นายกลุงตู่ เอาจริง !! สั่งทุกหน่วยงานทำแผนแก้จน ภายใน 3เดือน

ด้วยความที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ตั้งเป้าและประกาศให้ ปี61 เป็นปีที่รัฐบาลเร่ง แก้ปัญหา -ขจัดความยากจนของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมผลักดันเม็ดเงินลงฐานราก กระจายรายได้ลงชุมชน โดยใช้ทั้งภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร เป็นกลไกสำคัญเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทย

โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล คือการแก้ปัญหาความเหลือมล้ำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน

 

 

ซึ่งล่าสุด ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการ เร่งจัดทำแผนแก้ความยากจนภายใน3เดือน  และเตรียมตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำคนจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม 

โดยนางเมธิณี เทพมณี เลขาธิการสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ เร่งรัดแต่ละหน่วยงานให้บรรลุภารกิจ โดยยึดหลักปฏิรูประบบราชการ และมอบหมายให้ส่วนราชการเร่งรัดในงานสำคัญ เพื่อนำนโยบายสู่ประชาชนโดยเร็วผ่านรูปแบบประชารัฐ ซึ่งหัวหน้นส่วนราชการจะต้องส่งแผนงานตามลำดับความสำคัญใน 2 สัปดาห์ และเร่งมาตรการแก้ไขความยากจนภายใน 3 เดือน

ทั้งนี้ ช่วงเวลานี้อยู่ระหว่างการตั้งบประมาณ ปี 2562 และการใช้งบฯ ปี 2561 ในไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้ ให้หน่วยงานคำหนึ่งการดำเนินงานที่สอดคล้องกับยุคต่อไป คือ ก้าวสู่เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพราะรัฐบาลผลักให้มีการติดตั้งไวไฟในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลแล้ว และที่สำคัญส่วนราชการจะต้องผลักดันภารกิจด้านบริการสาธารณะให้กับประชาชนโดยเร็วด้วย ส่วนการแก้ไขความยากจน ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเพิ่มค่าจ้างแรงงาน แต่ขณะนี้สภาพัฒนฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาเส้นแบ่งความยากจน จากเดิมที่เฉลี่ยรายได้ 2,660 บาทต่อเดือน

ขณะที่นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมได้เสนอความคืบหน้าการดำเนินงานต่อที่ประชุม โดยเฉพาะการจัดทำบิ๊กดาต้าที่เชื่อมโยงข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกับข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ลักษณะเดียวกับเครดิตสกอร์ในระบบธนาคาร ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขังต้องลดลง 10 % ใน 3 ปี
 

 

 

 ขณะที่การลดความเหลื่อมล้ำ ได้เสนอแผนงานร่วมกระทรวงมหาดไทย ในการจัดตั้งระบบยุติธรรมชมชนทั่วประเทศ ลดปัญหาข้อพิพาทและลดความเหลื่อมล้ำคนรวย-คนจน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เน้นย้ำให้มีการพิจารณาคดีใดเป็นพิเศษ แต่เน้นเรื่องความเหลื่อมล้ำของประชาชน.