ประยุทธ์เตรียมหอบครม.ตู่ 5 บินประชุมสัญจร “พิษณุโลก –สุโขทัย” 25-26 ธ.ค.นี้ อุบไต๋ข้อเสนอสมศักดิ์ ผุด “เขื่อนแก่งเสือเต้น”

ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.จังหวัดสุโขทัย ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบ 5 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาจังหวัด ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจรที่จังหวัดพิษณุโลก - สุโขทัย ระหว่างวันที่ 25 -26  ธันวาคม นี้ว่า การประชุมครม.สัญจร จะมีการพูดคุยกับคนในพื้นที่ ทั้งทางจังหวัดและ กรอ. หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ท้องถิ่น โดยเหล่านี้จะเสนอโครงการมาที่รัฐบาล โครงการใดที่อยู่ในแผนงานประจำปี ก็จะทำให้สอดคล้องกับงานของรัฐบาล ถ้ายังไม่มี เราก็จะจัดสรรงบประมาณให้เมื่อมีความจำเป็น ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ไม่ได้ของบประมาณมาที่ตน เพราะไม่ได้มีความเชื่อมต่อกันแต่อย่างใด แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ กรอ. จังหวัดจะต้องพิจารณา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่นายสมศักดิ์ อยากให้นายกฯ เดินหน้าโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสื้อเต้นนั้น ถามว่าทำไมที่ผ่านมาถึงสร้างไม่ได้ ทุกคนทราบดีว่าติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม พื้นที่ป่า อยากให้นักสิทธิมนุษยชนทราบว่า ถ้าเรายังต่อต้านกันเหมือนเดิมจะมีผลกระทบด้านน้ำท่วมฝนแล้งอีกมากเท่าใด ปีหนึ่งเสียหายกี่หมื่นล้าน แต่หากจะสร้างเขื่อนจริง ก็จะต้องดูว่าสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าเท่าใด คุ้มค่าหรือไม่ และจะสามารถปลูกป่าชดเชยได้หรือไม่ จะจัดสรรที่อยู่ใหม่ให้ประชาชนได้อย่างไร

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เตรียมลงพื้นที่ครม.สัญจร วันที่ 25-26 ธ.ค.นี้ ที่จ.พิษณุโลก และสุโขทัย โดยจะเป็นการประชุมเพื่อรับทราบปัญหาต่างๆ  เบื้องต้นจะมีกลุ่มการเมือง ยื่นเรื่องโครงการแก่งเสือเต้นให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง และมั่นใจว่าการยื่นเรื่องดังกล่าว จะไม่ซ้ำรอยโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา เพราะเจ้าหน้าที่มีประสบการณ์ และมีบทเรียนมาแล้ว

“  ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เสนอมา ไม่ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุด ที่เป็นประโยชน์สูงสุดมาดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า แต่ละปีรัฐบาลต้องเสียงบประมาณมหาศาลหลายหมื่นล้านเพื่อไปแก้ไขปัญหา เพราะนั้น เราต้องหาจุดที่ลงตัว และเปิดใจรับฟังข้อมูลจากทุกด้าน ทุกฝ่าย”   พล.ท.สรรเสริญ กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงไหมว่าจะเกิดกรณีม็อบเหมือนที่สงขลาอีก พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ห่วงเรื่องม็อบ เพราะการจะทำอะไร มันก็มีทั้งคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ถ้าเราเอาจุดมุ่งหมายเป็นตัวตั้ง โดยไม่ฟังเหตุผล ไม่ฟังอะไรเลย เราก็จะเดินหน้าอะไรไม่ได้เลย 

“  รัฐบาลต้องเอาประโยชน์ เอาพื้นฐานของประเทศเป็นที่ตั้ง ในการดำเนินการต่างๆ  เราต้องฟังข้อมูลกลุ่มที่เห็นต่าง อย่ากันเขาอยู่วงนอก ไม่ใช่ฟังข้อมูลแต่นักวิชาการ ไม่ใช่ฟังข้อมูลแต่ข้าราชการ เราต้องฟังทุกฝ่าย รัฐบาลต้องเป็นตัวกลาง อย่าให้ทะเลาะแบะแว้งกัน ขออย่างเดียวอย่าให้ผิดกฎหมาย คิดว่าคงไม่มีเรื่องซ้ำรอยที่สงขลา เพราะบทเรียนของทุกฝ่ายก็มีแล้ว” โฆษกรัฐบาลกล่าว

 

ต้องรอดูว่าการเดินทางไปประชุมครม.สัญจร ครั้งที่ 4 ในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะนำครม.ตู่ 5 พร้อมรัฐมนตรีหน้าใหม่หลายคนไปสร้างเซอไพรซ์หรือสร้างข่าวใหญ่อะไรอีก และปลายทางของมหากาพย์แก่งเสือเต้นจะไปจบลงที่ใด