ด่วน!!! แถลงการณ์ว่าด้วยสถานการณ์หลังรัฐประหาร ในซิมบับเว ฉบับแปลไทย สถานการณ์กำลังเลวร้ายลงมาก!!!(คลิป)

สถานการณ์การรัฐประหารในซิมบับเวครั้งนี้ ไม่มีการระบุเเน่ชัดว่าใครคือผู้นำภารกิจ เเต่ทางพล.อ.คอนสแคนติโน ชิเวนกา ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า กองทัพอาจต้องเเสดงบทบาท หากประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ วัย 93 ปี และพรรคสหภาพแห่งชาติซิมบับเวแอฟริกัน หรือ “ซานู-พีเอฟ” ยังไม่ยุติการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา ระบุว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีมูกาเบ เเล้ว ซึ่งเปิดเผยว่าเขาเเละภรรยาสบายดี เเต่อยู่แต่อยู่ภายใต้การกักบริเวณโดยกองทัพ และไม่สามารถเปิดเผยสถานที่พำนักตอนนี้ได้

ขณะที่สหภาพแอฟริกา ( เอยู ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ วิจารณ์สถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในซิมบับเวว่า “ไม่ต่างอะไรกับการรัฐประหาร” และเรียกร้องให้กองทัพซิมบับเวคืนอำนาจตามแนวทางประชาธิปไตยให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

พร้อมกันนั้น นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและเจรจากันโดยเร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ครั้งนี้อย่างสันติ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เรียกร้องในเรื่องนี้ และเตือนภัยพลเมืองอเมริกันในพื้นที่ ฝ่ายสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของซิมบับเว เตือนว่าสหราชอาณาจักรคัดค้านการถ่ายโอนอำนาจให้แก่เผด็จการ

ทั้งนี้ ทางประชาคมเพื่อการพัฒนาแอฟริกาตอนใต้ ( เอสเอดีซี ) ซึ่งซิมบับเวเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก มีกำหนดจัดการประชุมวาระฉุกเฉินที่บอตสวานา ในวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย. นี้ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับประธานาธิบดีมูกาเบ วัย 93 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารประเทศนับตั้งแต่ซิมบับเวได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2523 หรือ 37 ปีมาแล้ว ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าการดำเนินการของกองทัพในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่ชัดเจนของการแย่งชิงอำนาจว่าใครจะขึ้นมาครองตำแหน่งผู้นำซิมบับเวแทนมูกาเบในอนาคต

ล่าสุดนั้นผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Parit Chiwara" ได้โพสต์แถลงการณ์ว่าด้วยสถานการณ์หลังรัฐประหารและได้แปลเป็นไทย อย่างละเอียดไว้ดังนี้

มีเพื่อนจากซิมบับเวส่งอีเมลแถลงการณ์ว่าด้วยสถานการณ์หลังรัฐประหาร (ในประเทศเขา) มาให้ เลยลองเอามาแปลเป็นภาษาไทยดูครับ

"สรุปย่อสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมในซิมบับเว โดย สถาบันเพื่อการพัฒนาสตรีรุ่นใหม่ (Institution for Young Women Development - IYWD)

ในช่วง 48 ชั่วโมงมานี้ สถานการณ์ทางการเมืองในซิมบับเวเลวร้ายลงมาก เนื่องจากแกนนำพรรค Zanu PF ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลยกระดับการแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ (Robert Mugabe) โดยดึงกองกำลังทหารมาเกี่ยวข้อง ดังที่กองทัพซิมบับเว (Zimbabwe Defence Forces) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อเช้าวันที่ 15 ที่ผ่านมา ความวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่อดีตรองประธานาธิบดีเอมเมอร์สัน มนากากวา (Emmerson Mnagagwa) ถูกปลด และมีการประกาศว่าจะมีการกวาดล้างสมาชิกพรรคและรัฐมนตรีจำนวนกว่า 100 คนที่ถูกกล่าวหาว่า 'ไม่จงรักภักดี' ต่อประธานาธิบดีมูกาเบและเกรซ มูกาเบ ภริยา

