นายกลุงตู่ !!ร่ายความในใจ ส่งจม.น้อยให้ครม. กับตัวชี้วัดเวลาที่เหลืออยู่ 1 ปี

เป็นที่ ฮือฮา กับควันหลงจากการประชุมครม.ครั้งที่ผ่านมา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบายความในใจผ่านเอกสารเขียนด้วยลายมือบนหน้ากระดาษเอ 4 จำนวน 12 หน้า แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการชี้แจง ความหมายของประชาธิปไตยไทยนิยมว่า  เพื่อให้คนไทยเข้าใจหลักคิดที่ถูกต้อง ไม่เคยคิดจะทิ้งพื้นฐานประชาธิปไตยสากล ด้วยหลักการประชาธิปไตยเป็นของปวงชน ที่ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย มุ่งเป้าหมายเดียวกันคือความสงบสุขสันติอย่างยั่งยืน โดยมีพื้นฐานจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล อย่าเอานายกฯ คสช.ไปสู้กับใคร นายกฯใด พรรคใด กลุ่มใด ผมกำลังทำเพื่อประชาชน อยากให้คนไทยที่ต้องการประชาธิปไตยนิยมไทย มีอุดมการณ์เดียวกัน ใครจะเข้ามาบิดเบือนไม่ได้ มีผู้ไม่หวังดีเจตนาไม่บริสุทธิ์ยังคงพยายามอยู่จนถึงทุกวันนี้ ต้องหาแก่นสารของประชาธิปไตย สร้างไทยนิยมระบบประชาธิปไตยให้ได้

ขณะที่ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องบริหารราชการ ในปี 2561-2562 โดยนายกฯขอให้ ครม.ทำงานด้วยความโปร่งใส ชี้แจง ตรวจสอบได้ เตรียมการเป็นประชาธิปไตย แก้ปัญหาประชาธิปไตยทุกประเด็น สร้างระบบ วิธีการราชการ เตรียมคนรุ่นใหม่และปัจจุบัน สร้างอาชีพรายได้ที่เหมาะสม เป็นคนเก่งและดี มีศีลธรรม คุณธรรม วางกลไกกระทรวงให้สอดคล้องกับกลไกรัฐบาล กลไกยุทธศาสตร์และปฏิรูป แก้ปัญหาบุคลากรปรับปรุงตัวให้เป็นคนดี ไม่ใช่เพื่อพวกพ้องซึ่งไม่ดี สร้างความร่วมมือ สร้างอุดมการณ์ ชวนคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18 ปี ที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้งและคนไม่ชอบการเมือง ต้องออกมาเลือกตั้งให้มากที่สุดขอให้ทุกคณะทำงานเชิงรุก อย่าทำงานเชิงรับ รอเรื่องร้องเรียนอย่างเดียวเพื่อช่วยประชาชนอุ่นใจ “สิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือ สื่อ นักการเมืองที่มีปัญหา พยายามจะล้มรัฐบาลและคสช.ให้ได้ในช่วงนี้ กฎหมาย คำสั่งทุกฉบับ จะแก้ไขให้กลับไปที่เดิม และมีข้าราชการไม่สุจริตร่วมมือ

สำหรับส่วนที่ 3 หลักการการทำงาน ต้องเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เดินหน้ายุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ลดความยากจนในทุกมิติ เน้นการศึกษา เกษตร ปฏิรูประบบราชการ การให้บริการประชาชนด้วยกลไกประชารัฐ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยอย่างมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงสังคมเท่าเทียมและเป็นธรรม ให้โอกาสทุกคน กวาดล้างทุจริต สร้างความสมดุลการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ไม่ให้เกิดปัญหาระบบการเงิน การคลัง บริหารจัดการน้ำเพื่อคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย แก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ดูแลสวัสดิการ แรงงานให้ดีที่สุดทุกมิติ ร่วมมือกับทุกสหภาพให้เข้าใจถึงความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ และภาระของรัฐ ธุรกิจ รัฐวิสาหกิจต้องอยู่ได้ แต่สวัสดิการต้องไม่ลดลง ไม่ทำให้สินค้าเกษตรเป็นปัญหาการเมืองอีกต่อไป

พร้อมระบุด้วยว่า ทั้งหมดนี้จะกำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า และอธิบดี โดยนายกฯจะกำหนดลงไป ก.พ. และ ก.พ.ร. จะเริ่มประเมินในเดือน เม.ย.นี้ ทุก 3 เดือน สะสมผลงาน มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในเดือน ต.ค.61 สร้างความเข้าใจประชาชนให้เกิดความร่วมมือและยอมรับ ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎกระทรวง ระเบียบให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ สร้างความมั่นคง ไม่ขัดแย้งกับการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐ
 

โดย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า หนังสือดังกล่าวเป็นการให้คำแนะนำคณะรัฐมนตรีในการทำงานช่วงหนึ่งปีที่เหลืออยู่ ทั้งการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การใช้จ่ายงบประมาณโดยโปร่งใส และการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวง โดยเน้นย้ำถึงตัวชี้วัดการทำงานของรัฐมนตรี และการสร้างความเข้าใจการรับรู้ เพื่อทำให้ระบบการเมืองไทยมีธรรมาภิบาล แต่ส่วนตัวยังอ่านไม่ครบทั้งหมด เนื่องจากเป็นหนังสือลายมือที่อ่านยากและไม่มีคนช่วยแปลให้ จึงไม่ทราบว่ามีการพูดถึงกรณีที่นักการเมืองและสื่อจ้องโจมตีรัฐบาลคสช.ด้วยหรือไม่ ยืนยันการออกหนังสือเวียนดังกล่าวไม่ใช่เพราะรัฐบาลไม่มั่นใจในตนเอง แต่เป็นเพราะในช่วงปี 2561 นี้เป็นเวลาของการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเร่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและแก้ไขปัญหาให้กับประเทศและไม่ใช่การวางระบบเพื่อหวังทำงานต่อเพราะได้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเสมอว่าเป็นเรื่องของอนาคต

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า ไม่ได้รับจดหมายของพลเอกประยุทธ จันทรืโอชา นายกรัฐมนตรี  ซึ่งแจกให้กับรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และถือเป็นเรื่องปกติเวลานายกรัฐมนตรี นึกเรื่องที่ต้องการสื่อสารได้ ก็จะเขียนด้วยด้วยลายมือในลักษณะดังกล่าวมอบให้กับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งครั้งล่าสุดมีรัฐมนตรีหลายคนที่ไม่ได้ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งนั่งติดกับตนเอง แต่ก่อนหน้านี้ มีหลายครั้งที่นายกรัฐมนตรี ส่งข้อความด้วยลายมือให้กับตนเอง หรือรัฐมนตรีคนอื่นๆที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆโดยตรง ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีต้องการให้คณะรัฐมนตรีรับรู้เรื่องที่ต้องการสื่อสารพร้อมกันทุกคน จะใช้วิธีพิมพ์เป็นลายลักษ์อักษร