แล้วไง..ใครแคร์ !!??"หมวดเจี๊ยบ" จี้ "บิ๊กตู่" รับผิดชอบ "ดอน"บอก "สหรัฐ"ไม่ถือสาเลื่อนเลือกตั้ง หลังปี 61

ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า สหรัฐอเมริกาไม่ถือสา หากรัฐบาลไทยจะจัดการเลือกตั้งหลังจากปี 2561 ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ง (คสช.) จะรับผิดชอบอย่างไร ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พูดจาบิดเบือนจนทำให้ประเทศไทยเสียเกียรติภูมิ โดยอ้างว่าสหรัฐไม่ถือสา ถ้าไทยจัดการเลือกตั้งไม่ทัน ภายในปี 61 แต่ทั้งเอกอัครราชทูตฯ สหภาพยุโรปและโฆษกสถานทูตสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ยืนยันชัดเจนว่า ต้องการเห็นประเทศไทยกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยในเดือนพฤศจิกายน 61 ตามที่ พลเอกประยุทธ์ ได้ให้คำมั่นไว้ต่อประชาคมโลก

"นี่ถ้าสหรัฐ และสหภาพยุโรปไม่รีบออกมาปฏิเสธ คนไทยก็คงเข้าใจผิดไปแล้วว่าต่างชาติคงจะตกลงกับรัฐบาลได้แล้วจริงๆ เรื่องจะเลื่อนเลือกตั้ง  รัฐบาลคิดว่าจะหลอกคนไทยยังไงก็ได้งั้นหรือ"

ร.ท.หญิง สุนิสา กล่าวต่อว่า การแสดงท่าทีของต่างชาติในครั้งนี้ไม่ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองภายในของไทย เพียงแต่ต่างชาติเขามีความชัดเจนและพูดจาตรงไปตรงมา และสะท้อนว่าต่างชาติเห็นความสำคัญของประเทศไทยและอยากคบหาสมาคมกับคนไทย เขาจึงอยากเห็นประเทศไทยกลับไปเดินบนแนวทางที่ถูกต้องตามวิถีทางประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยอมรับ ถ้าประเทศไทยไม่รักษากติการะหว่างประเทศ ต่างชาติก็จะวางตัวลำบากในการมีความสัมพันธ์กับประเทศไทย

ทั้งนี้ คำพูดของสหรัฐและสหภาพยุโรป ถือว่ามีน้ำหนัก เพราะเมื่อสหภาพยุโรปพูด ก็เท่ากับว่าชาติยุโรปอีก 28 ประเทศ ได้ร่วมกันพูดเป็นเสียงเดียวกัน ส่วนสหรัฐก็มีความชอบธรรมที่จะทวงคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลไทยเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้บินไปลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรในแถลงการณ์ร่วมสหรัฐ-ไทย ข้อที่ 8 โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับสหรัฐว่าจะจัดการเลือกตั้งที่มีความเป็นอิสระและเป็นธรรมภายในปี 2561 ไม่ใช่ 2562

 

"การที่บุคคลสำคัญในรัฐบาลพูดจาบิดเบือนเจตนารมณ์ของต่างชาติแบบนี้ ถือเป็นเรื่องน่าเกลียดและทำลายความน่าเชื่อถือของคนไทยทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบที่รัฐบาลของท่านทำให้ประเทศไทยขายหน้าบนเวทีโลก และทำให้ไทยเสียโอกาสที่จะแสดงบทบาทนำในภูมิภาค เพียงเพราะมีรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยซึ่งโลกไม่ให้การยอมรับ"