เพื่อไทยออกแถลงการณ์อัดโกงกฎหมาย ค้านเลื่อนใช้ก.ม.ลูก  ซัดเล่นเล่ห์ทำกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ช้า หวังจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รองรับสืบทอดอำนาจ

เพื่อไทยออกแถลงการณ์อัดโกงกฎหมาย ค้านเลื่อนใช้ก.ม.ลูก ซัดเล่นเล่ห์ทำกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ช้า หวังจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รองรับสืบทอดอำนาจ

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอคัดค้านการเลื่อนระยะเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องรัฐบาลอย่าโกงกฎหมายหวังเปิดทางคสช.ตั้งพรรคใหม่เพื่อสืบทอดอำนาจ......ตามที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.... ได้มีมติเสียงข้างมากแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 2 ของ ร่างกฎหมายดังกล่าว โดยให้ก ฎหมายมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ในวันที่ 25 มกราคม 2561 นั้น
พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การมีมติของคณะกรรมาธิการขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยมีวาระทางการเมืองแอบแฝง เป็นการกระทาที่ไม่สุจริตและทาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ของกลุ่มผู้มีอานาจ เปิดช่องให้มีการสืบทอดอานาจและอยู่ในตาแหน่งต่อไป เป็นการกระทาที่ ขาดความชอบธรรม และขาดความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอานาจอธิปไตย และ ขาดเหตุผลรองรับอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือ

1. คสช. ได้ใช้กลไกและเทคนิคหรืออภินิหารทางกฎหมาย หลายครั้งที่ทาให้เข้าใจ ได้ว่าต้องการอยู่ในอำนาจให้ยาวนานที่สุด เริ่มตั้งแต่การที่ สปช. มีมติล้มร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการยกร่าง ที่มีนาย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ทาให้นายบวร ศักดิ์ ฯ ต้อ งอ อกมาพูดถึง เหตุผลของ เรื่องดังกล่า วทำนองว่า เพ ราะ เขาต้อ งกา รอยู่ยาว ต่อมา เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560ก็ได้วางกลไกในรัฐธรรมนูญให้ระยะเวลาของการ เลือกตั้งยึดยาวออกไป เช่น การจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐ ธรรมนูญของ กรธ . ก็ใช้ เวลาถึง 240 วัน ไม่รวมระยะเวลาการพิจารณาของ สนช . และองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่างกับ การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้กาหนดให้จัดทา ร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญที่จาเป็นต่อการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับจากวันที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ (ไม่ต้องรอให้รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ) ขณะเดียวกัน คสช. ก็ใช้อานาจในการออกประกาศ และคำสั่ง ห้ามพรรคการเมืองดำเนินการ ทางการเมืองตั้งแต่เมื่อมีการยึดอานาจการ ปกครองเป็นต้นมา นอกจากนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 กาหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน 150 วัน นับแต่วันที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับมีผลใช้บังคับแล้ว ได้แก่ พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ขณะที่ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 กาหนดให้มีการเลือกตั้ง ส .ส. ภายใน 90 วัน และดาเนินการ เพื่อให้ได้มาซึ่ง ส.ว. ภายใน 150 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้ง ส .ส. และการได้มาซึ่ง ส .ว. ใช้บังคับ เมื่อพิจารณากรอบเวลาดาเนินการแล้วจะ แตกต่างกันอย่างมาก นอกจากนี้ถ้า คสช. และ กรธ. เห็นว่าการเลือกตั้งมีความสาคัญก็ต้องจัด ให้มีกฎหมายทั้ง 4 ฉบับก่อน แต่กลับได้รับการพิจารณาหลังสุด ทั้งที่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ได้ให้ความสาคัญต่อกฎหมายทั้ง 4 ฉบับไว้เป็นลำดับต้นๆ

 

2. เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ประกาศใช้แล้ว ซึ่งกฎหมา ยได้กาหนดให้พรรคการเมืองที่มีอ ยู่ คงเป็นพรรคการเมืองต่อไป และรับรอง สมาชิกพรรคให้เป็นสมาชิกพรรคต่อไป และได้กาหนดกรอบระยะเวลาการดาเนินงานด้าน ธุรการของพรรคเพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง แต่ คสช. และ กกต. กลับตีความว่าประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดาเนินกิจกรรมทางการเมือง และคาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองมีผลใช้บังคับอยู่ ทาให้พรรคการเมืองไม่อาจปฏิบัติ ตามกฎหมายได้ แทนที่ คสช . จะยกเลิกประกาศและคาสั่งดังกล่าว กลับออกคาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ยกเลิกสมาชิกพรรคและสาขาพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิมและกาหนด เงื่อนไข และกรอบเวลาดาเนินการของพรรคการเมืองเสียใหม่ ซึ่งมีแต่เกิดผลเสียต่อพรรคการเมือง เดิม ขณะเดียวกันกลับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองที่เตรียมจัดตั้งพรรคการเมือง ใหม่ เพื่อรองรับการสืบทอดอานาจของผู้นา คสช. โดยมิได้ให้ความสาคัญว่า คำสั่งดังกล่าวจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญอย่างไร และกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสมาชิกพรรคและพรรค การเมืองอย่างไร

 

3. ระหว่างมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ของสนช.คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กลับเสนอให้มีการเลื่อนระยะเวลาการบังคับใช้ กฎหมายออกไ ปอีก 90 วัน โดยอ้างเรื่องเงื่อนไข และกรอบ เวลาตามคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 53/2560 จะเป็นปัญหาต่อพรรคการเมือง ซึ่งพรรคเห็นว่ามติดังกล่าวขาดความชอบธรรม และเหตุผลรองรับ ดังนี้
3.1 เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ที่กาหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 4ฉบับมีผลใช้บังคับแล้วนั้นถือว่ามี ความสาคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับเงื่อนเวลาดังกล่าว การที่ กมธ . กาหนดให้ขยายระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของกฎหมายออกไป 90 วัน ถือเป็นการจงใจที่จะ ฝ่าฝืนเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญแล ะมิใช่เป็นการใช้อภินิหารทางกฎหมายเท่านั้น แต่ถือเป็น “การโกงกฎหมาย” ทีเดียว
3.2 ตามคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 53/2560 ไม่มีข้อใดที่ กมธ . จะยกเป็นข้ออ้างเพื่อขยาย ระยะเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งออกไปได้ แต่ตรงกันข้ามเมื่อดูตามคาสั่ งหัวหน้า คสช . ข้อ 8 ที่กาหนดให้วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ใช้บังคับ เป็นเงื่อนไขสาคัญของการยกเลิกประกาศ คสช . และคาสั่งหัวหน้า คสช . ซึ่งรวมถึงประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 และคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 3/2558 ด้วย ดังนั้น การเลื่อนระยะเวลา บังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งออกไป 90 วัน จะทาให้การปลดล็อคพรรคการเมืองเพื่อจัดประชุม ใหญ่ เพื่อแก้ไขข้อบังคับ การเลือกกรรมการบริหาร และจัดตั้งสาขาพรรค รวมถึงการรับ สมัครสมาชิกพรรคใหม่ต้องเลื่อนออกไปอีก 90 วัน ด้วย
3.3 การขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎหม ายเลือกตั้งออกไป 90 วัน จะส่งผลกระทบ หลายด้านตามมา ประการแรก ทาให้ประกาศ คสช . ฉบับที่ 57/2557 และคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 3/2558 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป พรรคการเมืองยังไม่สามารถดาเนินกิจการ ของพรรค การเมืองได้ และประชาชนก็ยังถูกห้ามชุมนุมทางการเมืองต่อไป ประการ ที่สอง พรรคการเมืองก็ยังไม่สามารถที่จะประชุม เพื่อแก้ไขข้อบังคับ เลือกกรรมการบริหาร และจัดตั้ง สาขาพรรค รวมถึง ดาเนินการ อื่น เพื่อเตรียมการสาหรับการเลือกตั้งได้ จนกว่าจะครบเวลา 90 วัน ที่ขยายออกไปและ คสช. ยกเลิกประกาศทั้ง 2 ฉบับแล้ว
3.4 การขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไป ทาให้ คสช. สนช. รวมถึง องค์กร ในเครือข่ายของ คสช. ได้อยู่ในอานาจต่อไป เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และได้รับ ผลตอบแทนจากงบประมาณแผ่นดินในหลายตาแหน่ง เปิดโอกาสให้หัวหน้า คสช . ซึ่งดารง ตาแหน่งนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือ ง ใช้ทรัพยากรของรัฐในการหา เสียงล่วงหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ
 

4. การขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองที่จะจัดตั้ง ขึ้นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการตั้งพรรคเพื่อสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ ดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอกต่อไป เพราะน อกจากกลุ่มการเมืองนี้จะได้ประโยชน์ จากคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 53/2560 โดยสามารถจัดประชุม จัดหาสมาชิก หรือผู้มีอุดมการณ์ ร่วมกันการเตรียมผู้สมัครซึ่งอาจรวมถึงการหาเสียงล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1มีนาคม2561 แล้ว การขยายเวลาไปอีก 90 วัน ย่อมทาให้กลุ่มการเมืองนี้ มีเวลาเตรียมการสาหรับส่งผู้สมัคร รับเลือกตั้งถึงหนึ่งปีเต็ม ขณะที่พรรคการเมืองเดิมยังไม่สามารถดาเนินการดังกล่าวได้ จนกว่า จะมีการยกเลิกประกาศ คสช . ฉบับที่ 57/2557 และคาสั่งหัวหน้า คสช . ที่ 3/2558 และจะ ยกเลิกประกาศและคาสั่งดังกล่าวได้ ต่อเมื่อมีการประกาศ ใช้กฎหมายเลือกตั้งแล้ว เมื่อมีการ ยืดเวลาบังคับใช้กฎหมายต่อไปเท่าใดก็จะมีผลกระทบต่อพรรคการเมืองเดิมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

 

5. เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า คสช. และแม่น้า 5 สาย พยายามทุกวิถีทางที่จะใช้ อานาจ และกระบวนการ ทางกฎหมาย ที่พวกตนสร้างขึ้นทั้งหมด รวมทั้ง อานาจข องหัวหน้า คสช . ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ในการออกคาสั่งที่มีผลกระทบต่อการ จัดการเลือกตั้งและต่อพรรคการเมืองโดยตรง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองให้กับ คสช. และกลุ่มการเมืองที่สนับสนุน คสช . ขณะที่พรรคการเมืองเดิมไม่สามารถทากิจกรรม ทางการเมืองใดได้เลย ย่อม เห็นได้ชัดเจนว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ย่อมมิได้เป็นไปอย่างเสรี และเป็นธรรมตามหลักการสากลอย่างแน่นอน

            
6. การที่หัวหน้า คสช . และนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไว้ต่อประชาชนและนานาชาติ และยืนยันคาประกาศดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพ ฤศจิกายน 2561 การ เลื่อนกาหนดวันเลือกตั้งออกไปจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ทั้งในประเทศ และต่อ นานาชาติอย่างมีนัยสาคัญพรรคเพื่อไทยจึงขอคัดค้าน และไม่เห็นด้วยต่อการเลื่อนระยะเวลาการบั งคับใช้ กฎหมายเลือกตั้งออกไปอีก 90 วัน หรือจะกี่วันก็แล้วแต่ และ ขอเรียกร้ องให้องค์กรที่ เกี่ยวข้องทั้งหลาย หยุดทาร้ายประเทศด้วยกระบวนการโกงกฎหมายอีกต่อไป และเร่งคืน อานาจให้กับประชาชนตามโรดแมปที่ประกาศไว้  จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


พรรคเพื่อไทย 24 มกราคม 2561