รัฐบาลส่งเสริมคนไทยมีลูก !! ...ไม่ใช่เพิ่มแค่ปริมาณ แต่ควรคุณภาพด้วย

รัฐบาลส่งเสริมคนไทยมีลูก !! ...ไม่ใช่เพิ่มแค่ปริมาณ แต่ควรคุณภาพด้วย

กับการที่ครม. มีมติมาตรการภาษีเพิ่มค่าลดหย่อนบุตรคนที่2 จูงใจคนไทยมีลูกเพิ่ม พร้อมออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นสวัสดิการของลูกจ้าง

เพื่อสนับสนุนการมีลูก ที่มีแนวโน้มลดลงทุกปี และเตรียมรองรับโครงสร้างของประเทศที่ปรับเปลี่ยนเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากตัวเลขพบว่า ในปี 2579 ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุถึง30% โดยมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้รัฐสูญรายได้ประมาณปีละ 2,500 ล้านบาท

โดยรัฐบาล จัดเต็ม ทั้งปรับเพิ่มค่าลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไป ของผู้มีเงินได้หรือของสามีหรือภริยาของผู้มีเงิน ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561  สามารถหักลดหย่อนได้เพิ่มอีก 30,000 บาท รวมเป็น 60,000 บาท ต่อคนต่อปีภาษี ขณะเดียวกันยังสามารถนำค่าฝากครรภ์หรือค่าคลอดบุตรไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงได้อีกไม่เกิน60,000 บาท 

ไม่เพียงแค่นั้น ครม.ยังได้เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นสวัสดิการของลูกจ้าง สำหรับสถานประกอบการของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยให้นำค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการมาหักเป็นรายจ่ายได้ตามที่จ่ายจริงและสามารถหักได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1ล้านบาท เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้แก่ลูกจ้าง และถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลูกจ้างด้วย โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้รัฐสูญรายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปี หรือไม่เกิน 60 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี(1 ม.ค. 61-31 ธ.ค.63)


ซึ่งนั่นคือการ”เพิ่มปริมาณ”แต่ “คุณภาพ” ของเด็กที่จะเกิด รัฐบาลมีความพร้อมและเตรียมการรองรับ มากน้อยแค่ไหน

เพราะทุกวันนี้ ปัญหาในสังคมไทย เกิดขึ้นมากมาย ถึงแม้จะอยู่ในภาวะเด็กเกิดน้อยลง แต่คุณภาพ ของเด็กยังเป็นเรื่องใหญ่   ทั้งที่เกิดการท้องไม่พร้อม และ ลูกหลานแรงงานต่างด้าว ที่เพิ่มมากขึ้น ในทุกๆวัน 

ขณะที่ การปฎิรูปสังคมและ การศึกษา ยังมุ่งเน้นด้านวิชาการเป็นหลัก  แต่การศึกษาภาพรวมและการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี  ที่ส่งผลต่อประชากรยุคใหม่ ถูกละเลยมองข้าม 

ถึงเวลาแล้วที่ ทำให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ ที่มุ่งสร้างทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง และทุนทางปัญญา  ไปพร้อมๆกัน

จะเอาแค่ปริมาณ แต่ไม่คิดถึงคุณภาพ คงอยู่ยากในสังคมไทย

 

 

///////////////////////////////