“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9  ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ  ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร

“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9 ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร เข้าใจคนไทย

วานนี้ ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี  นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”   ระหว่างการสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อการบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 โดยมีผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฯลฯร่วมงาน  จัดโดย สำนักงาน ก.พ. โดยกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร.9 ว่า  พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก พวกเราว่าเราทำงานหนักแล้วแต่ถ้าเที่ยบกับสิ่งที่ในหลวงทำตลอก 70 ปีที่ทรงงานนั้นเรียกว่าเทียบกันไม่ได้เลย ท่านทรงงานหนักที่สุด


“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9  ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ  ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร

“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9  ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ  ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร

 

“ ปี 2525 ท่านทรงงานหนักที่สุด ได้มีโอกาสตามเสด็จท่านไปกลางป่า  เพื่อเจาะพื้นที่สร้างสันเขื่อนในที่แห้งแล้งที่ห้วยทราย (จ.ประจวบฯ)  ที่แต่เดิมมีเนื้อทรายมากจนถูกเรียกว่าห้วยทราย แต่ตอนที่พระองค์ท่านเสด็จไปมันกลายเป็นห้วยทรายจริงๆ คือมีแต่ทรายไม่มีน้ำ  ตอนนั้นพระองค์ท่านก็ดำริให้สร้างที่เก็บน้ำ  ผลจากการตรากตรำพระวรกายมานานปีนั้นเป็นปีที่พระองค์ท่านทรงประชวรหนัก คนไทยทั้งหมดเลยสวดมนตร์ให้ประองค์ท่านหายประชวร” รมช.เกษตรฯกล่าว

นายวิวัฒน์กล่าวต่อว่า ในหลวง ร.9  ท่านทรงมีเมตตากับคนทุกเชื้อชาติ มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนจีนอพยพเข้ามาตั้งรกรากปลูกฝิ่นทางภาคเหนือ พระองค์ท่านก็เสด็จไปหาแล้วบอกกับคนเหล่านั้นว่าอยู่เมืองไทยอย่าปลูกฝิ่นเลยทำอย่างอื่นเถอะเดี๋ยวเราจะหาอาชีพอื่นๆมาให้ทำ ท่านไม่เคยใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาแต่ใช้ความรักความเมตตาชักชวนคนผิดกฎหมาย  อพยพมาก็ผิดกฎหมายแล้วมาปลูกฝิ่นก็ผิดกฎหมายอีกแต่ท่านไม่เคยเอากฎหมายไปลงโทษคนเหล่านี้ 

“ ในหลวงทรงแก้ปัญหาด้วยการใช้ธรรมะมากกว่ากฎหมาย  ท่านเกิดที่อเมริกาโตที่สวิส พูดได้ 8 ภาษา  ท่านมีเพื่อนที่มีแนวคิดคอมมิวนิสต์ก็มาก ทั้งจีน รัสเซีย เยอรมัน  มีพระสหายที่เป็นเสรีนิยมเยอะแยะ แต่เมื่อเกิดปัญหาท่านก็ไม่ได้เข้าข้างใคร ท่านเข้าใจทุกฝ่ายและดำรงค์ความเป็นกลาง  ศาสตร์พระราชาที่ท่านสอนพวกเรามาท่านก็ไม่ได้ท่องจำแต่เป็นสิ่งที่ท่านทรงทำให้เห็นมากับมือ  ผมโชคดีได้ตามเสด็จดูท่านทรงงานมาหลายปี  เป็นคนเขียนแผนพัฒนาโครงการให้กับพระองค์ท่าน บอกได้เลยว่าดึกๆดื่นๆ ท่านยังทรงงาน ท่านไม่เคยแสดงอาการโกรธใครเลย หลายครั้งที่เราเขียนพัฒนาแต่ตีความผิด ตีความเข้าใจของพระองค์ท่านไม่ถ่องแท้ก็ต้องเอากลับมาแก้ใหม่  ในหลวง ร.9 ท่านรับสั่งอยู่เสมอว่า อย่าเอาแต่ทฤษฏีฝรั่งมาใช้อย่างเดียว เราศรัทธาฝรั่งมากไปจนลืมว่าไทยก็เป็นหนึ่งในโลก เรามีของดีร้อยแปดประการมากมาย” รมช.เกษตรฯกล่าว

นายวิวัฒน์ยังกล่าวต่ออีกว่า ผมพูดอยู่เสมอว่าเราเป็นประเทศมีกำพรืดอันนี้คำพูดผมเอง เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปกลัวใคร  ในหลวง ร.9 รับสั่งเสมอว่า เราไม่พร้อมเป็นประเทศแบบสองขั้ว เราพร้อมเป็นแบบเรา  เราเป็นประเทศที่ไม่จน แต่เราก็ไม่อยากเป็นประเทศก้าวหน้าแบบสุดโต่ง  พอเพียงของพระองค์ท่านไม่ใช่ไม่ร่ำรวยไม่ใช่ไม่หรูหรา  ร่ำรวยได้ หรูหราได้  แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดโทษกับสัตว์  ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ 

“  เราจะไม่ประชุมในห้องแอร์หนาวๆแบบนี้ เพราะมันสิ้นเปลืองพลังงานเกินไป แต่เราจะไปทำงานในพื้นที่ป่าเขา พื้นที่ๆมีคนเดือดร้อน พื้นที่ๆมีความขาดแคลน  ในหลวง ร.9 ไม่ใช่ไม่เอาฝรั่งท่านก็เอามาแต่เอาไม่ทั้งหมด  พระองค์ท่านไม่ได้เดินตามทุนนิยมหรือเสรีนิยมแบบสุดโต่ง อดีตเคยมีความพยายามจะผลักดันให้เราเป็นเสือตัวที่ 5 เป็นประเทศนิกส์ (Nics) หรือประเทศอุตสาหกรรมใหม่  พระองค์ก็ตรัสถึงเรื่องนี้ว่า เราไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวย  เราก็รวยแบบพออยู่ได้  เราไม่ได้อยากเป็นประเทศที่ก้าวหน้ามาก เพราะหากเป็นประเทศที่ก้าวหน้ามากอนาคตก็จะมีแต่ถอยหลังและถอยหลังอย่างน่ากลัว ” รมช.เกษตรฯกล่าว

ทั้งหลายทั้งมวลคือเศษเสี้ยวของพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงในดวงใจ ร.9  ที่ตรากตรำทำงานหนักที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับราษฎรไทย  เป็นส่วนหนึ่งได้ถูก “อาจารย์ยักษ์”  อดีตข้าราชการบำนาญที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นข้าราชการการเมือง  อดีตลูกชาวนาที่ไต่เต้ามาจนถึงชั้นเสนาบดี   และเคยมีบุญได้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทพ่อหลวงแห่งแผ่นดิน และนำเรื่องราวยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านมาถ่ายทอดให้คนไทยได้รับฟังพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์

 

“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9  ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ  ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร

“ใช้ธรรมมะมากกว่ากฎหมาย” อ.ยักษ์เผยปรัชญาแก้ปัญหาของในหลวง ร.9  ถ่ายทอดเศษเสี้ยวพระมหากรุณาธิคุณ  ตลอด 70 พรรษา ทรงงานดึกดื่นไม่เคยโกรธใคร