"สรรเสริญ"  ขออย่าฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมฟังข้อเรียกร้องเครื่อข่ายปชช.!!!

"สรรเสริญ" ขออย่าฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมฟังข้อเรียกร้องเครื่อข่ายปชช.!!!

รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนและนักวิชาการ วอนอย่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ชี้ให้ความสำคัญกับทุกปัญหา ย้ำหลายเรื่องดีขึ้นกว่าในอดีตมาก
วันที่ (20 มกราคม 2561) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่เครือข่ายประชาชนและนักวิชาการ People Go Network Forum จัดกิจกรรม
 We Walk เดินมิตรภาพ จากม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตไปยังจ.ขอนแก่น เพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายรัฐ 4 ประเด็นหลัก คือ ปัญหาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เกษตรทางเลือก หลักประกันสุขภาพ 
และการใช้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์ตามกฎหมายแล้ว ว่า

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของผู้ชุมนุม จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการ และย้ำว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอ 
โดยขอให้รวบรวมข้อมูลและส่งมายังรัฐบาล น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะอาจลุกลามเป็นความขัดแย้ง ขึ้นมาอีก”

 นอกจากนี้ รัฐบาลมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เนื่องจากเป็นการเดินทางระยะไกลหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจะดูแลรักษาความปลอดภัยได้ตลอดเส้นทางอย่างแน่นอน 
หากเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนขึ้นมา จะทำให้เกิดปัญหาได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าข้อเรียกร้องทุกประการของผู้ชุมนุม เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งหลายเรื่องดีขึ้นกว่าในอดีตมาก 
โดยรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างจริงจังหลายด้าน เช่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ มีการปราบปรามและหยุดยั้งการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่สูงชัน จัดทำแนวเขตที่ดินป่าไม้ 
จัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่า จัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ลดปัญหาสภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก แก้ไขกฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
 

ด้านการเกษตร ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ ให้เกษตรกร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์และเกษตรทางเลือกตามแนวทางศาสตร์พระราชา
สนับสนุนให้เกษตรกรลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวทำเกษตรแบบผสมผสาน และส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ผลักดันให้เกษตรกรเป็น Smart farmer ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต ฯลฯ
ด้านหลักประกันสุขภาพ สนับสนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้กับโรงพยาบาลของรัฐเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชาชนที่เข้ารับบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 
กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณ เป็นจำนวนเงิน 128,533 ลบ. เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ โดยประชาชนยังคงได้รับสิทธิเช่นเดิม และได้รับเพิ่มขึ้นอีก คือ ค่าบริการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก 
ค่าบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เป็นต้น 

 

ขอบคุณ : รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล