“ทำไมค่าแรงงานขึ้นไม่ได้” สมคิดคำรามได้ใจลูกจ้างไปเต็มๆ ชูเหมาะสมเป็นธรรม ไม่ขึ้นมานาน 3 ปี

เชื่ออำนาจซื้อเพิ่มขึ้น ช่วยหมุนเศรษฐกิจ สั่งพาณิชย์คุมฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จากกรณีที่คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 19  

พิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำปี พ.ศ. 2561  ที่มีนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน และมีผู้แทน 3 ฝ่ายประกอบด้วย

ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง  มีมติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในอัตรา 5 บาท ถึง 22 บาท

โดยแบ่งเฉลี่ยเป็น 7 กลุ่ม ไล่ตั้งแต่ 308 บาทจนถึง 330 บาท  ที่ถือเป็นการปรับค่าจ้างทั่วประเทศพร้อมกัน

ครั้งแรกในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2559 ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจให้เหตุผลการปรับขึ้นในครั้งนี้ว่า

เหมาะสมแล้วเพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือในเรื่องนี้กันมาหมดแล้ว  และที่ผ่านมา 3 ปีก็ไม่ได้ขึ้นมาเลย

การขึ้นในคราวนี้ก็ถือว่าโอเคกับทุกฝ่าย สังคมก็อยู่ร่วมกันได้  แรงงานได้รับค่าจ้างสูงขึ้น อำนาจซื้อดีขึ้น พ่อค้าได้ค้าขาย เศรษฐกิจก็หมุนดี

จากนี้กระทรวงการคลังก็ต้องไปดูว่ามีอะไรจะช่วยเหลือเอกชนได้บ้าง  ถ้าค่าแรงสูงมากก็อาจจะช่วยเรื่องภาษีแต่ถ้าขึ้นน้อยก็ไม่ต้องช่วย

 

 

 

 

 

“ ความเป็นธรรมในสังคมเราต้องมี ทุกอย่างขึ้นได้หมดแต่ทำไมค่าแรงขั้นต่ำถึงขึ้นไม่ได้ เรื่องนี้ต้องขอชมเชยนายจ้างที่ใจกว้าง แรงงานก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี รัฐบาลไม่ได้ไปยุ่งเกี่ล่ยวก็ปอยให้เขาเจรจากันเอง” รองนายกฯกล่าว

ต่อข้อถามว่าเป็นห่วงว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้ราคาสินค้าขยับสูงขึ้นหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ต้องควบคุม

คิดว่าการขึ้นค่าแรงคราวนี้เหมาะสมทุกประการแต่ละจังหวัดก็ได้ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ค่าครองชีพของแต่ละจังหวัด

การเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบนี้ของคณะกรรมการไตรภาคีเชื่อแน่ว่าจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลได้ใจชนชั้นกรรมาชีพผู้ใช้แรงงานไปแบบเต็มๆ