ประกาศฉบับที่ 13 อุตุฯ ชี้ 20-21 พ.ย.นี้ "พายุดีเปรสชันคีโรกี" ทำ 21 จังหวัดต่อไปนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก (รายละ)

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชัน “คีโรกี” (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2560)" ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนบนลงสู่ทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย. 2560) โดยจะส่งผลให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

ประกาศฉบับที่ 13 อุตุฯ ชี้ 20-21 พ.ย.นี้ "พายุดีเปรสชันคีโรกี" ทำ 21 จังหวัดต่อไปนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหล

พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 20 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชลบุรี ระยอง เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
วันที่ 21 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงโดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

 

ประกาศฉบับที่ 13 อุตุฯ ชี้ 20-21 พ.ย.นี้ "พายุดีเปรสชันคีโรกี" ทำ 21 จังหวัดต่อไปนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหล

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า เวลา 17.00 น. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลและรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง    

 

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนบนลงสู่ทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย. 2560) โดยจะส่งผลให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง   

ภาคเหนือ     
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก
พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
และอุณภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ     
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา
บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
และอุณภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง     
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม
สมุทรสาคร และนครปฐม
และอุณภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก     
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)     
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)     
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล     
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.