ข้อวิตกด้านความมั่นคง

สถานการณ์ปัจจุบันทวีความน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง จากเดิมที่พลเมืองต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาภายใต้ระบอบของพรรค Zanu PF ซึ่งมักใช้ระบบอุปถัมป์และใช้กำลังบังคับขู่เข็ญพลเมืองอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงนี้ที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งในปี 2018

แม้การยึดอำนาจที่เกิดขึ้นอาจถือเป็นจุดจบของระบอบมูกาเบ แต่เป็นที่น่ากังวลว่าการยึดอำนาจของกองทัพนั้นไม่ได้กระทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของพลเมืองสามัญ แต่คำนึงถึงอำนาจของตนในพรรครัฐบาลเป็นหลัก แถลงการณ์กองทัพที่แถลงเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนระบุไว้อย่างชัดเจนว่า กองทัพมีเจตนาจะ 'จัดระเบียบ' (restore sanity) ภายในพรรค Zanu PF หากสถานการณ์ยืดเยื้อ การเมืองอาจดำเนินไปถึงทางตัน และสภาพการณ์อาจเลวร้ายจนเกิดรัฐบาลทหารขึ้น

สภาพเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจซิมบับเวตกต่ำกราวรูดลงเรื่อยมา แม้จะมีการประกาศใช้เงินตราทดแทน (surrogated currency) ในรูป 'พันธบัตร' (bond) ตั้งแต่ปลายปี 2014 วิกฤติการณ์ขาดสภาพคล่องทางการเงินที่มีแต่ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ นี้ส่งผลให้สินค้าหลายชนิดขาดตลาด แม้แต่ผ้าอนามัยยังไม่สามารถหาซื้อได้ในบางช่วง ถึงขนาดที่ร้านค้าขายผ้าอนามัยหลายแห่งเกือบจะต้องปิดตัวลงในช่วงนั้น สภาพการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และยังส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในอัตราที่สูงขึ้น

ปัจจุบันอัตราการว่างงานในประเทศสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเศรษฐกิจนอกระบบที่เคยค้ำจุนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมากนั้นก็ถูกภาครัฐคุกคาม ผ่านความรุนแรงโดยรัฐและนโยบายกีดกันการนำเข้าสินค้าบางประเภท สภาวการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อสตรีและสตรีรุ่นใหม่ที่อยู่ในภาคส่วนแรงงานนอกระบบ

ข้อเสนอเร่งด่วน

ในสภาวะที่เต็มไปด้วยปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองนั้น จำเป็นต้องมีการแทรกแซงแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อรักษาประชาธิปไตยและความสงบสุข ในวิถีทางที่จะฟื้นคืนพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อไปได้

สถาบัน ฯ (IYWD) มีข้อเสนอดังต่อไปนี้

• เพื่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง และเสถียรภาพ ขอให้ประธานาธิบดีมูกาเบลาออกจากตำแหน่งโดยสมัครใจ เพื่อปูทางสู่ระบอบรัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตย ให้เป็นไปตามเป้าหมายของการต่อสู้เพื่อเอกราช (ของชาติ)

• ขอให้กองทัพธำรงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญซิมบับเวและเปิดพื้นที่ให้พลเมืองที่หลากหลายได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ นักศึกษา ผู้สูงอายุ ผู้คนที่มีความถนัดแตกต่างกัน ภาคการเมือง แรงงาน ผู้นำทางศาสนา ทหารผ่านศึกที่เคยร่วมสงครามประกาศอิสรภาพ และขบวนการภาคประชาชนอื่น ๆ

• ขอให้ประชาคมพัฒนาประเทศแอฟริกาตอนใต้ (South Africa Development Community - SADC) สหภาพแอฟริกา (African Union - AU) และประชาคมนานาชาติเข้าสนับสนุนการแก้ปัญหาที่สันติและประชาชนมีส่วนร่วม ตามหลักการของรัฐธรรมนูญซิมบับเวและกฎบัตรสิทธิมนุษยชนของ SADC และ AU

• ข้อตกลงในการแก้ปัญหาใด ๆ ก็ตามต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการส่งเสริม เคารพ และปกป้องสิทธิพลเมือง และการฟื้นคืนสภาพเศรษฐกิจเพื่อนำพาประเทศกลับสู่เส้นทางของการพัฒนา"

 

Cr.Parit Chiwara