นาฬิกา,หมา,เมีย พี่น้อง 3 ป. โดนกันถ้วนหน้า

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พี่รอง ของแก๊งสาม ป. ถูกมือดี ปูดข่าวเสียๆหายๆ ให้คนต้องคิดตามไปต่างๆนาๆ ซึ่งสามารถดิตเครดิต รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้พอสมควร 

ตามข่าว ครั้งนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า “ผมได้เห็นการโพสต์ดังกล่าวแล้ว ที่กล่าวหาว่ามีสุภาพสตรีคนหนึ่งมามีความสัมพันธ์กับผมถึงกับมีบุตร ขอเรียนว่าผมไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวมีความสัมพันธ์กับสุภาพสตรีดังกล่าวโดยสิ้นเชิง”
 

 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องชี้แจงเพราะไม่เช่นนั้น จะก็เสียหาย และสุภาพสตรี ก็ไม่ทราบว่าเขาเป็นภรรยาใคร เขาก็จะเสียหายด้วย ทั้งนี้ตนได้ทำหมันมากว่า 20 ปีแล้ว จะมีลูก 3-4 ขวบจึงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้สังคมก็ดูกันเอง ตนได้ชี้แจงความเป็นจริงให้ทราบ น่าสงสารเด็กที่ต้องโตมาแล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าเป็นญาติพวกคุณโดนกล่าวหาไปเป็นลูกเมียใครก็ไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องดังกล่าวไม่มีแววว่าจะเป็นความจริง เนื่องจากไม่มีหลักฐานอันจะเชื่อถือได้ เมื่อมาผนวกกับความไม่น่าเชื่อถือของคนปูดข่าว จากนั้นเรื่องก็ค่อยๆเงียบหายไป ถือเป็นเรื่องแสบๆคันๆเล็กน้อยก็เท่านั้น

ต่อมาเมื่อมีการปรับคณะรัฐมนตรี เป็น ครม.ประยุทธ์ 5 งานจึงเข้าพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อสายตาของนักข่าวเหลือบไปเห็นนาฬิกาเรือนงามในข้อมือ ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นนาฬิกาหรู “ริชาร์ด มิลล์” มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท  และทำไปทำมากก็พบอีกว่า ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ได้แจ้งนาฬิกาดังกล่าวในการยื่นบัญชีทรัพสินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นั่นเป็นเหตุให้เรื่องนี้ต้องขยายใหญ่ขึ้น

โดยมีคนไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช) ให้ตรวจสอบที่มาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่สังคมออนไลน์พากันขุดภาพเก่าๆของ ‘บิ๊กป้อม’ ที่ใส่นาฬิกา ซึ่งเมื่อรวมแล้ว พล.อ.ประวิตร มีนาฬิกาหรูกว่า 16 เรือน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20 เรือนในไม่ช้า 

สำหรับน้องเล็กอย่าง ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช่ว่าจะรอด เพราะภายหลังเดินทางกลับจากการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.พิษณุโลกและสุโขทัย เมื่อปลายปี  มือดีอย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ยื่น ป.ป.ช. สอบ กรณีที่ระหว่างพบปะชาวบ้านในการประชุม ครม.สัญจร พล.อ.ประยุทธ์ ได้ซื้อสุนัขบางแก้ว 3 ตัว เลี้ยงเอง 1 ตัว ให้ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี คนละตัว 

 

นายศรีสุวรรณ มองว่า การให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 103 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบข้อ 5(2) ของประกาศ ป.ป.ช. การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเข้าข่ายผิดกฎหมาย 

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นอีกคนที่งานเข้า แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กที่ไม่อาจสร้างแรงสะเทือนถึง คสช.ได้ แต่กระนั้น แต่ก็ลดเครดิตของรัฐบาลได้ จน พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับบ่นว่า สื่อให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากเกินไป