นเหมาะ ว่า มีหลักทรัพย์ 500,000 บาท เพียงพอ เมื่อไม่มีทางเลือก ญาติจำใจต้องระดมเงินใหม่ สุดท้าย ต้องนำทองที่ติดตัว คนละเส้น สองเส้นไปขาย นำเงินมาจ่ายค่าประกันตัววันนั้น 160,000 + ค่าติดต่อนายประกัน 15,000 บาท รวมทั้งสิ้น 175,000 บาท

ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เรื่องนี้ เกิดขึ้นจริงนานแล้ว เป็นความต่ำช้าของพนักงานสอบสวนท่านนั้น ที่ร่วมมือกับนายประกันเจ้าเล่ห์ ซึ่งในความจริง พนักงานสอบสวนสามารถเรียกหลักประกันขั้นต่ำได้ ไม่จำเป็นต้องเรียกสูงสุด และ เรียกเผื่อตัวเอง ขนาดนั้น ก็ได้ เคสที่ 2 นำที่ดินตาบอดมาประกัน แต่ เรียกค่าเสียเวลา ทั้งๆ ที่รู้ว่า ยังไงก็ประกันไม่ได้ เหตุเกิดที่กาฬสินธุ์ เดี๋ยวมาเล่าตอนที่ 2 ให้ฟังครับ

 

 

 

ขอบคุณ เกิดผล แก้วเกิด