นึกดูดีๆ !?! "พล.ท.นันทเดช" ย้อน "หมอเหวง"เผด็จการซ่อนรูป.....ลองกลับไปย้อนดูรัฐบาลตัวเอง!

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแดง และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น กรณีการครอบครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมทั้งการบริหารงานของรัฐบาล คสช.ว่า ปรากฏการณ์ “แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน” นั้นเกิดขึ้นจากผู้กุมอำนาจเอง แล้วยังหลงลำพองใจว่า “ไม่มีผลกระทบใดๆ” ต่อพวกเขาแน่นอน เพราะองค์กรที่จะจัดการกับพวกเขานั้น เป็นองค์กรที่ตั้งโดยพวกเขา และได้รับการต่ออายุสืบเนื่องก็จากอำนาจของพวกเขา ดังนั้น“ไม่เห็นจะต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไร” แม้ว่าจนถึงขณะนี้ จะปรากฏต่อหน้าสายตาประชาชนจำนวนมากถึง 24 เรือน โดยที่ราคาแต่ละเรือนก็กว่าล้านหรือเกือบล้านทั้งสิ้น

อีกทั้งยังแสดงความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศว่า ประเทศไทยต้องใช้ประชาธิปไตยไทยนิยม ถือเป็นการยืนยันว่า ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตยแบบเผด็จการซ่อนรูป เป็นการมองข้ามอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชาวไทยไปอย่างไม่เห็นหัวประชาชนเลยแม้แต่น้อย แล้วท่านไม่คิดหรือว่า ประชาชนทั้งประเทศที่เคยได้ลองลิ้มชิมรสประชาธิปไตยแท้จริงมาแล้วจะรู้สึกนึกคิดอย่างไร

ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยอมเปิดเผยปมนาฬิกาหรูกว่า 20 เรือนที่กำลังถูกเพจดัง ในโลกออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตอย่างหนักว่า เพจดังกล่าว เอาภาพนาฬิกาที่เคยสวมใส่ออกมาเปิดเผย และนำกลับมาเผยแพร่ ส่วนนาฬิกาที่ตนเองใส่ทั้งหมด เป็นของเพื่อนที่เอามาให้ยืมใส่เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวไม่เคยสะสมนาฬิกา และไม่ได้เล่นหุ้นนาฬิกาตามที่สื่อตั้งข้อสังเกต ซึ่งหลังจากที่ใส่เสร็จแล้วก็นำไปคืนเพื่อน ยืนยัน ไม่มีน้อยใจ หรือ หมดกำลังใจกับกระแสที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทุกอย่างได้ชี้แจงกับ ป.ป.ช. ไปหมดแล้ว หากพบว่า ตนเองกระทำผิดก็พร้อมลาออก

เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ท.นันทเดช ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวคิดตามที่นพ.เหวงออกมาพูด พร้อมบอกให้ลองย้อนกลับไปดูรัฐบาลของตนว่ารุนแรงไม่แพ้กัน

วันนี้ "การเมือง" เริ่มต้นแล้ว รัฐบาลลุงตู่ ต้องทนหน่อย

หมอเหวง ออกมาพูดว่า "ประชาธิปไตยไทยนิยม ของลุงตู่ เป็นเผด็จการซ่อนรูป" แล้วก็พาดพิงไปที่นาฬิกา ฟังแล้วขอร่วมคิดกับหมอเหวง 2 ประเด็น

1.ประชาธิปไตยในอาเชียน มีประเทศไหนเป็นประชาธิปไตยที่ดีกว่าไทย หรือเป็นแบบ"หมอเหวง"พูดบ้าง ลองยกมาสักประเทศซิครับ การที่หมอเหวงพูดว่าประชาธิปไตยของลุงตู่เป็นเผด็จการซ่อนรูป ก็เท่ากับหมอเหวง ไปว่าสิงคโปร์ ,สปป.ลาว หรือแม้แต่กัมพูชา ที่แกนนำกลุ่ม นปช.เคยไปร้องเพลง สรรเสริญฮุนเซนมาแล้ว หรือลองย้อนหลังกลับไปดูรัฐบาลของหมอเหวงเองก็รุนแรงมากกว่ารัฐบาลนี้ไหม นึกดูดีๆครับ

2.เรื่องนาฬิกาลุงป้อม ผมก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมลุงป้อมไม่ออกมาพูดโต้ตอบอะไรบ้าง ปล่อยให้พวกที่ไม่หวังดีต่อรัฐบาลออกมาถล่มได้ทุกวัน ทั้งๆที่ลุงป้อม

(1) ส่งเรื่องชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ให้ ปปช. ไปนานแล้ว แจ้งไปทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องชี้แจงเรื่องทรัพย์สินเลย การออกมาชี้แจงต่อ ปปช.ล่วงหน้า แสดงว่าแกมั่นใจว่าไม่ผิดแน่

(2) นอกจากนั้น ผมไม่เชื่อว่าแกจะกล้า "แอบซ่อนไม่แจ้งเรื่อง มีนาฬิการาคาระดับนี้ เมื่อแจ้งทรัพย์สินกับทาง ปปช." ทั้งๆที่เป็น รมต.มาหลายปี และ ที่สำคัญ เป็นอยู่ในสมัย คุณ ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ เป็นเลขา ปปช. ด้วย

มาวันนี้ลุงป้อม ออกมาพูดแล้ว คงจะเบื่อมั้ง โดยยืนยันว่า

"ถ้า ปปช.ชี้มูลว่าผิด ลาออกทันที"

พร้อมกับชี้แจงที่มาของนาฬิกา กรณีเพจ CSI LA นำภาพนาฬิกาหรูจำนวน 24 เรือน มาเผยแพร่ว่า “เป็นการวมเอาเรือนเก่าออกมาด้วย" ส่วนนาฬิกานั้น "เพื่อนเอามาให้ใส่ คืนหมดแล้ว" เรื่องนี้เมื่อแจ้ง ปปช.ไปแล้ว การทำงานของ ปปช.ไม่สามารถไปแทรกแซงได้ เพราะปปช. มีการดำเนินการตามขั้นตอนของเขา คงต้องรอให้เขาตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน

พอลุงป้อม แจ้งเรื่องให้ ปปช.แล้วออกพูดมาแบบนี้เรื่องก็จบไปนานแล้วครับลุง แต่ออกมาพูดตอนนี้ เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้กลายเป็นการเมืองไปแล้ว จะต้องมีคนออกมาถามต่อว่าเพื่อนชื่ออะไรอีก คอยดูกันต่อไป ทั้งที่ชื่อเพื่อนลุงป้อม คงอยู่ที่ ปปช.แล้ว อยากรู้ก็ไปถาม ปปช.ดู รู้แล้วก็อย่างงก็แล้วกัน

ยังมีเรื่องตีรัฐบาลอีก2-3เรืองแต่ยาวแล้วครับ พรุ่งนี้ต่อดีกว่า