"หมาจะเห่าห้ามไม่ให้เห่าลำบาก" !!! ฟังไว้ให้ดี "พล.ท.นันทเดช" ซัด 3 ต้นตอข่าวลือทางการเมืองมีแต่คนเหล่านี้ทั้งนั้น!

วันที่ 18 พ.ย. 2560 พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันนี้ที่เริ่มเกิดความสับสนและวุ่นวายเล็กน้อย โดยวิเคราะห์ถึงต้นตอ3ข้อของข่าวลือต่างๆและขอให้ประชาชนอย่าตื่นเต้นกับกระแสข่าวมากนัก ให้ปล่อยวางไปบ้าง

ความสับสนของสถานการณ์ทางการเมืองในระยะนี้ ถือว่าเป็นเรื่องตามปกติ ไม่มีอะไรแปลกไปกว่าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย เพราะอยู่ในช่วงระยะเวลา ที่มีการสับเปลี่ยน ตัวบุคคล ทั้งในระดับในระดับ ครม., ทหาร,ตำรวจ และ ข้าราชการระดับกลางทั่วประเทศ ดังนั้น ข่าวลือต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น ใน3ลักษณะ คือ 

(1)เกิด จากผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการแต่งตั้ง , กลุ่มบุคคลที่เป็นศัตรูกับรัฐบาล และ กลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนจากการทำมาหากินส่วนหนึ่งที่กำลังรอการแก้ไขอยู่ เช่น กลุ่มยาง,กลุ่มชาวประมงค์ ฯลฯ ความสับสนนี้ จะค่อยๆหายไปในที่สุด เมื่อผ่านเดือนนี้ไป ดังนั้นอ่านอะไร ก็อย่าไปตื่นเต้นกับมันนัก ปล่อยไปบ้าง หมาจะเห่าห้ามไม่ให้เห่าลำบากครับ

โดยก่อนหน้านี้ก็มีการนำเสนอข่าวความวุ่นวายทางการเมืองในประเด็นต่างๆตามที่พลโทนันทเดชได้วิเคราะห์ถึง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 หลังจากคสช.ยืนกรานไม่ปลดล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมต่างๆ ตามคำร้องขอ

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ยกเลิกคำสั่งคสช.เพื่อผ่อนคลายให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งประชุมพรรค จัดทำข้อบังคับ คัดเลือกผู้บริหารพรรค ถ้าไม่ทำอาจเกิดความเสียหายต่อพรรคการเมือง ระบุดังนี้

ขอให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗  กราบเรียน​พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

อ้างถึง ๑.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐​๒.ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๗

ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ ได้ประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ซึ่งในกฎหมายดังกล่าว ได้กำหนดให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการต่างๆ ในหลายเรื่องภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยไม่มีข้อยกเว้น เช่น ต้องแจ้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกพรรค การจัดทำข้อบังคับพรรค การจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหาร การให้สมาชิกชำระค่าบำรุงพรรค หรือการจัดตั้งสาขาพรรค เป็นต้น หากไม่ดำเนินการจะมีผลทางกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญต่อพรรคการเมือง

เนื่องจากตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ได้ห้ามมิให้พรรคการเมืองดำเนินการประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง ทำให้พรรคการเมืองไม่อาจดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญตามที่ได้กราบเรียนข้างต้นได้ 

ด้วยเหตุนี้ พรรคเพื่อไทย จึงขอให้ท่านในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดำเนินการเพื่อยกเลิก ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ โดยไม่มีเงื่อนไข และโดยเร็ว เพราะหากท่านไม่ดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายแก่พรรคการเมืองเป็นอย่างมาก
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

 ขอแสดงความนับถือ

โดยสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ได้เป็นประธานในการประชุมคสช.โดยมีสมาชิกคสช. ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประเด็นสำคัญคือการพิจารณาข้อเสนอปลดล็อคพรรคการเมืองและการจัดกิจกรรมทางการเมืองจากฝ่ายต่างๆ 

ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงเช้าคสช.ไม่ได้มีการแถลงเรื่องนี้แต่อย่างใด  ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม  และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้แต่อย่างใด”  ทั้งนี้โดยสรุปการประชุมเรื่องปลดล็อคพรรคการเมืองเช้านี้  

คสช.ได้เผยแพร่เอกสารข้อสรุปความว่า  คสช.ได้พิจารณาประเมินสถานการณ์มาเป็นระยะๆ อยู่แล้วแม้กระทั่งเช้าวันนี้และจะประเมินต่อไปทุกระยะ ความเห็นในขณะนี้มีว่าสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย บ้านเมืองยังอยู่ระหว่างห้วงเวลาที่ยังไม่ควรมีความขัดแย้งทางการเมืองหรือทางอื่นใด กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งก็ยังไม่เรียบร้อยยังไม่เข้าสภา กก.ชุดใหม่ 7 คนก็ยังอยู่ระหว่างการสรรหาไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ นายทะเบียนพรรคการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสำคัญทางกฎหมายพรรคการเมืองก็ยังไม่มี มีแต่ผู้รักษาการแทน  จึงขอให้การปลดล็อคที่พูดกันรอไปอีกระยะ อย่าตื่นเต้นกังวล

 

 

ขอบคุณ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์